ขอคำปรึกษาจากผู้รู้ค่ะ ตอนนี้พี่สาวของหนูผ่อนบ้านมาได้ 4 ปีแล้ว แต่บ้านโดนยึดทรัพย์บังคับคดีค่ะ บ้านหลังนี้ตอนกู้เป็นการกู้ร่วมกันระหว่างพี่เขยกับพี่สาว พอเลิกกันไปได้2ปี มีหมายศาลมาที่บ้านว่าบ้านถูกยึดโดยกรมบังคับคดี เพราะว่าสามีเก่าของพี่สาวไปคำ้ประกันออกรถให้เพื่อนแล้วเพื่อนไม่จ่ายงวดรถไฟแนนซ์เขาจึงได้มาไล่บี้เอากับคนค้ำ (สามีเก่าพี่สาว) ซึ่งคนค้ำก็ไม่มีทรัพย์อะไรให้ยึดมีเพียงแต่บ้านที่กู้ร่วมกันตอนยังไม่เลิกกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องบ้านที่ถูกยึดทรัพย์ก็ยังขายไม่ได้ แต่พี่สาวหนูก็ต้องผ่อนเพราะกลัวโดนฟ้อง ผ่อนแบบเสียเปล่าไม่ได้อะไรเลย ผ่อนมาตลอดพอเจอพิษโควิดและเศรษฐกิจแย่แบบนี้จนถึงตอนนี้รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วค่ะ
อยากปล่อยบ้านทิ้งไม่ผ่อนแล้วเพราะผ่อนไปบ้านก็ไม่ใช่ของเราอยู่ดี แต่ปัญหาคือพี่สาวของหนูเขาผ่อนรถยนต์อยู่ซึ่งผ่อนมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว สัญญาการผ่อนชำระรถอยู่ที่ 7 ปี อยากทราบว่าถ้าปล่อยบ้านทิ้งไม่ชำระ จะมีผลกระทบต่อรถไหมคะ เมื่อเราผ่อนรถใกล้หมดเขาจะมีสิทธิ์มายึดรถของพี่สาวได้หรือไม่ ตอนนี้คิดว่าจะทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาผู้เช่าซื้อให้เป็นชื่อพ่อแทน แต่ติดเงื่อนไขของทางไฟแนนซ์เพราะตอนนี้ได้ทำเรื่องพักชำระหนี้รถไว้กับไฟแนนซ์ 3 เดือนค่ะ แล้วเงื่อนไขคือหลังจากพักชำระหนี้แล้ว ครบ 3 เดือนต้องต่อเวลาไปอีก 6 เดือนถึงจะทำการเปลี่ยนสัญญาผู้เช่าซื้อได้ค่ะ อยากถามว่า

1. ถ้าผ่านเงื่อนไขข้อนี้ไปแล้ว 6 เดือนแล้วค่อยทำการเปลี่ยนสัญญาผู้เช่าซื้อรถใหม่ แต่ทิ้งบ้านไม่ส่งงวดบ้านตั้งแต่ตอนนี้ธนาคารเขาจะสืบทรัพย์และส่งฟ้องเราเลยไหมคะ
2. แล้วถ้าสืบทรัพย์แล้วสามารถส่งฟ้องได้จะมีอายุความกี่ปี

เพราะว่าตอนนี้ไม่มีเงินจะส่งบ้านแล้วจริงๆ แต่ก็ยังทำเรื่องเปลี่ยนสัญญารถไม่ได้อีก คืออยากเอารถไว้เพราะผ่อนมาตั้งสองปีแล้ว พอจะมีวิธีแนะนำไหมคะ

กลัวว่าระหว่างที่เรายังไม่เปลี่ยนสัญญาผู้เช่าซื้อ  ทางธนาคารเรื่องบ้านเขาจะฟ้องบังคับคดีเรามีอายุความไปถึงตอนที่เรายังไม่เปลี่ยนสัญญาเนี่ยแหละค่ะที่กังวล

ขอความกรุณาให้คำปรึกษาหน่อยนะคะ ตอนนี้เครียดมากเลยเพราะเราไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องแต่กรรมกลับมาตกที่เรา ทุกข์ใจมากเลยค่ะ 😔 รถเราผ่อนอยู่ดีๆหาเงินส่งแทบตายแต่กลัวว่าสุดท้ายจะต้องเสียรถไป
ตอนนี้เสียบ้านไปแล้วไม่อยากเสียรถไปอีกกว่าจะหาได้แต่ละอย่างมันยากเย็นแสนเข็ญมากเลยค่ะ