แม่เพื่อนยืมเงินไปเป็นปีๆ ไม่คืน และทำแบบนี้กับเพื่อนของลูกหลายรายทำอย่างไรดีคะ

สวัสดีค่ะ ตั้งกระทู้มาขอคำปรึกษาเนื่องจากประสบปัญหาลูกหนี้ไม่คืนเงิน ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นกับเราแค่คนเดียวแต่ยังมีเพื่อนของเราด้วยค่ะ ต้องขอเล่าย้อนไปก่อนว่าคนที่ยืมไปคือคุณแม่ของเพื่อนสนิทในกลุ่ม ซึ่งตอนที่มายืมเป็นเมื่อช่วงต้นๆปี2561 ตอนนั้นทางบ้านเขาเหมือนกำลังมีปัญหาทางการเงิน บวกกับปัญหาภายในครอบครัว หย่าร้างกันประมาณนี้ค่ะ ทางฝ่ายคุณพ่อเขาก็เหมือนจะไม่ได้ส่งเสียค่าเลี้ยงดูอะไรมากมาย และทางตัวลูก(ก็คือเพื่อนเรา)ก็อยู่กับแม่ ส่วนทางพ่อไปมีครอบครัวใหม่ เรียกง่ายๆว่าเราเห็นเขาเจอปัญหามรสุมชีวิตหนักมาก ทั้งเรื่องการเงินเรื่องครอบครัวต่างๆ และมักจะส่งข้อความแชทมาบ่นระบายกับเราเป็นประจำ ซึ่งแรกๆก็ไม่มาก บ่นสัพเพเหระ เราเห็นเป็นแม่เพื่อนก็ตอบไป แต่หลังๆก็หนักขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ไม่ได้กินข้าวบ้าง กินมาม่า เอาทีวีไปจำนำบ้าง ต้องเอาของในบ้านไปขาย วันนี้ไม่ได้ออกไปทำงานเพราะมีเจ้าหนี้ที่ไปกู้เงินนอกระบบมาตามทวง ซึ่งขณะนั้นเราผู้ไม่ประสีประสากับเรื่องราวโกหกทั้งหลายนี้ก็หลงเชื่อไปหมด เกิดความสงสาร แถมไอ้เราก็สนิทกับเพื่อน ก็เกิดสงสารเพื่อนอีก ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นหายนะของเรื่องเลยค่ะ

แม่เพื่อนก็เริ่มเปรยมาแล้วว่าเงินไม่มี พอมีบ้างไหม และเริ่มแอดเฟสบุคแม่ของเราไป ไปแชทคุย(เล่าความลำบากของเขาแบบที่พูดกับเรา) เล่าความน่าสงสารต่างๆ เล่าเรื่องลูกต้องอยู่อย่างลำบาก แบบนั้นแบบนี้ แม่เราก็เห็นใจ บวกกับเพื่อนเราก็เป็นเด็กเรียนเก่ง กิจกรรมดี แม่เรายิ่งเห็นใจเลยเพราะอยากให้เด็กดีๆได้รับการสนับสนุน สุดท้ายก็เข้าเรื่องขอยืมเงินจนได้ แถมเราที่ไม่รู้เรื่องราวยังไปไซโคแม่ตัวเองว่าให้เขายืมไปเถอะ

รอบแรกก็ยืมไปแค่7,000 ช่วงนั้นก็ช่วงจะเปิดเทอม ต้องจ่ายค่าเทอมค่าหนังสือต่างๆ เขาก็ให้เหตุผลว่าเอาไปจ่ายค่าเทอมลูก หลังจากนั้นยังคงแชทมาเรื่อยๆตลอดๆว่าชีวิตลำบากมาก และเริ่มหนักเรื่อยๆถึงขั้นบ่นอยากตาย อยากจะฆ่าตัวตาย ชีวิตไม่รู้จะสู้ยังไง เราก็ตกใจ เป็นห่วงอีกสุดท้ายก็ยืมไปอีก3,000 แต่ก็ยังไม่หยุดนะคะ ยังคงแชทมาแทบทุกวัน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาแต่งเรื่องสารพัดหนักมาก (ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้เรื่องจริงแค่ไหนบ้าง) และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยที่เขากำชับเราตลอดว่าขออย่าบอกลูกเขาเลยนะ เขาอาย ไม่อยากให้ลูกรู้ กลัวลูกเสียใจ เราเป็นห่วงจิตใจเพื่อนด้วยก็โอเคตกลง ไม่ได้เล่าให้ใครฟังนอกจากครอบครัว ณ ตอนนั้นเรายังไม่รู้ความ บอกอะไรก็เชื่อไปหมด ไม่เอะใจอะไรแม้แต่น้อยค่ะ พอตอนนี้ปัจจุบันมองย้อนกลับไปคืองงหนักมาก เพราะพอรู้ความจริงว่าเขากลับกลอกตั้งใจหนีหนี้ เรื่องต่างๆดูไร้สาระไปเลย

ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่ง ตอนนั้นเราอยู่กับเพื่อน (ก็คือลูกของเขานั่นแหละ) เขาก็ทักมาหาเราว่าตอนนี้ทำงานอยู่กำลังจะเลิกงาน ทำกระเป๋าตังหาย ไม่รู้จะกลับบ้านยังไง บ่นมาเยอะมากก ดูเครียดมากก เราก็เลยบอกเพื่อนเพราะว่าอยู่ด้วยกันพอดี เพื่อนเราก็งงว่าทำไมแม่ตัวเองแชทมาบอกเราแต่ไม่ทักไปบอกลูกตัวเอง เพื่อนเราก็จัดการทักไปหาแม่ถามนั่นนี่ และได้ความว่าไม่เป็นไรแล้ว เจอแล้ว ซึ่งบอกเลยว่าตอนนั้นเราไม่คิดสงสัยอะไรแม้แต่นิด เพิ่งมานึกขึ้นได้ตอนหลังว่าคงเป็นหนึ่งในแผนของเขา ทำเนียนว่ากระเป๋าตังหายจะมายืมเงินแน่นอน

จนหลังๆ เราไม่ค่อยตอบแชทเขาแล้วเพราะไม่อยากรับรู้อะไร (ตรงๆคือเขาบ่นเยอะมาก นอยชีวิต ท้อใจต่างๆ) เขาก็เริ่มรู้แล้วว่าเราไม่ค่อยสะดวกใจจะให้ยืมอีก เรามีทักไปทวงบ้างเป็นระยะ แต่ไม่บ่อย เขาก็ผลัดทุกครั้ง บอกไม่มีบ้าง ต้องจ่ายค่านู่นนี่ และตอนนี้เองที่เขาเริ่มเบนเป้าหมายไปหาเหยื่อรายอื่น ก็คือเพื่อนอีกคนในกลุ่มนั่นเอง ขอแทนว่าเพื่อนAนะคะ ซึ่งแผนก็คล้ายๆเดิม ทำเนียนเล่าเรื่องความลำบาก ต้องการเงิน ค่าเทอมค่านู่นนี่ (แต่หลักๆเลยชอบอ้างเรื่องค่าเทอมลูก) แต่ครั้งนี้ต่างจากเดิมคือเขายืมเงินของเพื่อนลูกเลย ร่วมหมื่นได้ ไม่ใช่เงินแม่ๆอีกต่อไป ทำให้เพื่อนเราไม่ค่อยยอมค่ะที่เขาไม่คืน เพราะเป็นเงินของเพื่อนเองและเพื่อนก็ยังเรียนอยู่ ไม่ได้มีมากมายอะไร ต่างจากเราที่เป็นเงินแม่ เราก็เลยไม่ได้เดือดร้อนเท่าเพื่อน ซึ่งตอนนี้เองที่เรื่องราวถูกเปิดโปง  เพราะเรานั่งอยู่กับเพื่อนAและบังเอิญเห็นแชทที่เพื่อนAคุยกับเขาคล้ายกำลังทวงเงิน เราก็ตกใจ เลยถามทันทีว่าอะไรยังไง จนได้ความว่าโดนเหมือนกันทั้งคู่ เอาล่ะสิ เราก็สาวความปรึกษาคุยกันจนสรุปได้ว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนอีกคนในกลุ่มฟัง (จะเรียกแทนว่าเพื่อนBค่ะ) เพราะเพื่อนคนนี้สนิทกับลูกของเขามากที่สุด รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

นี่เอง จุดclimaxของเรื่องเมื่อเพื่อนBก็ตกใจที่ได้รู้เรื่อง เพราะโดนมาเหมือนกัน!!!!!!! แถมยังหนักที่สุด โดนยืมไป30,000ตั้งแต่ปี2560แล้ว เรียกได้ว่าโดนก่อนใครเพื่อนและค้างมาเป็นปี ผลัดมาตลอด และก็ยังไม่ได้คืนแม้จะคอยทวงอยู่เรื่อยๆ เราช็อคมากที่เขายืมไปทั่วขนาดนี้ แทบจะทั้งกลุ่มเลย เว้นไว้ไม่กี่คนเพราะคนอื่นในกลุ่มก็ไม่ได้มีมากมายอะไร เหมือนเขาก็เก็บข้อมูลมาบ้างว่าเพื่อนลูกคนไหนมีหรือไม่มีพอจะให้ยืม

แรกๆเราก็ทวงกันดีๆค่ะ พูดคุยปกติ เพราะเชื่อว่าเขายังลำบากและคงไม่มีจริงๆ แต่หลังๆเริ่มไม่ใช่แบบนั้น เราเห็นเขาเริ่มไปเที่ยวมากขึ้น ไปดูหนังบ้าง กินอาหารดีๆ ซื้อของซื้อเสื้อผ้า ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน โอเค มันอาจจะเป็นกำไรชีวิตเล็กๆน้อยๆของเขา แต่พวกเราเจ้าหนี้ล่ะ มันก็คือเงินของเราเหมือนกัน พวกเราก็เริ่มทวงกันมากขึ้น มีการกดดัน(ผ่านทางแชท) ทักไปบ่อยๆ เขาก็ตอบแบบเดิมค่ะ เล่นบทน่าสงสาร ทำนองว่า‘ไม่มีจริงๆ ถ้ามีก็จะให้ ช่วงนี้ที่ทำงานลดเงินเดือน ไม่มีโอที ค่าใช้จ่ายเยอะ’ บอกจะคืนๆๆๆๆก็ไม่เคยได้สักครั้ง เป็นแบบนี้อยู่เป็นปีสองปี โดยที่เรารับรู้กันตลอดว่าพวกเขาเอาเงินไปเที่ยวไปทำอะไรกันบ้าง และเริ่มจะฟู่ฟ่าขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหมือนครอบครัวทางพ่อก็ส่งเงินให้ด้วย

สุดท้ายพวกเราตัดสินใจว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องบอกให้ลูกของเขารู้ได้แล้ว เราไม่อยากให้เพื่อนใช้เงินแบบนี้โดยที่ไม่รู้ว่าแม่ตัวเองติดหนี้อะไรไว้และการเงินทางบ้านเป็นอย่างไร อาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายบ้าง เราก็คาดหวังว่าบอกไปลูกอาจจะกดดันทำให้เขาคิดละอายอยากจะคืนขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ค่ะ บอกไปก็ยังเหมือนเดิม เขาก็ยังคงไม่คืน อ้างไปเรื่อยเหมือนเดิม ใช้เงินกันฟู่ฟ่าเช่นเดิม โอเค พวกเราอาจจะผิดที่บอกไปไม่รุนแรง เราบอกไปแบบซอฟท์ๆแค่ว่าติดเงินพวกเราอยู่นะ ประมาณนี้ ไม่ได้ใส่เรื่องใส่อารมณ์ไปว่าพวกเราต้องการเงินคืนจริงๆ!!! (ก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจหรือทำให้เพื่อนอายด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อนคนนี้ก็เป็นคนดีค่ะ ปัญหาอื่นไม่มี สนิทกันมาก เรียกได้ว่าพวกเรามีปัญหากับแม่ของเขานั่นแหละ) สรุปง่ายๆว่าปัญหาหลักคือสถานะเพื่อนที่ค้ำคอทำให้พวกเราไม่กล้าทวงอย่างบุ่มบ่าม ได้แต่พิมแชททวงแม่ไป ไม่อย่างนั้นน่าจะโพสประจานไม่ก็บุกไปทวงถึงบ้านแล้วค่ะ

ทุกวันนี้คือเรียกได้ว่าเขาไม่ลำบากแล้วล่ะ ซื้อเสื้อผ้าเป็นพัน ไหนจะค่าเทอมมหาลัยแพงขึ้น ซื้อสิ่งฟุ่มเฟือยต่างๆอย่างไอแพด เป็นต้น เราโมโหมากกก คือเรารู้เราเห็นหมดเลยว่าเขามีเงินนะ เขาเอาไปซื้อแต่ของราคาแพงที่ไม่ได้จำเป็นอะไร มีเงินไปกินไปเที่ยวแต่คืนเราไม่ได้ เงินมันอาจจะไม่ได้เยอะหลักแสนหลักล้านแต่มันก็คือเงินของเรา และเอาไปทำอะไรได้หลายอย่าง เราก็ไม่รู้นะคะว่าเขาบอกลูกตัวเองยังไงเรื่องฐานะการเงินที่บ้าน แต่ที่เราเห็นคือทั้งคู่ยังพอมีเงินใช้ ทั้งเรื่องที่จำเป็นและของที่ไม่จำเป็นโดยไม่ได้ลำบากอะไร บางเรื่องก็ดูจะฟุ่มเฟือยเกินเหตุด้วยซ้ำ

เราทวงดีๆก็แล้ว กดดัน พูดแซะจิกกัดอะไรก็แล้ว แต่ไม่สนใจ บางครั้งก็ไม่อ่านแชทเลย  เราเสนอว่าทยอยคืนก็ได้ เดือนละพันเดือนละร้อยก็ได้ทยอยๆไปเดี๋ยวก็หมด ก็ไม่ค่ะ เรียกได้ว่าซักบาทก็ยังไม่ได้เห็นแม้แต่เงา เพื่อนเราก็ไม่ต่างกัน เจอแบบเดียวกัน ทวงแล้วทวงอีก หืดขึ้นคอ เป็นปีๆแล้วก็ยังไม่ได้ ทั้งๆที่เรารู้ว่าเขามีเงินพอจะจ่ายคืน และเขาก็รู้ด้วยว่าพวกเรารู้กันหมด

ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ คิดจะแจ้งความก็ทำไม่ได้เพราะเป็นคดีแพ่ง ครั้นจะฟ้องร้อง ลองศึกษาดูหลายๆท่านก็บอกว่าค่าคดีความทำคดีต่างๆเผลอๆเยอะกว่าหนี้ที่จะได้คืน แถมไม่รู้จะยึดอะไรได้ไหมถ้าเขามีไม่ถึงเกณฑ์ตามกฎหมาย สัญญากู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษรไม่มี มีแค่หลักฐานสลิปการโอนเงิน พยาน และแชทต่างๆ(เป็นร้อยๆพันๆหน้า)เท่านั้น ไม่รู้จะสู้ได้หรือไม่ เนื่องจากกฎหมายค่อนข้างคุ้มครองลูกหนี้ ดีไม่ดีจะโดนฟ้องหมิ่นประมาทกลับ ตอนนี้ที่คิดออกก็มีแค่ต้องไปกดดันถึงหน้าบ้าน หรือไม่ก็ต้องคุยกับเพื่อนอีกครั้ง ให้ไปบอกแม่ตัวเอง (ซึ่งพวกเราไม่ค่อยอยากทำกัน เพราะกลัวจะเข้าหน้ากับเพื่อนไม่ติด)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่