(เกาะ Envaitenet ในเคนยา)
เคนยา เป็นที่ตั้งของหนึ่งในความลึกลับที่ยังไม่คลี่คลายที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นเกาะเล็ก ๆ ชื่อว่า " Envaitenet " ตั้งอยู่บนทะเลสาบ Rudolf ที่มีความยาวเพียงไม่กี่กิโลเมตร ชื่อของเกาะมาจากภาษาอะบอริจิน แปลว่า "ไม่สามารถคืนกลับได้" ความหมายนี้หมายถึงความเชื่อที่ว่าทุกคนที่เข้าไปในเกาะแห่งนี้จะไม่มีวันหวนกลับออกมา นั่นเป็นเหตุผลที่เกาะ Envaitenet เป็นที่รู้จักในฐานะเกาะแห่งคำสาป
แม้ว่าหลายชนเผ่าและคนในท้องถิ่นจะอาศัยอยู่รอบๆ เกาะนี้ แต่ก็ไม่มีใครอาศัยอยู่ในเกาะนั้น เนื่องจากเป็นที่เชื่อกันว่าสถานที่นี้ถูกสาป โดยชาวบ้านบอกว่าเคยมีหลายคนเคยอาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อหลายปีก่อน พวกเขาตกปลา ล่าสัตว์ ค้าขายกับญาติพี่น้องบนแผ่นดินใหญ่ ต่อมา อยู่ๆชาวเกาะก็หยุดมาที่แผ่นดินใหญ่อย่างกะทันหัน
จากนั้น ชายหลายคนจากหมู่บ้านรอบๆ ได้มาที่เกาะเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาไปถึงเกาะ พวกเขาถึงกับตะลึงกับสิ่งที่เห็น นอกจากกระท่อมที่เต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ และปลาที่เน่าเปื่อยอยู่ใกล้กับกองไฟที่ดับแล้ว ก็ไม่มีร่องรอยของมนุษย์ที่นั่น มันได้กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ทั้งหมดจึงออกจากเกาะอย่างรวดเร็ว และตัดสินใจที่จะไม่ทำการใดๆ จากนั้น ก็ไม่มีใครกล้าไปที่นั่นอีกเลย
หากจะกล่าวถึงเรื่องที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะแห่งคำสาปและผู้คนที่หายไปจากเกาะนั้น ต้องย้อนกลับไปประมาณปี 1630 ตอนนั้นบนเกาะ Envaitenet
มีชาวพื้นเมืองหลายครอบครัวอาศัยอยู่ และท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ประชากรของหมู่บ้านก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างหนึ่งที่น่าแปลกคือบนเกาะไม่มีสัตว์ใดๆแม้แต่นก
มีหลายกรณีของการหายตัวไปอย่างลึกลับบนเกาะ Envaitenet
(ในภาพคือกระท่อมทรงกลมบนชายฝั่งของทะเลสาบ Turkana ที่สร้างจากต้น doum palm ของชาว El molo)
มีเพียงพืชพันธุ์พื้นเมืองพิเศษบางชนิดที่เจริญเติบโตได้ดี, เนินเขาราบเรียบราวกับขัดเงา, หินสีน้ำตาลที่ปรากฏขึ้นเป็นจุดๆ และเสียงแปลก ๆ ที่เยือกเย็นและน่ากลัวที่ชาวเกาะได้ยินในทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง บางครั้งก็เป็นเสียงกรีดร้องที่น่าขนลุกสลับกับเสียงสะอื้นที่ยืดเยื้อ ซึ่งกินเวลาตั้งแต่สองสามนาทีถึงหนึ่งชั่วโมง เมื่อเวลาผ่านไป บางส่วนของเกาะก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ จากกิ่งก้านของต้นไม้ที่เกี่ยวพันกันอย่างแน่นหนาจนเริ่มแข็งเป็นหิน ปิดกั้นผู้สนใจที่จะเข้าไปในใจกลางเกาะนั้นตลอดไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดจากการบันทึกคือ การพรรณนาถึงผลที่ตามมาจากการเผชิญหน้ากับสิ่งที่มักปรากฏแก่ชาวบ้านในตอนกลางคืนในรูปของผีที่เหมือนมนุษย์ หลังจากนั้นผู้เคราะห์ร้ายก็จะนอนนิ่งอยู่บนพื้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่หลังจาก "ตื่นขึ้น" แต่ละคนจะประสบกับเหตุร้าย และบาดเจ็บสาหัสอย่างอธิบายไม่ได้ โดยกลายเป็นคนพิการ เสียชีวิตจากพิษจากปลาที่พวกเขากินมานับครั้งไม่ถ้วน หรือจากภาวะติดเชื้อที่ไม่น่าจะเป็นอันตราย
และแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งแต่กลับจมน้ำตายในทะเลสาบที่นิ่งสงบนี้ บางคนรู้สึกปวดกล้ามเนื้อจนทนไม่ไหว ปวดหัวอย่างรุนแรง เบื่ออาหารเป็นเวลานานและมักจะสูญเสียการมองเห็น เด็กๆ หายตัวไปต่อหน้าต่อตาแม่ของพวกเขาและไม่มีใครพบอีกเลย ส่วนผู้หญิงให้กำเนิดทารกที่ไม่นานก็ตาย และร่างกายของพวกเขาจะมัมมี่ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศในเขตร้อน ความลึกลับเหล่านี้มีมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ทำให้สมาชิกของเผ่า Elmolo ย้ายจากชายฝั่งของทะเลสาบไปยังป่าเพื่อให้ห่างไกลจากเกาะมากที่สุด
ทะเลสาบ Turkana เมื่อมองจาก The Barrier Volcanic Complex ออกไปเหนือภูเขาไฟ Teleki ไปจนถึงทะเลสาบ Turkana
ส่วนโดมที่เห็นคือภูเขาไฟ Navbiotum ที่ยังนิ่งสงบ
จนในระหว่างปี 1990 - 1935 เพื่อต้องการบันทึกเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับเกาะและผู้คนที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ผู้นำนักสำรวจชาวอังกฤษ
Vivina Fusch ได้ส่งนักธรรมชาติวิทยา Brian Dayson พร้อมเพื่อนร่วมงาน Michael Sheflis ไปบนเกาะ ซึ่งหลายวันทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ โดยทุกเย็นในเวลาที่ตกลงกัน พวกเขาจะจุดไฟขึ้นให้บนแผ่นดินใหญ่เห็น เพื่อเป็นสัญญานว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
ต่อมาสัญญาณไฟก็หยุดลงจนสองสัปดาห์ผ่านไป ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการหายไปนานของสมาชิก คณะสำรวจหลายคนได้ไปที่เกาะ พวกเขาตั้งข้อสังเกตด้วยความประหลาดใจถึงการหายตัวไปของ M. Sheflis และ B. Dayson ว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น เนื่องจากไม่มีร่องรอยบ่งบอกว่ามีคนมาอยู่ที่นี่
ก่อนหน้านั้น เป็นเวลาหลายวันที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้จัดหาเครื่องบินเพื่อบินไปบนเกาะ และสัญญาว่าจะให้รางวัลเป็นเงินก้อนโตแก่ทุกคนที่แจ้งข่าวเกี่ยวกับสมาชิกที่หายตัวไปของคณะสำรวจ ดังนั้น ไม่นานชาวบ้านกว่าสองร้อยคนก็มาถึงเกาะ และพลิกก้อนหินทุกก้อนเพื่อค้นหาอย่างละเอียด แต่ไม่มีใครพบร่องรอย หรือวัตถุใดๆ ที่สามารถทำให้กระจ่างเกี่ยวกับการหายตัวไปของพวกเขาได้ และนี่เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะไขปริศนาของเกาะ
แม้ว่าจะฟังดูแปลก แต่หลายคนยังเชื่ออีกว่าเกาะ Envaitenet เป็นประตูแห่งกาลเวลาที่สามารถถ่ายโอนใครบางคนไปสู่อีกชีวิตหนึ่งได้ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าเกาะนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ประหลาดลึกลับซึ่งสามารถกำจัดทุกคนที่มาเกาะได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม ความลับของเกาะ Envaitenet ยังคงไม่คลี่คลาย และยังไม่ได้รับการเปิดเผยจนถึงขณะนี้ อาจเพราะไม่มีใครกล้าไปที่นั่นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้กลับออกมา
ชนเผ่า El Molo ในชุดวัฒนธรรม / Cr.ภาพ safariadv.it
ทะเลสาบ Rudolf หรือที่เรียกว่าทะเลสาบ Turkana ในปัจจุบัน ใหญ่เป็นอันดับสี่ของทะเลสาบแอฟริกาตะวันออก ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของเคนยา โดยทางตอนเหนือสุดทอดยาวไปถึงเอธิโอเปีย ทะเลสาบล้อมรอบด้วยพื้นที่แห้งแล้งในแอฟริกาตะวันออก ถือเป็นทะเลสาบทะเลทรายถาวรที่ใหญ่ที่สุดในโลก บางครั้งเรียกว่า " ทะเลหยก " (Jade Sea) จากสีเขียวที่เป็นผลมาจากสาหร่ายที่อุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบยังมีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับฟอสซิลที่ยังไม่บุบสลายส่วนใหญ่ที่พบตามชายฝั่ง ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับบรรพบุรุษของมนุษย์มากกว่าที่ใดในโลก
โดยมีการพบซากของโฮมินินยุคแรกจำนวนมาก รวมทั้ง ออสตราโลพิเทคัส โฮโมฮาบิลิส โฮโมอีเรกตัส และโฮโมเซเปียนส์ โดยเฉพาะ " Turkana Boy " โครงกระดูกฟอสซิลที่เกือบสมบูรณ์ของเด็กชายอายุประมาณ 1.5 ล้านปีก่อน มนุษย์ยุคแรกที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบ จนกระทั่งในปี 2018 คณะผู้พิจารณาของ UNESCO ได้เพิ่มทะเลสาบ Turkana เป็นแหล่งอนุรักษ์ในเคนยาและเป็นแหล่งกำเนิดของมนุษยชาติ อยู่ในรายชื่อแหล่งมรดกโลกที่ใกล้สูญพันธุ์
ปัจจุบัน พื้นที่รอบๆ ทะเลสาบ Turkana มีประชากรเบาบาง เนื่องจากตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีน้ำจืดไม่เพียงพอ และเต็มไปด้วยน้ำกร่อยที่มีฟลูออไรด์ใน
ระดับสูง ทำให้ไม่เหมาะแก่การดื่ม อย่างไรก็ตาม ทะเลสาบ Turkana และอุทยานแห่งชาติสามแห่งที่อยู่ใกล้เคียง (อุทยานแห่งชาติ Sibiloi, South Island และ Central Island) เป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับนกน้ำอพยพ พวกมันยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญสำหรับจระเข้แม่น้ำไนล์ ฮิปโปโปเตมัส และงูมีพิษมากมาย รวมทั้งงูพิษ carpet vipers และงูเห่า red spitting
ทะเลสาบมีความยาว 154 ไมล์ (248 กม.) กว้างเพียง 10–20 ไมล์ (16–32 กม.) และค่อนข้างตื้น โดยมีความลึกที่บันทึกไว้มากที่สุดคือ 240 ฟุต (73 ม.) และมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว โดยเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชน สำหรับการว่ายน้ำ กีฬาตกปลา และกีฬาทางน้ำอื่นๆ
Lake Turkana (เดิมชื่อ Lake Rudolf) ภาพเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2020 โดย Moderate Resolution Imaging Spectroradiometer (MODIS)
บนดาวเทียม Aqua ของ NASA แสดงทะเลสาบส่วนใหญ่ในหุบเขา Great Rift ของเคนยา โดยปลายด้านเหนือจะโผล่เข้าไปในเอธิโอเปีย ที่ทอดยาว 250 กม.(150 ไมล์) จากเหนือจรดใต้ และกว้างถึง 44 กม.(27 ไมล์) โดยเป็นแอ่งที่มีน้ำเค็มและไม่มีทางออก
ทะเลสาบ Turkana ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ Great Rift Valley ของเคนยา ส่องประกายระยิบระยับในใจกลางของภูมิประเทศนอกโลก
ที่จะดูเหมือนบ้านบนดวงจันทร์มากกว่าดาวเคราะห์โลก เป็นทะเลสาบในทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผืนน้ำที่ทอดยาวจนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
นี่เป็นภาพพาโนรามาของลาวาที่ดำคล้ำและแอ่งภูเขาไฟอันน่าทึ่งทางตอนเหนือของเคนยาอยู่ห่างไกลออกไป และเดินทางไปถึงได้ยาก
วิธีที่ดีที่สุดคือใช้เฮลิคอปเตอร์ แต่นักท่องเที่ยวจะได้รับรางวัลเป็นวิสัยทัศน์ของพื้นที่ที่รกร้างที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลืออยู่ในแอฟริกา
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
Envaitenet: เกาะที่ไปแล้วอาจไม่ได้กลับออกมา
มีชาวพื้นเมืองหลายครอบครัวอาศัยอยู่ และท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ประชากรของหมู่บ้านก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างหนึ่งที่น่าแปลกคือบนเกาะไม่มีสัตว์ใดๆแม้แต่นก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดจากการบันทึกคือ การพรรณนาถึงผลที่ตามมาจากการเผชิญหน้ากับสิ่งที่มักปรากฏแก่ชาวบ้านในตอนกลางคืนในรูปของผีที่เหมือนมนุษย์ หลังจากนั้นผู้เคราะห์ร้ายก็จะนอนนิ่งอยู่บนพื้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่หลังจาก "ตื่นขึ้น" แต่ละคนจะประสบกับเหตุร้าย และบาดเจ็บสาหัสอย่างอธิบายไม่ได้ โดยกลายเป็นคนพิการ เสียชีวิตจากพิษจากปลาที่พวกเขากินมานับครั้งไม่ถ้วน หรือจากภาวะติดเชื้อที่ไม่น่าจะเป็นอันตราย
Vivina Fusch ได้ส่งนักธรรมชาติวิทยา Brian Dayson พร้อมเพื่อนร่วมงาน Michael Sheflis ไปบนเกาะ ซึ่งหลายวันทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ โดยทุกเย็นในเวลาที่ตกลงกัน พวกเขาจะจุดไฟขึ้นให้บนแผ่นดินใหญ่เห็น เพื่อเป็นสัญญานว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี