คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
เอาตรงๆนะ แฟนขี้เกียจ อยากได้แต่งานสบายทั้งๆที่ตัวเลือกมีไม่มาก แถมจนแล้วยังไม่เจียมตัว ตอนทำงานเงินเดือนน้อยขนาดนั้นยังอุตส่าซื้อรถอีก ขนาดตกงานยังอยากได้นู้นนี่ทั้งๆที่ใช้เงินคุณอยู่
รู้อะไรมั้ยคะ เค้าไม่เปลี่ยนแปลงหรอก เพราะคุณคอย support ค่าใช้จ่ายเค้าอยู่ไง คุณบ่นให้ตายยังไง ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
ถ้าเป็นเราคงไม่คบกับคนที่มีทัศนคติการเงินแบบนี้นะ คบแล้วไม่เจริญขึ้น
รู้อะไรมั้ยคะ เค้าไม่เปลี่ยนแปลงหรอก เพราะคุณคอย support ค่าใช้จ่ายเค้าอยู่ไง คุณบ่นให้ตายยังไง ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
ถ้าเป็นเราคงไม่คบกับคนที่มีทัศนคติการเงินแบบนี้นะ คบแล้วไม่เจริญขึ้น
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ข้อดี ของคุณ
คุณเป็นสุภาพบุรุษ รับผิดชอบครอบครัว มีวินัยเรื่องการใช้เงิน ตั้งแต่อายุยังน้อย
แถมรู้จักวางแผนอนาคต และมองการณ์ไกล
ข้อดี ของแฟน
เธอทำงานบ้าน ...
เป็นคนที่คุณรัก (อาจจะเพราะเธอทำให้คุณมีความสุข หรือเธอให้กำลังใจเก่ง / เอาใจเก่ง)
ข้อเสีย ของคุณ
คุณอึดอัด แต่หาวิธีพูดให้แฟนยอมรับ และเกรงใจคุณไม่ได้
คุณดูแลค่าใช้จ่ายของเธอทุกอย่างมาหลายเดือน แต่คุณไม่มีอำนาจ (ของผู้จ่าย) ที่จะทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งได้
จึงออกมาในรูปแบบ ของคนที่ตามใจแฟน จนตัวเองมาทุกข์เสียเอง แบบน้ำท่วมปาก
ข้อเสีย ของแฟน
1. ช่วงว่างงาน นอกจากงานบ้านแล้ว เธอทำอะไรเพื่อพัฒนาตนเองบ้างไหมคะ ?
_วุฒิน้อย คิดจะเรียนอะไรเพื่อปรับวุฒิไหม
_ลงคอร์สออนไลน์ หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ในสายงานด้านอื่นๆบ้างไหม
2. ไม่มีความจริงจังในการหางาน ไม่หนักเอาเบาสู้
_ต้องการงานที่เหนื่อยน้อย รายได้งาม ตรงนี้ เข้าใจได้ค่ะ ใครๆก็รักสบาย
แต่ต้องดูสถานการณ์ด้วย ... หากมีเงินเก็บเหลือเฟือ จะเลือกงานก็ไม่แปลกอะไร
แต่สำหรับสถานะของคนที่ “ตกงาน” อยู่ ต้องเจียมตน มากกว่านี้
ทางบ้านพอเธอมิส่งเสียให้แม่ แม่เธอก็บ่นว่าลำบาก ตรงนี้เธอควรต้องคิด ว่าต้องรับผิดชอบทางบ้านด้วย
โชคดี ที่มีแฟนคอยซัพพอร์ต แต่ในความโชคดีนี้ ทำให้เธอลืมตัวไปชั่วขณะ
คนเราพอสบายมากขึ้น จะเกิดความเคยชิน ไม่อยากลำบากอีก
แต่ก่อน เธอชอบทำงานสบาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า ไม่ทำงาน สบายกว่าเดิมตั้งเยอะ
3. ความซาบซึ้งใจที่มีให้คุณน้อยมาก
_การประชดว่าตนเป็นภาระ ไม่ใช้เงินคุณก็ได้ นี่เป็นนิสัย เอาชนะแบบเด็กๆ เพราะในที่สุด ก็ใช้อยู่ดี
_การร้องขอให้ซื้อนั่นนี่ให้ ทั้งๆที่รู้สภาพการเงินปัจจุบัน
_คนที่ เกรงใจ จะไม่งอน ว่าคุณกลับเวลาคุณเตือนว่า “จะเคร่งไปไหน”
เธอจะเป็นฝ่ายเร่งรีบหางาน หารายได้เสริมช่วยกัน จนคุณนั่นแหละต้องเป็นฝ่ายออกปากห้าม เพราะกลัวเธอเครียดเกินไป
สรุป ...
คุณจะซัพพอร์ตเธอจนหมดตัว เอาเงินเก็บมาใช้จนเกลี้ยง ก็ไม่ผิดอะไรค่ะ เพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงของคุณ
เธอเป็นแฟนคุณ และคุณเต็มใจดูแล
แต่หาก คุณเริ่มรู้สึกว่าหนัก
ตรงนี้แหละ ที่ต้องรีบแก้ไข รีบพูดคุยกัน (หากอยากรักษาความสัมพันธ์ไว้นานๆ)
ผู้รับ ยามชินกับการรับ วันหนึ่งไม่ได้ จะโกรธ คนที่เคยให้ หาว่า “ไม่เหมือนเดิม” ถึงตอนนั้นจะแก้ไขยาก
มนุษย์เราเป็นแบบนี้แหละค่ะ
เพราะฉะนั้น ... คุณเป็นเจ้าของเงิน คุณให้ด้วยความเต็มใจเท่าไหร่ จำกัดแค่นั้น
หากมากกว่านั้น ต้องแสดงท่าทีให้เธอรู้ ว่าคุณเริ่มไม่โอเคแล้ว
ทำบัญชี รายรับรายจ่ายให้ชัดเจน ให้เธอทราบ
หากเธอ รักสบาย และมีคนใหม่พร้อมดูแล เธออาจจะจากคุณไป แต่ข้อดีคือ คุณจะได้ไม่เสียเวลาในชีวิตไปฟรีๆกับคนไม่คู่ควรกัน
หากเธอ รักและปรารถนาจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีของคุณ เธอจะได้สติ และรีบขวนขวายหาทางสร้างความมั่นคง มาสู่ครอบครัวค่ะ
คุณเป็นสุภาพบุรุษ รับผิดชอบครอบครัว มีวินัยเรื่องการใช้เงิน ตั้งแต่อายุยังน้อย
แถมรู้จักวางแผนอนาคต และมองการณ์ไกล
ข้อดี ของแฟน
เธอทำงานบ้าน ...
เป็นคนที่คุณรัก (อาจจะเพราะเธอทำให้คุณมีความสุข หรือเธอให้กำลังใจเก่ง / เอาใจเก่ง)
ข้อเสีย ของคุณ
คุณอึดอัด แต่หาวิธีพูดให้แฟนยอมรับ และเกรงใจคุณไม่ได้
คุณดูแลค่าใช้จ่ายของเธอทุกอย่างมาหลายเดือน แต่คุณไม่มีอำนาจ (ของผู้จ่าย) ที่จะทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งได้
จึงออกมาในรูปแบบ ของคนที่ตามใจแฟน จนตัวเองมาทุกข์เสียเอง แบบน้ำท่วมปาก
ข้อเสีย ของแฟน
1. ช่วงว่างงาน นอกจากงานบ้านแล้ว เธอทำอะไรเพื่อพัฒนาตนเองบ้างไหมคะ ?
_วุฒิน้อย คิดจะเรียนอะไรเพื่อปรับวุฒิไหม
_ลงคอร์สออนไลน์ หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ในสายงานด้านอื่นๆบ้างไหม
2. ไม่มีความจริงจังในการหางาน ไม่หนักเอาเบาสู้
_ต้องการงานที่เหนื่อยน้อย รายได้งาม ตรงนี้ เข้าใจได้ค่ะ ใครๆก็รักสบาย
แต่ต้องดูสถานการณ์ด้วย ... หากมีเงินเก็บเหลือเฟือ จะเลือกงานก็ไม่แปลกอะไร
แต่สำหรับสถานะของคนที่ “ตกงาน” อยู่ ต้องเจียมตน มากกว่านี้
ทางบ้านพอเธอมิส่งเสียให้แม่ แม่เธอก็บ่นว่าลำบาก ตรงนี้เธอควรต้องคิด ว่าต้องรับผิดชอบทางบ้านด้วย
โชคดี ที่มีแฟนคอยซัพพอร์ต แต่ในความโชคดีนี้ ทำให้เธอลืมตัวไปชั่วขณะ
คนเราพอสบายมากขึ้น จะเกิดความเคยชิน ไม่อยากลำบากอีก
แต่ก่อน เธอชอบทำงานสบาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า ไม่ทำงาน สบายกว่าเดิมตั้งเยอะ
3. ความซาบซึ้งใจที่มีให้คุณน้อยมาก
_การประชดว่าตนเป็นภาระ ไม่ใช้เงินคุณก็ได้ นี่เป็นนิสัย เอาชนะแบบเด็กๆ เพราะในที่สุด ก็ใช้อยู่ดี
_การร้องขอให้ซื้อนั่นนี่ให้ ทั้งๆที่รู้สภาพการเงินปัจจุบัน
_คนที่ เกรงใจ จะไม่งอน ว่าคุณกลับเวลาคุณเตือนว่า “จะเคร่งไปไหน”
เธอจะเป็นฝ่ายเร่งรีบหางาน หารายได้เสริมช่วยกัน จนคุณนั่นแหละต้องเป็นฝ่ายออกปากห้าม เพราะกลัวเธอเครียดเกินไป
สรุป ...
คุณจะซัพพอร์ตเธอจนหมดตัว เอาเงินเก็บมาใช้จนเกลี้ยง ก็ไม่ผิดอะไรค่ะ เพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงของคุณ
เธอเป็นแฟนคุณ และคุณเต็มใจดูแล
แต่หาก คุณเริ่มรู้สึกว่าหนัก
ตรงนี้แหละ ที่ต้องรีบแก้ไข รีบพูดคุยกัน (หากอยากรักษาความสัมพันธ์ไว้นานๆ)
ผู้รับ ยามชินกับการรับ วันหนึ่งไม่ได้ จะโกรธ คนที่เคยให้ หาว่า “ไม่เหมือนเดิม” ถึงตอนนั้นจะแก้ไขยาก
มนุษย์เราเป็นแบบนี้แหละค่ะ
เพราะฉะนั้น ... คุณเป็นเจ้าของเงิน คุณให้ด้วยความเต็มใจเท่าไหร่ จำกัดแค่นั้น
หากมากกว่านั้น ต้องแสดงท่าทีให้เธอรู้ ว่าคุณเริ่มไม่โอเคแล้ว
ทำบัญชี รายรับรายจ่ายให้ชัดเจน ให้เธอทราบ
หากเธอ รักสบาย และมีคนใหม่พร้อมดูแล เธออาจจะจากคุณไป แต่ข้อดีคือ คุณจะได้ไม่เสียเวลาในชีวิตไปฟรีๆกับคนไม่คู่ควรกัน
หากเธอ รักและปรารถนาจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีของคุณ เธอจะได้สติ และรีบขวนขวายหาทางสร้างความมั่นคง มาสู่ครอบครัวค่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
สรุปได้ว่า ผู้หญิงก่อนหน้า เงินเดือน11,000 บาท เลี้ยงแมว10ตัว ส่งให้ทางบ้านอีกบางเดือน ตอนนี้ตกงาน เลยให้ผู้ชายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตัวเอง แถมแมว 10 ตัว
ถ้าคุณเป็นเพื่อนเรา เราจะบอกคุณว่า แยกย้ายเหอะ แฟนเธอ ไม่มีวินัยทางการเงิน ตัวเองยังเอาไม่รอด พาแมวอีก 10 ชีวิตมาเป็นภาระคนอื่น แยกกันอยู่ไปเลย นี่มันชีวิตจริงไม่ใช่ fantasy world ที่จะมาเป็นคุณหนู อยู่บ้านเลี้ยงแมวไปวันๆ ทั้งที่เอาตัวไม่รอด
คุณควรคุยไปตรงๆ ในระยะยางไม่รอดหรอกค่ะ รีบหาทางคุย ส่วนคุณจะมีวิธีคุยยังไงกับเธอ คุณเท่านั้นที่รู้ค่ะ
ถ้าคุณเป็นเพื่อนเรา เราจะบอกคุณว่า แยกย้ายเหอะ แฟนเธอ ไม่มีวินัยทางการเงิน ตัวเองยังเอาไม่รอด พาแมวอีก 10 ชีวิตมาเป็นภาระคนอื่น แยกกันอยู่ไปเลย นี่มันชีวิตจริงไม่ใช่ fantasy world ที่จะมาเป็นคุณหนู อยู่บ้านเลี้ยงแมวไปวันๆ ทั้งที่เอาตัวไม่รอด
คุณควรคุยไปตรงๆ ในระยะยางไม่รอดหรอกค่ะ รีบหาทางคุย ส่วนคุณจะมีวิธีคุยยังไงกับเธอ คุณเท่านั้นที่รู้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาชีวิต : เลือกแฟนถูกหรือผิด ? ผมควรทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดีครับ ? [ ยุค COVID-19 ]
ผมอายุ 25 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนระดับกลางแห่งหนึ่ง
รายรับต่อเดือนประมาณ 4x,xxx บาท
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด + หนี้สินส่วนตัว ตกประมาณเดือนละ .. 3x,xxx บาท
เงินเก็บต่อเดือน .. 1x,xxx บาท
____________________________________________________
ปัจจุบันผมมีแฟน เเละแฟนมาพักอาศัยอยู่ที่ห้องด้วย (แฟนเป็น Pet Lover เลี้ยงแมวอยู่ทั้งหมด 10 ตัว ก็คือเอามาอยู่ที่ห้องผม 7 ตัว อยู่ที่บ้านของคุณแม่แฟนอีก 3 ตัว)
=> ซึ่งผมดันเป็นทาสเเมวด้วยเลยไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้
คบกันเเรกๆ เธอทำงานอยู่คลินิกหนึ่งได้เงินเดือนประมาณ 11,000 บาท
( แฟนผมวุฒิการศึกษาน้อย เธอเรียนจบเเค่ ปวช. เเละชื่นชอบการเป็นผู้ช่วยเเพทย์ หรืองานทางด้านพยาบาล )
=> ในส่วนของเงินเดือนของเเฟนผม ผมให้เค้านำไปใช้กับ ค่าเติมน้ำมันรถส่วนตัวของเขาเวลาขับไปทำงาน / ค่าข้าวเวลาไปทำงาน / ค่าโทรศัพท์รายเดือนของตัวเอง / ที่เหลือให้เป็นเงินเก็บ หรือเงินที่ส่งให้ทางบ้านของตัวเองไป
=> ผมเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแมว และค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด (ค่าห้อง / ซื้อของกิน ของใช้ เข้าบ้าน)
หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมก็ลาออกจากงานเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับที่ทำงาน (การขอเพิ่มเงินเดือนหลังผ่านทดลองงาน) + ทำต่อไม่ไหวอยากพัก ผมก็ไม่ได้อะไรก็บอกไปว่าโอเคพักละหางานใหม่นะ .. จนผ่านไป 6 เดือนได้เเล้วตอนนี้แฟนผมก็ยังไม่ได้ทำงานอยู่เเต่บ้านเลี้ยงแมว
=> แน่นอนครับ แฟนผมไม่มีรายได้ต่อเดือน .. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้านของเรา รวมถึงค่าใช้จ่ายที่แฟนต้องส่งให้ทางบ้านของแฟน ผมเป็นคนจัดการทั้งหมดครับ
____________________________________________________
จนกระทั่งในปัจจุบันบางเดือนผมใช้เงิน เดือนชนเดือน บางเดือนเหลือเก็บ 2,xxx-5,xxx จากที่ปกติมีเงินเก็บเหลือ 1x,xxx / เดือน
พอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แฟนก็มักจะงอน หรือไม่สบายใจ เเละมักจะพูดว่ารู้ว่าเป็น ภาระ
เเต่ผมก็มักจะบอกเขาอยู่เสมอว่า .. ผมไม่ได้มองเธอเป็นภาระเลย เเต่บางครั้งอยากให้ช่วยกันทำงาน หาเงิน ทำมาหากินในยามที่เรายังอายุน้อยกัน มีเงินเก็บเยอะ ๆ อยากได้อะไร อยากไปเที่ยวไหนก็จะได้ไปกันได้ ไม่ต้องมาประหยัด เเละยังไม่เหลือเงินเก็บกันเเบบนี้
=> ปัจจุบันผมประหยัด อดออม มากๆ เพื่อให้มีเงินใช้ในเเต่ละเดือน
=> บางครั้งเเฟนก็งอเเง อยากได้นู่นนี่ ซึ่งผมก็จะบอกเธอเสมอว่า .. ถ้าผมมีเงินผมซื้อให้เเน่นอน เเต่ถ้าไม่มีก็รอก่อนนะ (ทุกวันสำคัญ ผมมีของขวัญให้เธอเสมอ)
____________________________________________________
เงินต่อเดือนที่ปกติผมต้องส่งให้ทางบ้านผมก็น้อยลง ซึ่งตั้งเเต่เริ่มมี Covid-19 มาหนักๆ ทางบริษัทที่ผมทำอยู่ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ ผมโดนปรับลดเงินเดือนลงชั่วคราวระยะหนึ่ง ก็ไม่ได้ส่งให้ทางบ้านเลย เนื่องจากผมมีเงินเหลือน้อย ไม่พอใช้
เเต่ดีที่ที่บ้านผม พ่อแม่ไม่ได้เดือนร้อนขนาดนั้น ท่านก็ไม่ได้ว่าไร (เเต่จิตสำนึกผมบอกว่ายังไงก็ควรส่งให้ท่านใช้)
บางครั้งทางบ้านสงสัยเงินหายไปไหนหมด ? หรือหมดไปกับผู้หญิง (แฟน) คนนี้ ?
=> ผมก็ต้องโกหกท่านไปบางครั้งที่ท่านถาม ว่าเเฟนยังทำงาน เเละช่วยเหลือกันอยู่ ตอนนี้ที่เงินผมหมดไม่มี เพราะผมเอาเงินไปลงทุนบ้าง หรือหมุนเงินไม่ทัน เพื่อไม่ให้ทางบ้านผมมองแฟนผมไม่ดี
____________________________________________________
** ขอบคุณที่ฟังเรื่องราวที่ผมระบายออกมาทั้งหมดนะครับ **
[ คำถาม ] : จากที่ฟังเรื่องราวคร่าว ๆ ถ้าคุณเป็นผม .. คุณจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปครับ จะเดินต่อไปอย่างไร ???
ปล. : ตอนนี้ผมเป็นผู้ป่วย COVID-19 กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่ Hospitel แห่งหนึ่ง เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนดูแลตัวเองกันดีๆ ด้วยนะครับ
ปล.2 : แต่เอาจริงๆ ค่าใช้จ่ายที่ผมให้แฟนไปทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ผมเป็นคนมอบให้แฟนเองนะครับ เพราะรักและเป็นห่วงเขาไม่ชอบเห็นเวลาเขาเศร้า .. เเต่ก็มีบ้างที่แฟนร้องขอเงินจากเราเเต่น้อยครับ ส่วนมากเป็นผมเองที่เอ่ยปากช่วยเหลือหยิบยื่นให้แฟน 😅