ตอนมหาลัย มีเพื่อนผู้ชายที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจค่ะ
จริงๆจะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ถูก เพราะไม่นับที่รู้จักชื่อกันและกัน เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรของเขาเลย
เจอกันครั้งแรกตอนเรียนพิเศษเตรียมสอบเข้ามหาลัย เขาชอบมานั่งที่ข้างๆที่ว่างและชวนคุย
ช่วงแรกๆก็คุยตามมารยาท แต่อยากโฟกัส+ไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าเลยย้ายที่นั่งหนี
เขาก็จะตามมานั่งที่นั่งข้างๆตลอด จนในที่สุดเราก็เลิกเรียนพิเศษที่นั่นไปเลยเพราะรู้สึกไม่ดีมากๆ
สรุปได้อยู่มหาลัยเดียวกันคณะเดียวกัน พอช่วงแรกๆมีกิจกรรมรับน้องหรืออะไรที่ต้องทำเป็นกลุ่มเขาก็จะขอมาอยู่ด้วยตลอด ขอถ่ายรูปคู่ด้วย
ส่วนตัวเป็นคนไม่ปฏิเสธคน คือไม่ชอบมีปัญหากับคนอื่น แต่ไม่สบายใจเลยได้เพื่อนที่สนิทมาช่วยกันให้
พอเขาแอดมาคุยทางโซเชียลก็บล๊อคไป
แต่ไปๆมาๆก็เป็นข่าวลือในคณะว่าผู้ชายคนนั้นชอบเรา ตามสตอล์คเรา
เพราะมีข่าวว่าเขาพิมพ์ทักไปหาผู้หญิงคนอื่นด้วย เขาเลยโดนมองว่า หน้าหม้อ ( แบบทางลบที่ไม่ใช่ตลกๆ )
ทำให้ผู้หญิงตีตัวออกห่างจากเขา บวกกับที่ทางนั้นเป็นคนเงียบๆอยู่แล้วทำให้ผู้ชายคนนั้นไม่มีเพื่อน
( เราโดนแซวเรื่องนี้จากเพื่อนที่ไม่สนิทมาตลอด4ปี ซึ่งเราปฏิเสธเรื่องเขามาตลอด เพราะไม่รู้จักกันด้วยซ้ำจะชอบกันได้ยังไง )
เรียนจบเขามาขอให้ปลดบล๊อคโซเชียล เลยปลดบล๊อคไป ได้เห็นชีวิตเขาในแต่ละวันบ้าง
ตอนนี้แยกย้ายกันอยู่คนละที่ทำงาน คนละประเทศด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังพิมพ์มาหาเราบ้างนานๆทีเวลาเราโพสต์อะไร
ผ่านมาหลายปีแล้วแท้ๆ แต่เวลาได้นั่งคิดคนเดียว หรือเวลาโปรไฟล์เขาขึ้นไทม์ไลน์มาก็จะรู้สึกผิดเรื่อยๆ
ว่าเราไปทำลายชีวิตมหาลัยของเขา ทำให้เขาไม่มีเพื่อนรึเปล่า
คิดไปคิดมาเขาอาจจะแค่อยากเป็นเพื่อน อยากสนิทกับเรา แต่วางตัวไม่ถูกรึเปล่า
ถ้าเราปฏิเสธเขาไปตรงๆว่าไม่ชอบการกระทำและแนะนำเขา เขาจะได้ปรับปรุงตัวเองไหม
ถ้าเรายอมเป็นเพื่อนกับเขาตอนนั้น เขาจะไม่ได้ถูกตราหน้าและได้มีสังคมเพื่อนมหาลัยไหม
เราควรเป็นเพื่อนกับเขาเพื่อชดเชยอดีตที่เขาเสียไปไหม
แต่ไม่ปฏิเสธเลยว่าตอนนั้นรู้สึกไม่สบายใจมากเวลาเขาชวนคุยหรือขอถ่ายรูป
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่ดีเวลาเขาพิมมาทัก แต่ก็ตอบกลับตามมารยาทค่ะ
การรับมือกับความรู้สึกผิด ควรขอโทษหรือเป็นเพื่อนกับเขาไหมคะ
จริงๆจะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ถูก เพราะไม่นับที่รู้จักชื่อกันและกัน เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรของเขาเลย
เจอกันครั้งแรกตอนเรียนพิเศษเตรียมสอบเข้ามหาลัย เขาชอบมานั่งที่ข้างๆที่ว่างและชวนคุย
ช่วงแรกๆก็คุยตามมารยาท แต่อยากโฟกัส+ไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าเลยย้ายที่นั่งหนี
เขาก็จะตามมานั่งที่นั่งข้างๆตลอด จนในที่สุดเราก็เลิกเรียนพิเศษที่นั่นไปเลยเพราะรู้สึกไม่ดีมากๆ
สรุปได้อยู่มหาลัยเดียวกันคณะเดียวกัน พอช่วงแรกๆมีกิจกรรมรับน้องหรืออะไรที่ต้องทำเป็นกลุ่มเขาก็จะขอมาอยู่ด้วยตลอด ขอถ่ายรูปคู่ด้วย
ส่วนตัวเป็นคนไม่ปฏิเสธคน คือไม่ชอบมีปัญหากับคนอื่น แต่ไม่สบายใจเลยได้เพื่อนที่สนิทมาช่วยกันให้
พอเขาแอดมาคุยทางโซเชียลก็บล๊อคไป
แต่ไปๆมาๆก็เป็นข่าวลือในคณะว่าผู้ชายคนนั้นชอบเรา ตามสตอล์คเรา
เพราะมีข่าวว่าเขาพิมพ์ทักไปหาผู้หญิงคนอื่นด้วย เขาเลยโดนมองว่า หน้าหม้อ ( แบบทางลบที่ไม่ใช่ตลกๆ )
ทำให้ผู้หญิงตีตัวออกห่างจากเขา บวกกับที่ทางนั้นเป็นคนเงียบๆอยู่แล้วทำให้ผู้ชายคนนั้นไม่มีเพื่อน
( เราโดนแซวเรื่องนี้จากเพื่อนที่ไม่สนิทมาตลอด4ปี ซึ่งเราปฏิเสธเรื่องเขามาตลอด เพราะไม่รู้จักกันด้วยซ้ำจะชอบกันได้ยังไง )
เรียนจบเขามาขอให้ปลดบล๊อคโซเชียล เลยปลดบล๊อคไป ได้เห็นชีวิตเขาในแต่ละวันบ้าง
ตอนนี้แยกย้ายกันอยู่คนละที่ทำงาน คนละประเทศด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังพิมพ์มาหาเราบ้างนานๆทีเวลาเราโพสต์อะไร
ผ่านมาหลายปีแล้วแท้ๆ แต่เวลาได้นั่งคิดคนเดียว หรือเวลาโปรไฟล์เขาขึ้นไทม์ไลน์มาก็จะรู้สึกผิดเรื่อยๆ
ว่าเราไปทำลายชีวิตมหาลัยของเขา ทำให้เขาไม่มีเพื่อนรึเปล่า
คิดไปคิดมาเขาอาจจะแค่อยากเป็นเพื่อน อยากสนิทกับเรา แต่วางตัวไม่ถูกรึเปล่า
ถ้าเราปฏิเสธเขาไปตรงๆว่าไม่ชอบการกระทำและแนะนำเขา เขาจะได้ปรับปรุงตัวเองไหม
ถ้าเรายอมเป็นเพื่อนกับเขาตอนนั้น เขาจะไม่ได้ถูกตราหน้าและได้มีสังคมเพื่อนมหาลัยไหม
เราควรเป็นเพื่อนกับเขาเพื่อชดเชยอดีตที่เขาเสียไปไหม
แต่ไม่ปฏิเสธเลยว่าตอนนั้นรู้สึกไม่สบายใจมากเวลาเขาชวนคุยหรือขอถ่ายรูป
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่ดีเวลาเขาพิมมาทัก แต่ก็ตอบกลับตามมารยาทค่ะ