ถึงๆเพื่อนๆชาวพันทิป
วันนี้เราขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการระบายและขอความเห็นใจจากทุกคน(เนื่องจากสังคมที่เราทำงานอยู่ไม่มีให้) เราเหนื่อยมากๆเลย เราเบื่อกับสังคมแห่งการแก่งแย่ง เล่นแง่ และชิงดีชิงเด่น เราเป็นคนเก่งคนหนึ่งกล้าพูดได้อย่างไม่อายปาก เพราะเราฝึกฝนตัวเองตามทักษะและสิ่งที่สนใจอยู่เป็นประจำ รวมทั้งมีความใฝ่รู้และตั้งใจ (นี่คือสิ่งที่ตั้งแต่เล็กจนโตคนรอบข้างพูดเสมอ) ตัวเราเองที่เอาความมั่นใจมาพูดว่าเราเป็นอย่างนี้ได้ก็หลังจากถูกทำให้เสียความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง จนวันหนึ่งเราขอเชื่อในตัวเองและยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเป็น เพราะที่ผ่านมาเราเป็นคนเก่งที่ไม่รู้จักสังคม เป็นคนตรงแต่ไม่มีความสามารถในการรับมือกับเล่ห์เหลี่ยมของผู้อื่นไม่เข้าใจคำว่าหมั่นไส้ ไม่เข้าใจคำว่าอิจฉาริษยาเรามีโลกของตัวเองที่สงบสุข เราไม่รู้จนบัดนี้ว่า บางสิ่งบางอย่างที่เป็นเรามันไม่ถูกตาต้องใจคนอื่นเสมอไป ตอนนี้อายุ 27 เราค้นพบว่าการใช้ชีวิตด้วยการเป็นตัวของตัวเราเองแบบนี้ต้องแข็งแกร่งมากๆ พูดมาถึงตรงนี้คนอ่านอาจจะกำลังคิดว่า เราเป็นคนไม่มีอัธยาศัยหรือเปล่า หรือ เป็นคนเห็นแก่ตัวจึงทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตในที่ทำงานได้อย่างมีความสุขเราอยากบอกว่า เราทำทุกวิธีแล้วเพื่อที่จะให้ผู้อื่นพอใจ เราผ่านมาหลายสังคม จนสุดท้ายที่ปัจจุบันก็เจอสภาพสังคมคล้ายๆกันแบบที่เราเกริ่นมาข้างต้น เรารู้สึกเบื่อมากกว่าชินเพราะยิ่งโลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนสังคมไทยยังเป็นแบบเดิม ยังสนใจเรื่องผู้อื่นยังหยุมหยิมกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เอาพรรคเอาพวก เราเบื่อเหลือเกินในขณะที่เราเริ่มคิดว่า หรือตัวฉันไม่เหมาะกับการทำงานเป็นกลุ่ม หรือว่าฉันอยู่ในสังคมไหนยากไปหมด เราเหนื่อยมากเลย คือเราว่าโดยพื้นฐานเราเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คน และก็ใจดีหรือเปล่า(ทำให้คนไม่ค่อยเกรงใจ) ขนาดของการต้องปรับตัวในสังคมเลยต้องมหาศาลมากคือใช้ความพยายามเท่าไหร่ก็ไม่พอและเราก็มีขีดจำกัดด้วย หรือเพียงแค่เพราะเรายังไม่ได้อยู่กับสังคมที่ถูกกับตัวเรา
ยกตัวอย่างสิ่งที่เราอึดอัดคือ
1. ทำดีโดนละเลย ผิดซ้ำเติม โดนขึ้นเสียงใส่โดยมิใช่ความผิด โดนโยนขี้ให้หลายๆครั้ง เถียงสู้ก็ไม่ได้ตัวคนเดียว
2. ไม่รับฟังการอธิบาย ตัดสินไปก่อนแล้ว
3. หัวหน้างานเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนร่วมงาน ทำงานโดยเอาอารมณ์ความรู้สึกนำ กดขี่คนที่แตกต่าง มองเรื่องการสรวลสรร สำคัญกว่าความจริงจัง
4. จับผิด เข้มงวดกับคนอื่นแต่อ่อนข้อให้กับตัวเองและพวกพ้อง
5. ไม่สอนงาน อาศัยให้ลงงานเอง ผิดแล้วด่าเพื่อให้จดจำ ไม่สนใจความรู้สึกของผู้ที่ทำงานให้ คนด่าคิดว่าหวังดี ทว่ากลับเป็นการด้อยค่าคนอื่น
6. เป็นสังคม Collectivism มีความพวกเขาพวกเราสูงมาก และที่เกลียดที่สุดคือประโยค เราทำงานกันแบบพี่น้อง (ความมืออาชีพอยู่ที่ไหน อยากพูดเหลือเกินว่า พี่น้องแบบ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อนใช่ไหม)
7. เราทำงานในหน่วยงานราชการนะ ลำดับขั้นสำคัญมาก มากจนเกินไป ข้ามหน้าข้ามตาไม่ได้ แม้จะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่ต้องการความเร่งด่วนก็ตาม สภาพคล่องด้านการบริหารงานเราว่าขาดเสถียรภาพ คือ ระบบราชการไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ ใช้อีโก้แก้ปัญหา ตำแหน่งคือสำคัญกว่าปากท้องประชาชน ยิ่งเรื่องงบประมาณไม่ได้ถูกใช้อย่างรอบคอบสักเท่าไหร่ หมายรวมถึงเบี้ยเลี้ยงและค่าอาหารในการจัดประชุม หรือแม้กระทั่งไปดูงานต่างประเทศด้วย พบว่าบางครั้งคนดีและเก่งไม่ได้แสดงความสามารถมากพอ เพราะพวกเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่ชอบพูดแต่เน้นทำ มักจะโดนสกัดดาวรุ่งอยู่เสมอ คนเก่งมักไม่เติบโต เนื่องจากระบอบอาวุโสและพวกพ้อง
เอาจริงๆยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่าสาเหตุที่ประเทศเรายังไม่พัฒนาไปไหน เป็นเพราะลักษณะนิสัยที่มีร่วมกันของสังคมประมาณหนึ่งรึเปล่า คือเราไม่ได้ว่าตัวเราดีนะ ไม่เคยหลงตัวเองขนาดนั้น แต่เรากำลังจะพูดถึงว่า ลักษณะนิสัยแบบนี้หรือเปล่าที่ถ่วงความเจริญในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ข้าราชการยังบ้าขั้นบ้าตำแหน่งถืออาวุโสกันอยู่เลย เห็นคนดีกว่าเก่งกว่าก็ไม่ได้ และไม่ใช่สังคมที่เอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางปัญญาเลย ใช้แต่อารมณ์มาห้ำหั่น วุฒิภาวะต่ำเตี้ย อันนี้เราเห็นจากคนที่ใหญ่ที่สุดของกรมๆหนึ่งเลย เหวี่ยงวีนเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
ขอกำลังใจหน่อยค่ะ ทุกวันนี้ความเป็นตัวเองต้องอาศัยความแข็งแกร่งในจิตใจมาต่อสู้มากๆเพื่อยืนหยัดกับสังคมแบบนี้ เหนื่อยมากกกกับคน มีความคิดมีไอเดียมากมายของงานที่อยากจะทำก็ไม่เคยได้รับความสนใจค่ะ หรือเพื่อนๆพอจะมีงานที่เลี้ยงชีพตัวเองได้ดีโดยไม่ต้องรับมือกับเพื่อนร่วมงานหมู่มากแนะนำไหมคะ เอาจริงเรารู้สึกเหนื่อยมากๆเลยค่ะ บางวันอยากไหลตายไปเลย ไม่เสียดายชีวิตด้วย เบื่อค่ะ อ่อลืมบอกค่ะไม่รู้ว่าเกี่ยวไหมกลุ่มเราผู้หญิงเยอะค่ะ ทำงานกับผู้ชายปัญหาน้อยกว่ามากๆค่ะ
ขอคอมเม้นแบบสุภาพหน่อยนะคะ คือเรากำลังDownมากจริงๆและเราคิดว่าโลกทุกวันมันแย่มากๆแล้วใจดีต่อกันดีกว่าค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะถ้าได้อ่านมาจนจบตรงนี้ ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ
เบื่อสังคมการทำงานที่มีการเมืองเยอะกว่าการงาน สังคมผู้หญิงและการชิงดีชิงเด่น
วันนี้เราขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการระบายและขอความเห็นใจจากทุกคน(เนื่องจากสังคมที่เราทำงานอยู่ไม่มีให้) เราเหนื่อยมากๆเลย เราเบื่อกับสังคมแห่งการแก่งแย่ง เล่นแง่ และชิงดีชิงเด่น เราเป็นคนเก่งคนหนึ่งกล้าพูดได้อย่างไม่อายปาก เพราะเราฝึกฝนตัวเองตามทักษะและสิ่งที่สนใจอยู่เป็นประจำ รวมทั้งมีความใฝ่รู้และตั้งใจ (นี่คือสิ่งที่ตั้งแต่เล็กจนโตคนรอบข้างพูดเสมอ) ตัวเราเองที่เอาความมั่นใจมาพูดว่าเราเป็นอย่างนี้ได้ก็หลังจากถูกทำให้เสียความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง จนวันหนึ่งเราขอเชื่อในตัวเองและยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเป็น เพราะที่ผ่านมาเราเป็นคนเก่งที่ไม่รู้จักสังคม เป็นคนตรงแต่ไม่มีความสามารถในการรับมือกับเล่ห์เหลี่ยมของผู้อื่นไม่เข้าใจคำว่าหมั่นไส้ ไม่เข้าใจคำว่าอิจฉาริษยาเรามีโลกของตัวเองที่สงบสุข เราไม่รู้จนบัดนี้ว่า บางสิ่งบางอย่างที่เป็นเรามันไม่ถูกตาต้องใจคนอื่นเสมอไป ตอนนี้อายุ 27 เราค้นพบว่าการใช้ชีวิตด้วยการเป็นตัวของตัวเราเองแบบนี้ต้องแข็งแกร่งมากๆ พูดมาถึงตรงนี้คนอ่านอาจจะกำลังคิดว่า เราเป็นคนไม่มีอัธยาศัยหรือเปล่า หรือ เป็นคนเห็นแก่ตัวจึงทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตในที่ทำงานได้อย่างมีความสุขเราอยากบอกว่า เราทำทุกวิธีแล้วเพื่อที่จะให้ผู้อื่นพอใจ เราผ่านมาหลายสังคม จนสุดท้ายที่ปัจจุบันก็เจอสภาพสังคมคล้ายๆกันแบบที่เราเกริ่นมาข้างต้น เรารู้สึกเบื่อมากกว่าชินเพราะยิ่งโลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนสังคมไทยยังเป็นแบบเดิม ยังสนใจเรื่องผู้อื่นยังหยุมหยิมกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เอาพรรคเอาพวก เราเบื่อเหลือเกินในขณะที่เราเริ่มคิดว่า หรือตัวฉันไม่เหมาะกับการทำงานเป็นกลุ่ม หรือว่าฉันอยู่ในสังคมไหนยากไปหมด เราเหนื่อยมากเลย คือเราว่าโดยพื้นฐานเราเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คน และก็ใจดีหรือเปล่า(ทำให้คนไม่ค่อยเกรงใจ) ขนาดของการต้องปรับตัวในสังคมเลยต้องมหาศาลมากคือใช้ความพยายามเท่าไหร่ก็ไม่พอและเราก็มีขีดจำกัดด้วย หรือเพียงแค่เพราะเรายังไม่ได้อยู่กับสังคมที่ถูกกับตัวเรา
ยกตัวอย่างสิ่งที่เราอึดอัดคือ
1. ทำดีโดนละเลย ผิดซ้ำเติม โดนขึ้นเสียงใส่โดยมิใช่ความผิด โดนโยนขี้ให้หลายๆครั้ง เถียงสู้ก็ไม่ได้ตัวคนเดียว
2. ไม่รับฟังการอธิบาย ตัดสินไปก่อนแล้ว
3. หัวหน้างานเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนร่วมงาน ทำงานโดยเอาอารมณ์ความรู้สึกนำ กดขี่คนที่แตกต่าง มองเรื่องการสรวลสรร สำคัญกว่าความจริงจัง
4. จับผิด เข้มงวดกับคนอื่นแต่อ่อนข้อให้กับตัวเองและพวกพ้อง
5. ไม่สอนงาน อาศัยให้ลงงานเอง ผิดแล้วด่าเพื่อให้จดจำ ไม่สนใจความรู้สึกของผู้ที่ทำงานให้ คนด่าคิดว่าหวังดี ทว่ากลับเป็นการด้อยค่าคนอื่น
6. เป็นสังคม Collectivism มีความพวกเขาพวกเราสูงมาก และที่เกลียดที่สุดคือประโยค เราทำงานกันแบบพี่น้อง (ความมืออาชีพอยู่ที่ไหน อยากพูดเหลือเกินว่า พี่น้องแบบ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อนใช่ไหม)
7. เราทำงานในหน่วยงานราชการนะ ลำดับขั้นสำคัญมาก มากจนเกินไป ข้ามหน้าข้ามตาไม่ได้ แม้จะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่ต้องการความเร่งด่วนก็ตาม สภาพคล่องด้านการบริหารงานเราว่าขาดเสถียรภาพ คือ ระบบราชการไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ ใช้อีโก้แก้ปัญหา ตำแหน่งคือสำคัญกว่าปากท้องประชาชน ยิ่งเรื่องงบประมาณไม่ได้ถูกใช้อย่างรอบคอบสักเท่าไหร่ หมายรวมถึงเบี้ยเลี้ยงและค่าอาหารในการจัดประชุม หรือแม้กระทั่งไปดูงานต่างประเทศด้วย พบว่าบางครั้งคนดีและเก่งไม่ได้แสดงความสามารถมากพอ เพราะพวกเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่ชอบพูดแต่เน้นทำ มักจะโดนสกัดดาวรุ่งอยู่เสมอ คนเก่งมักไม่เติบโต เนื่องจากระบอบอาวุโสและพวกพ้อง
เอาจริงๆยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่าสาเหตุที่ประเทศเรายังไม่พัฒนาไปไหน เป็นเพราะลักษณะนิสัยที่มีร่วมกันของสังคมประมาณหนึ่งรึเปล่า คือเราไม่ได้ว่าตัวเราดีนะ ไม่เคยหลงตัวเองขนาดนั้น แต่เรากำลังจะพูดถึงว่า ลักษณะนิสัยแบบนี้หรือเปล่าที่ถ่วงความเจริญในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ข้าราชการยังบ้าขั้นบ้าตำแหน่งถืออาวุโสกันอยู่เลย เห็นคนดีกว่าเก่งกว่าก็ไม่ได้ และไม่ใช่สังคมที่เอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางปัญญาเลย ใช้แต่อารมณ์มาห้ำหั่น วุฒิภาวะต่ำเตี้ย อันนี้เราเห็นจากคนที่ใหญ่ที่สุดของกรมๆหนึ่งเลย เหวี่ยงวีนเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
ขอกำลังใจหน่อยค่ะ ทุกวันนี้ความเป็นตัวเองต้องอาศัยความแข็งแกร่งในจิตใจมาต่อสู้มากๆเพื่อยืนหยัดกับสังคมแบบนี้ เหนื่อยมากกกกับคน มีความคิดมีไอเดียมากมายของงานที่อยากจะทำก็ไม่เคยได้รับความสนใจค่ะ หรือเพื่อนๆพอจะมีงานที่เลี้ยงชีพตัวเองได้ดีโดยไม่ต้องรับมือกับเพื่อนร่วมงานหมู่มากแนะนำไหมคะ เอาจริงเรารู้สึกเหนื่อยมากๆเลยค่ะ บางวันอยากไหลตายไปเลย ไม่เสียดายชีวิตด้วย เบื่อค่ะ อ่อลืมบอกค่ะไม่รู้ว่าเกี่ยวไหมกลุ่มเราผู้หญิงเยอะค่ะ ทำงานกับผู้ชายปัญหาน้อยกว่ามากๆค่ะ
ขอคอมเม้นแบบสุภาพหน่อยนะคะ คือเรากำลังDownมากจริงๆและเราคิดว่าโลกทุกวันมันแย่มากๆแล้วใจดีต่อกันดีกว่าค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะถ้าได้อ่านมาจนจบตรงนี้ ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ