JJNY : โทนี่สอนรัฐ 5 วิธีแก้มหาวิกฤต│หมอธีระเตือนตุนเสบียง-ของจำเป็น│จี้อย.อย่าดองCovid Nudge│หนี้สาธารณะแตะเพดาน 58.88%

โทนี่ สอนรัฐ 5 วิธีแก้มหาวิกฤต ทำตามนี้ 1 ม.ค. กลับเปิดประเทศแบบ New normal
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6533412
 
 
โทนี่ “ทักษิณ” เสนอ 5 ข้อถึงรัฐบาล สอนวิธีการแก้ปัญหาทุกด้าน ขีดเส้น 1 ม.ค. ประชาชนต้องกลับมาใช้ชีวิตปกติ ทั้งด้านวัคซีน ยา เยียวยา การตรวจ พร้อมกลับมาใช้ชีวิต New normal
   
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ Tony Woodsome ได้ร่วมเสวนา ในรายการ Care Talk x Care  ClubHouse ตอน Roadmap to New normal วางเส้นทางสู่วิถีใหม่ โดยมีการถ่ายทอดสดหลายช่องทาง มีผู้ร่วมรับชมจำนวนมาก
 
ช่วงแรกของการดำเนินรายการ ทักษิณ ได้เริ่มด้วยการกล่าวปาฐกถา “Roadmap to New normal” โดยได้เสนอ 5 วิธีการแก้ปัญหาโควิดภายในสิ้นปี เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตแบบ “ปกติใหม่” ในวันที่ 1 มกราคม 2565 แก่รัฐบาล เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหามหาวิกฤตในรอบนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
 
New Normal ในที่นี่คืออะไร เนื่องจากอะไรที่เป็นปกติธรรมดาเดิมเป็นไม่ได้ เราถึงต้องเรียกว่า new normal เราต้องใช้ชีวิตเหมือนปกติให้ได้ ปัจจัยที่มาแทรกคือโรคโควิด ย้อนไปร้อยกว่าปีที่แล้วก็คือไข้หวัดสเปน เพราะร่างกายเราไม่รู้จักไวรัสตัวนี้ ยาก็กำลังทดลอง ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2019 มีคนตายจากไข้หวัดใหญ่ประมาณ 20,000 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ และผู้มีโรคแทรกซ้อน ซึ่งโควิดต่อไปก็จะเป็นแบบนี้เหมือนกัน หลายประเทศเริ่มบอกให้ประชาชนรู้แล้วว่าเราคงต้องอยู่กับโควิดแล้ว แต่จะอยู่อย่างไรให้ new normal ซึ่งถ้าอยู่แบบทุกวันนี้ต้องไปเข้าคิว ก็เลยทำให้ทุกวันนี้เป็น new disaster (หายนะครั้งใหม่) ซึ่งถ้าพอเข้าใจ new normal แล้วก็ต้องสร้าง roadmap ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลจริงจังแค่ไหน
 
ทักษิณ กลล่าวต่อว่า เราต้องวิ่งเร็วเท่าไวรัส ต้องเข้าใจก่อนว่าวันนี้วัคซีนเรามีไม่เพียงพอ บางตัวที่มีบุคคลากรทางการแพทย์ คนที่ไปฉีดแล้วก็สงสัยว่าภูมิคุ้มกันต่ำ แถมเราใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบปกติทำให้ได้วัคซีนช้า ที่ผ่านมาจึงได้นำเสนอวิธีการจัดหาวัคซีนแบบไม่เป็นทางการ เช่น ยืมจากประเทศที่วัคซีนเหลือเยอะ และจะหมดอายุ ยกตัวอย่าง อิสราเอลจะหมดอายุ เกาหลีใต้ไปยืม ประเทศไทยก็น่าจะลองติดต่อไป ขอเร็วหน่อยได้หรือไม่
 
วันนี้เราฉีดเฉลี่ยกัน 200,000 – 300,000 ต่อวัน วันหยุดยังพักผ่อนฉีดได้แค่วันละ 90,000 คน และกระจายจุดฉีด ขยายจากสถานนีกลางบางซื่อเพิ่มออกไป ตั้งเป้าภายใน 3 เดือน ต้องฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 700,000-1,000,000 โดส ต่อวัน ซึ่งถ้าฉีดมากพอจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ใช้ทุกกลไกลที่มีไปหาวัคซีนมา ขอให้ต้นทุนมันต่ำหน่อย ถ้าจะเป็นทางเลือกให้คนซื้อ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ต้องไปดูว่าสั่งซื้อเท่าไหร่ ทำไมเราถึงต้องซื้อแพงกว่าคนอื่น
 
ทักษิณ กล่าวต่อว่า เรื่องต่อมา Rapid Antigen Test ยุโรปขายในราคาหลักหลายสิบบาทไทย แต่บ้านเราวันนี้ 350 บาท บางแบรนด์ 250 บาท รัฐบาลจะต้องทำให้ราคาถูก ให้คนซื้อไปตรวจเองที่บ้าน อย่างน้อยต้องนำเข้ามา 60-100 ล้านชิ้น การตรวจแบบ Antigen Test มี false positive ได้ ต้องไปยืนยันด้วย CPR Test อีกที ซื้อมาให้ตรวจฟรี คนจะไม่ต้องไปประสาทว่าจะเป็นไม่เป็น ที่จีนมีเยอะ เอาเข้ามาภายใน 30 วันให้ได้ กรณีนี้ควรทำให้เสร็จภายใน 30 วัน
 
“ในภาวะโรคระบาด รัฐจ่ายได้ต้องจ่าย คนไทยไม่เคยจนอย่างนี้มาก่อน ทุกอย่างต้องประหยัดให้ได้ ไม่จำเป็นอย่าเก็บเขาเลย เช่น 1668 ที่คนออกมาโวย แอพฯราชการทั้งหลายที่ใช้มันกินดาต้าเขา แต่โอเปอเรเตอร์สามารถร่วมมือกันได้ถ้าตังค์เขาหมด แอพฯตัวนี้ยังปล่อยให้ใช้ได้ งบที่ให้ กสทช. ไปตั้งเยอะแยะควรเอามาช่วยประชาชนฐานล่าง แจกซิมฟรีให้นักเรียนไปเรียนหนังสือที่บ้าน ให้ฟรีคนละร้อย และเสียค่าซิมคนละ 15 บาท คุยกับโอเปอเรเตอร์ใหม่ ออกกันคนละครึ่ง” ทักษิณ กล่าว
 
ต่อมา เรื่อง Tracking หรือการติดตามประชาชน เมืองนอกใช้ QR Code ทุกวันนี้ไปศูนย์การค้า เมื่อมีเหตุมันก็จะไล่ได้เลยว่าคนนี้ไปไหนกันบ้าง ไม่ต้องมานั่งไล่ถาม ไม่กล้าพูดก็มี เดี๋ยวเมียรู้ก็มี เรื่องนี้ก็ต้องรีบทำ ต้องเสร็จได้ภายใน 2-3 เดือน
 
ต่อมา ทักษิณ ยังย้ำถึงการมใช้พื้นที่ของค่ายทหาร และทุกทรัพยากรที่ทหารมี เพื่อสร้างและขยาย รพ. สนาม รวมถึง รถพยาบาลพยาบาลทหาร ฝ่ายเสนารักษ์ เอามาช่วยได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ศักยภาพของสาธารณสุขเต็มหมดแล้ว ต้องขยายให้เพียงพอ โดยอยากให้ทางรัฐบาลทุ่มงบให้มากกว่านี้ งบกลางก็มีอยู่ ในเมื่อกู้มาใช้เรื่องโควิดก็ใช้ให้เต็มที่ วัคซีนที่ได้มาก็มาให้ด่านหน้าก่อน
 
“ท่านนายก ใส่ PPE แล้วลงไปโรงพยาบาลสนามเลย ไปที่ รพ.สนามธรรมศาสตร์ก็ได้ ท่านจะได้รู้จริง จะได้เห็นว่าอะไรต้องทำ จะได้จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง อย่า Work From Home แต่ง PPE ลงสนามเลย ไปสองที่ รพ. ธรรมศาสตร์ที่หนึ่ง และแวะไปดูคิวฉีดวัคซีนที่ ศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ ทุกวันนี้ออกันแน่นไปหมด ลงไปดูสองที่แล้วไปบริหารจัดการ ไม่ต้องไปกลัว ใส่ PPE หน้ากาก N95 และเมื่อไปดูให้เห็นของจริง จะได้รู้ปัญหาหน้างานจริง” 
 
ทั้งนี้ ทักษิณยังแนะ ให้รัฐบาลไทยไปสั่งจองยาของ Mers และยาฉีดของที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งอาจจะสามารถบรรเทาและรักษาโรคโควิดได้ในอนาคต  ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการทดลองใช้งานจริง
 
ทักษิณ กล่าวต่อว่า 1 มกราคม ควรจะฉลองปีใหม่ไปสู่ New Normal เราต้องอยู่กับโควิดไปให้ได้ เพราะรัฐบาลมีความพร้อม ถ้าทำตรงนี้ได้ จะลดเสียงด่าลงไปบ้าง ทุกวันนี้มีเพลงแต่งให้เยอะ ตนขอเตือนในฐานะที่ห่วงใยประชาชน ตนแก่กว่าท่านนายกฯ รู้ว่าอะไรทำมาเป็นประโยชน์ จากนี้ไป ถึงสิ้นปี ประเทศไทยต้องพร้อมกลับเข้าสู่ New Normal ให้ได้
 
ในแง่หนึ่ง รัฐเยียวยาไม่ทั่วถึง เห็นทุกข์ของประชาชนไม่เท่ากัน และประเทศเราจนแล้ว เลียนแบบประเทศร่ำรวยไม่ไหว ซึ่งหากเยียวยาไม่ไหว ก็ทำให้กลับไป new normal ให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้น นักรบทางเศรษฐกิจจะง่อยกันหมด จะไม่มีประชาชนหาเงินมาเสียภาษีให้ ต้องให้นักรบทางเศรษฐกิจกลับไปมีกำลังสู้ใหม่
 
สรุป ขั้นตอนที่ต้องทำวันนี้ คือ
เรื่องแรก วัคซีน 
เรื่องที่สอง เรื่องการตรวจ 
เรื่องที่สาม สถานที่รักษา

รื่องที่สี่ เรื่องการสั่งยา
เรื่องที่ห้า คือการดูแลการเยียวยาอย่างทั่วถึงให้คนกลับไปกลายเป็นนักรบเศรษฐกิจ เสียภาษีให้ได้

 
ทั้งนี้ ทักษิณ ได้เสนอเพิ่มอีกข้อ คือรัฐบาลมีผู้ที่อธิบายขั้นตอน อธิบายปัญหาได้ค่อนข้างจะแย่ ลองพูดคุยกับ คอลเซ็นเตอร์ โอเปอเรเตอร์ทุกค่ายโทรศัพท์มือถือ ถ้าเราขอความร่วมมือเขา แล้วให้ชาวบ้านไปถามจากช่องทางเหล่านี้ชัดเจนกว่า เพราะพวกนี้อบรมวิธีการตอบมาตอบได้ดีกว่า ทุกวันนี้สับสนจนผมสงสารชาวบ้าน วันนี้รัฐบาลต้องขอความร่วมมือจากเอกชน อย่างชินแต่การออกคำสั่งแบบที่เป็นอยู่
  

 
'หมอธีระ' เตือน ตุนเสบียง-ของจำเป็น วางแผนใช้จ่าย ระวังการลงทุน
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2853252
 
‘หมอธีระ’ เตือน ตุนเสบียง-ของจำเป็น วางแผนใช้จ่าย ระวังการลงทุน
 
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กว่า 
 
สถานการณ์ทั่วโลก 28 กรกฎาคม 2564 สายๆ วันนี้จะทะลุ 196 ล้าน ในขณะที่ฝรั่งเศสมียอดรวมเกิน 6 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 562,129 คน รวมแล้วตอนนี้ 195,921,795 คน ตายเพิ่มอีก 9,258 คน ยอดตายรวม 4,192,173 คน
 
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อเมริกา อินโดนีเซีย อินเดีย บราซิล และอิหร่าน อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 52,111 คน รวม 35,342,750 คน ตายเพิ่ม 309 คน ยอดเสียชีวิตรวม 627,379 คน อัตราตาย 1.8% อินเดีย ติดเพิ่ม 42,928 คน รวม 31,483,411 คน ตายเพิ่ม 640 คน ยอดเสียชีวิตรวม 422,054 คน อัตราตาย 1.3% บราซิล ติดเพิ่ม 41,411 คน รวม 19,749,073 คน ตายเพิ่ม 1,320 คน ยอดเสียชีวิตรวม 551,906 คน อัตราตาย 2.8% รัสเซีย ติดเพิ่ม 23,032 คน รวม 6,172,812 คน ตายเพิ่ม 779 คน ยอดเสียชีวิตรวม 155,380 คน อัตราตาย 2.5%  ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 26,871 คน ยอดรวม 6,026,115 คน ตายเพิ่ม 28 คน ยอดเสียชีวิตรวม 111,695 คน อัตราตาย 1.9%
 
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอเชีย และยุโรปที่ยังคงรุนแรง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ เวียดนาม ล้วนติดหลักพันอย่างต่อเนื่อง แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ส่วนอิหร่านนั้นติดเพิ่มกว่า 34,000 คน และอิรักก็ติดเพิ่มหลักหมื่นมาแล้วเช่นกัน กำลังเผชิญระลอกสามที่หนักกว่าที่เคยมีการระบาดมา กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และไต้หวัน ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงติดน้อยกว่าสิบ
 
สำหรับสถานการณ์ของไทยเรา ตอนนี้มียอดติดเชื้อรวมอยู่ที่อันดับ 46 ของโลก อีก 2-3 วันจะแซงคาซักสถานขึ้นเป็นอันดับ 45 ได้ ไทยมีจำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤติ มากเป็นอันดับที่ 7 ของโลก เป็นรองเพียงอินเดีย อเมริกา บราซิล โคลอมเบีย อิหร่าน และเม็กซิโก แต่หากดูเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้…เราเป็นอันดับ 1…
 
หากประเมินสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ด้วยมาตรการที่ดำเนินการอยู่ สิ่งที่ควรเราควรเตรียมรับมือ มีดังนี้
 
หนึ่ง การติดเชื้อใหม่จะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทั้งนี้ต่างจังหวัดในเขตเมืองจะมีมากขึ้น
  
สอง จังหวัด/เกาะ ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น การระบาดจะเริ่มเห็นเพิ่มขึ้น แต่มีแนวโน้มจะชัดเจนมากช่วงปลายสิงหาคม โดยปัจจัยหลักเกิดจากกิจกรรมกิจการต่างๆ ที่มีมากขึ้นในพื้นที่ ทำให้พบปะกัน สัมผัสกัน สังสรรค์กัน กระตุ้นให้การติดเชื้อแฝงในชุมชนที่มีอยู่เดิมนั้นขยายวงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องป้องกันตัวให้เข้มแข็ง ปรับรูปแบบการดำเนินกิจการกิจกรรมต่างๆ ให้เน้นความปลอดภัย
 
สาม ด้วยจำนวนติดเชื้อใหม่รายวันมีมาก ระบบการดูแลไม่ว่าจะที่บ้าน ที่พักคอย ที่ รพ.สนาม หรือที่โรงพยาบาล ไม่มีทางเพียงพอ ดังนั้นบทบาทของชุมชนจึงมีความสำคัญอย่างมากที่จะประคับประคองดูแลคนในพื้นที่ ปัญหาการติดเชื้อภายในที่อยู่อาศัยจะยังมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเมินแล้วคาดว่า shortcut ที่จำเป็นต้องทำคือ การเปิดวัดและโรงเรียนเพื่อรับผ่องถ่ายจากบ้านมาอยู่ที่นี่แทน จึงจะมีโอกาสลดทอนการแพร่เชื้อภายในบ้านได้ โดยอาจต้องขอกำลังพระภิกษุและคุณครูมาเป็นผู้ช่วยดูแลกำกับหรือประสานงาน
 
สี่ เตรียมเสบียงและสิ่งของจำเป็นไว้ในบ้าน ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้านไว้สัก 2-4 สัปดาห์ ก็จะเป็นประโยชน์ยามฉุกเฉิน การทบทวนสิ่งสำคัญ ข้อมูลสำคัญส่วนตัว และบันทึกไว้ในที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย หากไม่สบายและมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาตัว ก็จะสามารถส่งต่อให้กับสมาชิกในครอบครัวได้โดยไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วง
 
ห้า วางแผนการใช้จ่าย ระมัดระวังเรื่องการลงทุน หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินโดยไม่จำเป็นจริงๆ และระวังมิจฉาชีพที่จะหลอกลวงด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการค้าขาย การโฆษณาเกินจริง การล่อด้วยกิเลสให้เข้าถึงการรักษา หยูกยา รวมถึงวัคซีนต่างๆ
 
ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก ด้วยรักและห่วงใย

https://www.facebook.com/thiraw/posts/10222876113403846
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่