ในประเทศอื่นๆที่คนป่วย-ตายเพราโควิดมากกว่าไทย คนเขากลัวกันมากเหมือนบ้านเราไหมครับ?

เห็นบ้านเราทั้งประณามทั้งล่าแม่มดคนใช้ชีวิตตามปกติแล้วติดโควิด ( ทั้งที่กิจกรรมนั้นๆ ในเวลานั้นก็ไม่ได้ถูกสั่งห้าม เช่น สถานบันเทิงที่ก็เปิดในช่วงที่ไม่ได้ห้ามเปิด แต่ต่อมามีคนติดเชื้อ ) ผมกำลังคิดว่าสังคมไทยควรเลิกประสาทกินกับโควิดได้แล้วหรือเปล่า เพราะผ่านมาปีกว่าๆ สถิติทั่วโลกค่อนข้างนิ่งในระดับหนึ่งแล้วว่าโรคนี้ติดเชื้อง่ายจริงแต่อาการหนักถึงตายมีไม่มาก ถึงเวลาต้องอยู่ร่วมกับมันเสียที ให้คนทำมาหากินให้ใกล้เคียงปกติให้ได้มากที่สุด

ถ้าสังคมไทยไม่เลิกกลัวโควิดแบบประสาทกินอย่างที่เป็นอยู่ ต่อให้ฉีดวัคซีนจำนวนมากๆ ก็เปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่าไม่มีวัคซีนตัวไหนป้องกันการติดเชื้อได้ 100% มีแต่การลดความรุนแรงของโรคเท่านั้น หมายถึงฉีดแล้วติดเชื้อก็จะไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มากจนต้องนอน รพ. ซึ่งต่างประเทศเขาวางแผนกันแล้วว่าจะเร่งฉีดเพื่อให้กิจกรรมต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนยุคโควิดระบาดกลับมา ถามว่าคนไทยรับได้ไหม ถ้ายังกลัวกันอยู่ ยังเรียกร้องให้ล็อกดาวน์กันอยู่ ถามว่ารัฐบาลมีปัญญาดูแลประชาชนหรือ? ขนาดประเทศที่รวยๆ ยังทำไม่ได้เลยครับ

เลยสงสัยว่าในประเทศอื่นๆ ที่คนติดโควิดเยอะกว่าเรา ( แน่นอนมันก็ทำให้สัดส่วนคนตายเยอะกว่าด้วย ) เขากลัวโควิดมากเท่าบ้านเราไหมครับ 

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คำพูดจะทำเก่งยังไงก็ได้ค่ะ
แต่การเหยียดเอเชียรุนแรง ถึงกับมีคนบางลุ่มออกมาไล่ทำร้ายคนเอเชีย บ่งบอกได้ดีว่าเขากลัวโรคนี้ขนาดไหน
ถ้าเขาไม่คิดว่าโรคนี้มันเป็นปัญหารุนแรงเขาจะออกมาทำถึงขั้นนี้เหรอคะ
และเจ้าหน้าที่และพลเมืองบางส่วนยังทำท่าเพิกเฉย ผู้เกี่ยวข้องก็ทำท่าช่วยเหลือพอเป็นพิธี
ราวกับว่าคนเอเชียที่โดนทำร้ายสมควรแล้วที่ถูกกระทำ

ถ้าจะบอกว่าประเทศไทยกลัวจนประสาทกิน
คนพวกนี้ที่โทษดะ เที่ยวไล่ทำร้ายคนเอเชีย ประสาทกินกว่าคนไทยเยอะ
ความคิดเห็นที่ 12
ไม่ได้กลัวค่ะ แต่ไม่ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าเราติดแล้วทำให้คนอื่นติดไปด้วย
หรือสมาชิกครอบครัวที่ต้องพึ่งพาเราลำบากไปด้วย
หรือทำให้ต้องใช้ทรัพยากร บุคลากรทางการแพทย์มารักษาเรา แทนที่จะไปรักษาโรคที่ฉุกเฉิน
เราป้องกันตัวเอง เราเห็นใจคนอื่นที่เขาต้องทำงานแล้วมีความเสี่ยงสัมผัสกับผู้คน เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะเขาทำมาหากินอย่างสุจริต ไม่ใช่ไปเที่ยวในแหล่งโคจรแล้วเอาเชื้อไปแพร่ให้ผู้อื่น
ความคิดเห็นที่ 4
เราว่าแต่ละประเทศมีวิถีชีวิตที่แตกต่าง
มีความเชื่อที่แตกต่าง
มีความกลัวที่แตกต่าง

ประเทศสวิสคนทั้งประเทศรู้ว่าน้ำประปาที่สวิสดื่มได้และสะอาดพอทำให้เราเบาใจ
ที่โรงพยาบาลเปิดน้ำกอ๊กให้ผู้ป่วยดื่มแบบซิล ๆ  ทำให้เราผ่อนคลายไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะไม่สะอาด

ประเทศสวิสคนที่ติดเชื้อถ้าไม่มีอาการอะไรที่รุนแรงให้กักตัวอยู่บ้านรายงานตัวทางโทรศัพย์เป็นระยะ ๆของอาการไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่มีบุคคลกรทางการแพทย์คนใหน มาบอกว่าถ้าใครติดเชื้อ โควิด-19 ปอดจะเสียหายฟื้นฟูไม่ได้ตลอดชีวิต
ทำให้เราไม่ตื่นตะหนกอะไรเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่