26 กรกฎาคม 2564
โควิดเมื่อไรจะจบ ?? เอาอยู่ ?? #มุมมองส่วนตัว
โควิดเป็นไวรัสชนิดโคโรน่า ที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการรุนแรงมาก ในผู้ที่สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้อไวรัสประเภทโคโรน่ามีการนานแล้ว ตัวอย่างเชื้อที่ใกล้เคียงกับ Covid- 19 ที่เคยระบาดเมื่อ 10 ปีที่แล้วนั้นก็คือ เชื้อไวรัสซาร์ส (SARS) หรือเมื่อช่วงไม่กี่ปีก็คือโรคไวรัสเมอร์ส (MERS)
ด้วยโครงสร้าง DNA ทำให้สามารถกลายพันธ์ุ พัฒนาได้หลายแบบ แอลฟ่า เบต้า เดลต้า แกมม่า แต่ละสกุลมีลักษณะการแพร่ ขยายและการที่รุนแรงแตกต่างกัน วัคซีนจึงต้องพัฒนาตามแต่ละสายพันธ์ุ Covid -19 มีการเริ่มระบาดเมื่อปลายปี 2019 ในประเทศจีนจะต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เริ่มจากปลายปี 2019 การแพร่ระบาดโควิดจากประเทศจีน ก็แพร่ไปยังทวีปต่างๆ และประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
ภายใน 3 เดือนทุกประเทศโดนโจมตีด้วยไวรัสโควิด 19 อย่างหนัก และในต่อมาได้มีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จภายในปีแรกที่เชื้อระบาด วัคซีนยี่ห้อแรกที่ได้การรองรับจากองค์การอนามัยโลก WHO นั้นคือ วัคซีนจากสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อ ไฟเซอร์ - ไบโอเอ็นเทค ตามด้วยยี่ห้อต่าง ๆ หลากหลายถูกอนุมัติจากรัฐ ผลิตและแจกจ่ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
การฉีดวัคซีนตอนนี้ประเทศจีนเป็นประเทศทีฉีดวัคซีนครบแล้ว 100% ของจำนวนประชากร ฉีดไปทั่วประเทศแล้วมากกว่า 1,500 ล้านโดส ที่จำนวนประชากรทั้งหมด 1,400 ล้านคนและตอนนี้กำลังเข้าสู่การฉีดเข็มที่สองให้ครบทั้ง 100% ตอนนี้รัฐบาลจีนก็ยังใช้มาตรการเข้มข้นอยู่ด้วยการรักษาความสะอาด ไม่ใกล้ชิดกัน ใส่หน้ากากอนามัย และยังล็อคประเทศอยู่ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเพื่อควบคุมเชื้อ
ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด 4 แสน 5 หมื่นรายคิดเป็นร้อยละ 0.7% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศและกำลังจะเพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นวิกฤตทางสาธาณะสุขของโรงพยาบาล เนื่องจากไม่มีเตียงรองรับคนไข้มากเพียงพอ เกิดภาวะการขาดแคลนเตียง
ผมเห็นด้วยที่ออกมาตรการ Home Isolation การกักตัวที่บ้านมาใช้ คาดการณ์ว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า จำนวนผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้นอีก
โดยค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 2.5% ของประชากรโลก
ถ้าเป็นเคสเฉลี่ย 2.5% เทียบกับประเทศไทยก็จะมีคนเชื้อถึง 1.75 ล้านคน แต่หากเทียบกับประเทศจีน ที่มีการจำกัดการแพร่ระบาดอย่างเด็ดขาดแบบอู่ฮั่นโมเดล ประเทศไทยได้ก็จะมีผู้ติดเชื้อเพียง 9 หมื่นคนซึ่งเราเลยจุดนั้นมาแล้ว
ดังนั้นขอประเมินจากตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ 2.5% ณ ตอนนี้จนกว่า เราจะสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกเสร็จ ประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อ เฉลี่ยวันละ 15,000 คนไปอีก 4 เดือนกว่า แม้ว่าเราจะมีมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม (การคำนวนนี้ผมคำนวนเองนะครับจากสถิติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2021 )
ก่อนที่จะควบคุมได้ด้วยการฉีดวัคซีนจนเกิดเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ประเทศไทยณตอนนี้ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 17% คิดเป็นประชากรทั้งหมด 12 ล้านคน การฉีดวัคซีนในประเทศมีแนวโน้มที่จะฉีดได้จำนวนต่อวันที่เร็วขึ้น ในเฉลี่ย 7 วันที่ผ่านมา ฉีดวัคซีนได้ถึง 2 แสน 5 หมืนคนต่อวัน คิดเป็น 0.35% ต่อประชากร ต่อวัน
หากคิดจากตัวเลขการฉีดวัคซีนแล้วเป้าหมายการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้ 60% ของประเทศคงจะราวๆ อีก 130 วันข้างหน้าหรืออีก 4 เดือนเศษๆ จะตรงกับราวๆ เดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม
แต่หากจะคิดจากการฉีดเข็มที่ 2 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันหมู่อย่างเต็มที่ ผมเผื่อเวลาไปอีกสัก 1 - 2 เดือนในการฉีดเข็มสอง โดยสรุปแล้วภายใน--เดือนกุมภาพันธ์ 2565-- ประเทศไทยจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไปแล้วมากกว่า 60% ของจำนวนประชากรทั่งหมดนั้นก็คือ 42 ล้านคน
ตัวเลขที่คาดการณ์การติดโควิดในตอนนี้คือเคสที่ไม่ได้มีการป้องกันเทียบกับอเมริกามีประชากรติดถึง 10% ซึ่งสูงมากๆ เทียบกับประเทศไทยจะสูงถึง 7 ล้านคน แต่ถ้านับจากค่าเฉลี่ยของโลกต่อจำนวนประชากรแล้ว ตอนนี้ประเทศไทยที่ 0.7% แปลว่ายังมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ 2.5% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด
การที่ประเทศไทยติดโควิดในตอนนี้ 0.7% ต่อจำนวนประชากร ผมเห็นว่าที่ผ่านมาเราทำได้ดี เรามีโอกาสที่จะรอดจากวิกฤตในครั้งนี้มากกว่าในอีกหลายประเทศ ถ้าเราใส่ใจให้ข้อมูล Home Isolation กันมากขึ้น
ถ้าตอนนี้ถ้าผมติดโควิดก็ไม่แน่ใจว่าจะ Home Isolation ได้ถูกต้องหรือเปล่า หรือหลักการเป็นยังไง ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลจากแหล่งไหน หรือใคร เรามีตั้ง Single Command ขึ้นมาแล้วที่ออกคำสั่งกำหนดการต่างๆ แต่ผมภาวนาว่าเราจะมี Single communication ที่เราสามารถจะเชื่อข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และปฎิบัติตนได้อย่างปลอดภัยจากโควิดรอบนี้
สำหรับการลงทุนนับจากวิกฤติโควิดไปผมมองเห็นความเลื่อมล้ำที่มากขึ้นบริษัทในประเทศไทยที่มี Sizing Scale ใหญ่ จะอยู่ได้เนื่องจากเงินทุน และความสามารถเข้าถึงแหล่งเงิน ทำให้ปรับตัวได้ไว ได้เร็ว อึด ถึก ทนกว่าและคู่แข่งที่เป็นรายย่อยจะไม่สามารถผ่านวิกฤติทางเศรษฐกิจนี้ได้ เมื่อจบวิกฤติรายใหญ่ก็จะใหญ่ขึ้นไปอีก และจะครองส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น (Market cap มากขึ้น)
อีกประเด็นผมยกตัวอย่างความเลื่อมล้ำนอกตลาดหุ้นจะมากขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจนช่องว่างGap ความมั่งคั่งจะสูงขึ้น เช่น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัย คนรวยหรือคนที่มีกำลังทรัพย์และกวาดซื้ออสังหาในราคาถูกและมีเพิ่มมากขึ้น ตลาดอสังหาในยุคต่อไปจากนี้ จะเป็นตลาดของผู้เช่าทวีคูณมากขึ้น เพราะสถานะการณ์ตอนนี้เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก คนรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ได้อีกต่อไป
กรุงเทพมหานครก็มีแนวโน้มตามเมืองใหญ่ๆทั่วโลกโดยกรุงเทพเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 31 ของโลก คนทำงานเงินเดือนทั่วไปไม่สามารถซื้อบ้านเดี่ยวในเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพชั้นใน หรือกรุงเทพชั้นกลาง ก็ตาม
สุดท้ายหวังว่าจะนำตัวเลขผมที่คำนวนไปใช้กับการลงทุนได้รวมถึงปรับตัวในการใช้ชีวิตผมคิดว่าไวรัสยังจะอยู่กับเราไปอีกหลายปี 10 ปี หรืออาจจะอยู่ชั่วชีวิตเราเลยก็ได้ เรามีหน้าที่เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมันได้ และป้องกันให้ดีที่สุด สติเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการรับข้อมูลข่าวสารในช่วงเวลานี้
#google stat
#สินธรนาวี
โควิดเมื่อไรจะจบ ?? เอาอยู่ ?? #มุมมองส่วนตัว
โควิดเมื่อไรจะจบ ?? เอาอยู่ ?? #มุมมองส่วนตัว
โควิดเป็นไวรัสชนิดโคโรน่า ที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการรุนแรงมาก ในผู้ที่สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้อไวรัสประเภทโคโรน่ามีการนานแล้ว ตัวอย่างเชื้อที่ใกล้เคียงกับ Covid- 19 ที่เคยระบาดเมื่อ 10 ปีที่แล้วนั้นก็คือ เชื้อไวรัสซาร์ส (SARS) หรือเมื่อช่วงไม่กี่ปีก็คือโรคไวรัสเมอร์ส (MERS)
ด้วยโครงสร้าง DNA ทำให้สามารถกลายพันธ์ุ พัฒนาได้หลายแบบ แอลฟ่า เบต้า เดลต้า แกมม่า แต่ละสกุลมีลักษณะการแพร่ ขยายและการที่รุนแรงแตกต่างกัน วัคซีนจึงต้องพัฒนาตามแต่ละสายพันธ์ุ Covid -19 มีการเริ่มระบาดเมื่อปลายปี 2019 ในประเทศจีนจะต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เริ่มจากปลายปี 2019 การแพร่ระบาดโควิดจากประเทศจีน ก็แพร่ไปยังทวีปต่างๆ และประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
ภายใน 3 เดือนทุกประเทศโดนโจมตีด้วยไวรัสโควิด 19 อย่างหนัก และในต่อมาได้มีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จภายในปีแรกที่เชื้อระบาด วัคซีนยี่ห้อแรกที่ได้การรองรับจากองค์การอนามัยโลก WHO นั้นคือ วัคซีนจากสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อ ไฟเซอร์ - ไบโอเอ็นเทค ตามด้วยยี่ห้อต่าง ๆ หลากหลายถูกอนุมัติจากรัฐ ผลิตและแจกจ่ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
การฉีดวัคซีนตอนนี้ประเทศจีนเป็นประเทศทีฉีดวัคซีนครบแล้ว 100% ของจำนวนประชากร ฉีดไปทั่วประเทศแล้วมากกว่า 1,500 ล้านโดส ที่จำนวนประชากรทั้งหมด 1,400 ล้านคนและตอนนี้กำลังเข้าสู่การฉีดเข็มที่สองให้ครบทั้ง 100% ตอนนี้รัฐบาลจีนก็ยังใช้มาตรการเข้มข้นอยู่ด้วยการรักษาความสะอาด ไม่ใกล้ชิดกัน ใส่หน้ากากอนามัย และยังล็อคประเทศอยู่ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเพื่อควบคุมเชื้อ
ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด 4 แสน 5 หมื่นรายคิดเป็นร้อยละ 0.7% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศและกำลังจะเพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นวิกฤตทางสาธาณะสุขของโรงพยาบาล เนื่องจากไม่มีเตียงรองรับคนไข้มากเพียงพอ เกิดภาวะการขาดแคลนเตียง
ผมเห็นด้วยที่ออกมาตรการ Home Isolation การกักตัวที่บ้านมาใช้ คาดการณ์ว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า จำนวนผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้นอีก
โดยค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 2.5% ของประชากรโลก
ถ้าเป็นเคสเฉลี่ย 2.5% เทียบกับประเทศไทยก็จะมีคนเชื้อถึง 1.75 ล้านคน แต่หากเทียบกับประเทศจีน ที่มีการจำกัดการแพร่ระบาดอย่างเด็ดขาดแบบอู่ฮั่นโมเดล ประเทศไทยได้ก็จะมีผู้ติดเชื้อเพียง 9 หมื่นคนซึ่งเราเลยจุดนั้นมาแล้ว
ดังนั้นขอประเมินจากตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ 2.5% ณ ตอนนี้จนกว่า เราจะสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกเสร็จ ประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อ เฉลี่ยวันละ 15,000 คนไปอีก 4 เดือนกว่า แม้ว่าเราจะมีมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม (การคำนวนนี้ผมคำนวนเองนะครับจากสถิติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2021 )
ก่อนที่จะควบคุมได้ด้วยการฉีดวัคซีนจนเกิดเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ประเทศไทยณตอนนี้ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 17% คิดเป็นประชากรทั้งหมด 12 ล้านคน การฉีดวัคซีนในประเทศมีแนวโน้มที่จะฉีดได้จำนวนต่อวันที่เร็วขึ้น ในเฉลี่ย 7 วันที่ผ่านมา ฉีดวัคซีนได้ถึง 2 แสน 5 หมืนคนต่อวัน คิดเป็น 0.35% ต่อประชากร ต่อวัน
หากคิดจากตัวเลขการฉีดวัคซีนแล้วเป้าหมายการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้ 60% ของประเทศคงจะราวๆ อีก 130 วันข้างหน้าหรืออีก 4 เดือนเศษๆ จะตรงกับราวๆ เดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม
แต่หากจะคิดจากการฉีดเข็มที่ 2 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันหมู่อย่างเต็มที่ ผมเผื่อเวลาไปอีกสัก 1 - 2 เดือนในการฉีดเข็มสอง โดยสรุปแล้วภายใน--เดือนกุมภาพันธ์ 2565-- ประเทศไทยจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไปแล้วมากกว่า 60% ของจำนวนประชากรทั่งหมดนั้นก็คือ 42 ล้านคน
ตัวเลขที่คาดการณ์การติดโควิดในตอนนี้คือเคสที่ไม่ได้มีการป้องกันเทียบกับอเมริกามีประชากรติดถึง 10% ซึ่งสูงมากๆ เทียบกับประเทศไทยจะสูงถึง 7 ล้านคน แต่ถ้านับจากค่าเฉลี่ยของโลกต่อจำนวนประชากรแล้ว ตอนนี้ประเทศไทยที่ 0.7% แปลว่ายังมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ 2.5% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด
การที่ประเทศไทยติดโควิดในตอนนี้ 0.7% ต่อจำนวนประชากร ผมเห็นว่าที่ผ่านมาเราทำได้ดี เรามีโอกาสที่จะรอดจากวิกฤตในครั้งนี้มากกว่าในอีกหลายประเทศ ถ้าเราใส่ใจให้ข้อมูล Home Isolation กันมากขึ้น
ถ้าตอนนี้ถ้าผมติดโควิดก็ไม่แน่ใจว่าจะ Home Isolation ได้ถูกต้องหรือเปล่า หรือหลักการเป็นยังไง ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลจากแหล่งไหน หรือใคร เรามีตั้ง Single Command ขึ้นมาแล้วที่ออกคำสั่งกำหนดการต่างๆ แต่ผมภาวนาว่าเราจะมี Single communication ที่เราสามารถจะเชื่อข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และปฎิบัติตนได้อย่างปลอดภัยจากโควิดรอบนี้
สำหรับการลงทุนนับจากวิกฤติโควิดไปผมมองเห็นความเลื่อมล้ำที่มากขึ้นบริษัทในประเทศไทยที่มี Sizing Scale ใหญ่ จะอยู่ได้เนื่องจากเงินทุน และความสามารถเข้าถึงแหล่งเงิน ทำให้ปรับตัวได้ไว ได้เร็ว อึด ถึก ทนกว่าและคู่แข่งที่เป็นรายย่อยจะไม่สามารถผ่านวิกฤติทางเศรษฐกิจนี้ได้ เมื่อจบวิกฤติรายใหญ่ก็จะใหญ่ขึ้นไปอีก และจะครองส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น (Market cap มากขึ้น)
อีกประเด็นผมยกตัวอย่างความเลื่อมล้ำนอกตลาดหุ้นจะมากขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจนช่องว่างGap ความมั่งคั่งจะสูงขึ้น เช่น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัย คนรวยหรือคนที่มีกำลังทรัพย์และกวาดซื้ออสังหาในราคาถูกและมีเพิ่มมากขึ้น ตลาดอสังหาในยุคต่อไปจากนี้ จะเป็นตลาดของผู้เช่าทวีคูณมากขึ้น เพราะสถานะการณ์ตอนนี้เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก คนรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ได้อีกต่อไป
กรุงเทพมหานครก็มีแนวโน้มตามเมืองใหญ่ๆทั่วโลกโดยกรุงเทพเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 31 ของโลก คนทำงานเงินเดือนทั่วไปไม่สามารถซื้อบ้านเดี่ยวในเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพชั้นใน หรือกรุงเทพชั้นกลาง ก็ตาม
สุดท้ายหวังว่าจะนำตัวเลขผมที่คำนวนไปใช้กับการลงทุนได้รวมถึงปรับตัวในการใช้ชีวิตผมคิดว่าไวรัสยังจะอยู่กับเราไปอีกหลายปี 10 ปี หรืออาจจะอยู่ชั่วชีวิตเราเลยก็ได้ เรามีหน้าที่เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมันได้ และป้องกันให้ดีที่สุด สติเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการรับข้อมูลข่าวสารในช่วงเวลานี้
#google stat
#สินธรนาวี