สอนการบ้านลูก จนลูกร้องไห้ รู้สึกผิดมาก

ด้วยสถานการณ์แบบนี้ เราเป็นห่วงเด็กชุดนี้มากที่สุด ที่ต้องมาพบกับโรคระบาด 
การบ้านที่ไปรับมาจากครู เราก็พยายามสอน นะคะ แต่คือด้วยความที่เราเป็นคนใจร้อน และขอบอกเลยว่า การควบคุมอารมณ์มันน้อยมากๆ ลูกเราขึ้นป.1 ค่ะ แล้วก็ เจอสถานการณ์โควิดมา ตั้งแต่ อนุบาล 3 ปลายๆ เราไม่ใช่แม่ประเภทที่แบบ ให้ลูกเล่นมือถือทั้งวันทั้งคืน เล่นได้ แต่ให้เล่นเป็นเวลา ไม่เกิน 1 ชั่วโมง และทุกครั้งที่เราไปทำงาน ลูกจะโทรมาขออนุญาตเราเล่นก่อนเสมอ (เราไม่ได้สั่งให้เค้าทำนะคะ เค้าทำเอง)
จนมาถึงเรื่องการสอนการบ้าน ลูกเราไม่ได้ขี้เกียจที่จะทำแต่อย่างใด  แต่มันก็มีบ้างที่ลูกเราไม่เข้าใจ แต่เราโมโหตัวเองมากที่ต้องใช้น้ำเสียงกับลูกแบบ ทำให้เค้ารู้สึกกดดัน และไม่กล้าที่จะทำ วันนั้น เราอนุญาตให้เค้าเล่นไอแพด เค้าบอก ขออีกแปปนึ่งนะครับ เราเลยถามว่า ทำไมหรอ แม่ให้หนูเล่นได้เพราะหนูทำอะไรเสร็จแล้ว เค้าเลยบอก อีกแปปหนึ่งครับ กลัวอ่านหนังสทอไม่ออก ถ้าดูเยอะๆ เราจึกในใจมากๆ 
เราอยากอารมณ์เย็นกว่านี้ในการสอนการบ้านลูก วันนั้นลูกร้องไห้ เราก็ขอโทษเค้านะ พร้อมกับอธิบาย ว่าแม่อารมณ์ร้อนเกินไป ไม่เข้าใจ ต่อไปแม่จะพยายามอารมณ์เย็นกว่านี้และสอนการบ้านหนู แต่หนูต้องตั้งใจนะครับ เค้าก็บอก ครับ 
เราอยากเป็นคนอารมณ์เย็นมากกว่านี้ เรากลัวลูกเตลิด จนกลายเป็นคนไม่กล้าแสดงออกหรือไม่กล้าที่จะถาม เพราะกลัวเราดุ ขอความคิดเห็นคำแนะนำจากคุณแม่หน่อยค่ะมขอบคุณมากๆค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มันจะเริ่มจากการสอน แล้วเริ่มอารมณ์เสีย เพราะเราคาดหวังว่าเค้าจะเข้าใจและทำได้
ถ้ารู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังสอนเค้าไม่เข้าใจ
ให้คุณย้อนกลับไปสอนสิ่งที่ง่ายกว่านั้น ค้นหาก่อนว่าเค้าเริ่มไม่เข้าใจมาตั้งแต่จุดไหน แล้วสอนไล่มาใหม่ตั้งแต่จุดนั้นนะครับ

เช่นการบ้าน บทที่ 5 ลูกทำไม่ได้ เราลองย้อนไปแบบฝึกหัดบทที่ 4 ให้ทำดู
ถ้าทำไม่ได้ ก็ย้อนไปบทที่ 3
ถ้าบทที่ 3 ทำได้ แสดงว่าเริ่มเป๋ตั้งแต่บทที่ 4  
เราจึงต้องทบทวนบทที่ 3 อีกรอบ
และสอนบทที่ 4 ใหม่ทั้งหมด เมื่อทำบทที่4 ได้แล้วจึงสอนบทที่ 5

เป็นการต่อสายไฟที่ขาดให้เค้า  แต่ต้องระลึกไว้ว่าทุกบทที่ย้อนกลับไป หากลูกทำไม่ได้ จงสงบใจเอาไว้ เราเห็นปัญหานั้นแล้ว ค่อยๆแก้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่