👾👾👾
เป็นหนังเกาหลีในปี 2013 ที่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันเอามากๆ เรื่องราวของโรคระบาด ข้าราชการที่เห็นแก่หน้าตาตัวเองมากกว่าประชาชน การแก้ปัญหาที่ย่ำแย่ การขาดแคลนวัคซีน ซึ่งเรื่องราวทุกอย่างมันทำให้ผมคิดถึงประเทศหนึ่งในแถบอาเซียน ที่กำลังเผชิญสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตในแบบเดียวกัน (หวังว่าจะไม่โดนตรวจสอบนะ 555)
👾👾👾
เรื่องราวของการระบาดไข้หวัดสายพันธุ์มรณะ ที่จะฆ่าเหยื่อภายใน 36 ชั่วโมง ส่งผลให้ประชากรเกือบ 5 แสนคน เกิดความหวาดกลัวกลายเป็นเหตุจลาจลย่อมๆ ตัวละครหลักเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย "คังจีกู" และคุณหมอสาวแสนสวย "คิมอินแฮ" โดยตัวเรื่องเล่าถึงแก๊งค์ค้ามนุษย์ข้ามชาติลักลอบนำแรงงานต่างด้าว ข้ามฝั่งจากประเทศจีนมายังเกาหลีใต้ โดยซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ แต่เพราะสาเหตุใดไม่ทราบแน่ชัด เหล่าแรงงานได้เสียชีวิตไปเกือบหมด เหลืออยู่เพียงเด็กหนุ่มที่ชื่อ "มองไซ" ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้หวัดมรณะมาสู่คนในเมือง จนเกิดความโกลาหลไปทั่ว ทางรัฐจึงต้องปิดล้อมทั้งเมืองไว้ ก่อนจะจัดการด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด
👾👾👾
เทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้แล้ว หนังเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นในปี 2013 มันกลับกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนสถานการณ์ ณ ตอนนี้ได้แบบตรงเป๊ะ หนังเล่าเรื่องเข้าประเด็นได้แบบกระชับฉับไว สนุกตื่นเต้นแบบตรงประเด็นทุอย่าง มีเพียงแค่ตอนช่วงที่หนังแวะไปเล่นกับเรื่องของตัวละครที่มันค่อนข้างจะออกนอกประเด็นไปบ้าง แต่หนังก็วกกลับมาเข้าเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หนังดูสนุกเข้มข้นตลอดทั้งเรื่อง
👾👾👾
ว่าแต่เรื่องราวของหนังมันทำให้นึกย้อนไปถึงประเทศหนึ่ง ที่ทุกอย่างเหมือนกันเหมือนกับถอดแบบมา ตั้งแต่การติดเชื้อไวรัส การแพร่เชื้อกระจายไปอย่างรวดเร็ว การจัดทำวัคซีนที่มีแต่คนจ้องจะเอาผลงาน ผลเสียจากการทำงานของภาครัฐที่ไม่สอดคล้องหรืออยู่ในทิศทางเดียวกัน นักการเมืองที่เห็นแก่ตัวห่วงแต่หน้าตาตัวเอง ทำให้สถานการณ์บานปลายเกินกว่าจะควบคุม ซึ่งยิ่งดูก็ยิ่งสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่มันใกล้ตัวสุดๆ
👾👾👾
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับประเทศที่ผมว่ารึเปล่า เพราะมีหลายๆ อย่างที่เหมือนเราได้เห็นแบบ เดจาวู ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ที่ว่า "มันก็แค่ไข้หวัดประเภทหนึ่ง" หรือ "รีบจัดการปิดข่าวนโซเชีบลมีเดียให้หมด อย่าให้มันแพร่ออกไป" ยิ่งดูผมยิ่งรู้สึกว่า หรือมันคือ pattern ของข้าราชการทุกที่รึเปล่า แต่สุดท้ายแล้วแง่คิดที่ได้จากหนังประเภทนี้คือการบริหารจัดการที่ถูกต้องและรวดเร็ว กับการคิดถึงประชาชนมาก่อนที่ไม่ใช่แค่คิดถึงแต่หน้าตาของตัวเองเท่านั้น เมื่อมีการจัดการที่ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะควบคุมได้แน่นอน
ชอบอ่านรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] THE FLU มหันตภัยไข้หวัดมฤตยู - โรคระบาด ความเห็นแก่ตัว การแก้ไขปัญหา การขาดแคลนวัคซีน ก่อให้เกิดผลที่ย่ำแย่
👾👾👾
เป็นหนังเกาหลีในปี 2013 ที่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันเอามากๆ เรื่องราวของโรคระบาด ข้าราชการที่เห็นแก่หน้าตาตัวเองมากกว่าประชาชน การแก้ปัญหาที่ย่ำแย่ การขาดแคลนวัคซีน ซึ่งเรื่องราวทุกอย่างมันทำให้ผมคิดถึงประเทศหนึ่งในแถบอาเซียน ที่กำลังเผชิญสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตในแบบเดียวกัน (หวังว่าจะไม่โดนตรวจสอบนะ 555)
👾👾👾
เรื่องราวของการระบาดไข้หวัดสายพันธุ์มรณะ ที่จะฆ่าเหยื่อภายใน 36 ชั่วโมง ส่งผลให้ประชากรเกือบ 5 แสนคน เกิดความหวาดกลัวกลายเป็นเหตุจลาจลย่อมๆ ตัวละครหลักเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย "คังจีกู" และคุณหมอสาวแสนสวย "คิมอินแฮ" โดยตัวเรื่องเล่าถึงแก๊งค์ค้ามนุษย์ข้ามชาติลักลอบนำแรงงานต่างด้าว ข้ามฝั่งจากประเทศจีนมายังเกาหลีใต้ โดยซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ แต่เพราะสาเหตุใดไม่ทราบแน่ชัด เหล่าแรงงานได้เสียชีวิตไปเกือบหมด เหลืออยู่เพียงเด็กหนุ่มที่ชื่อ "มองไซ" ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้หวัดมรณะมาสู่คนในเมือง จนเกิดความโกลาหลไปทั่ว ทางรัฐจึงต้องปิดล้อมทั้งเมืองไว้ ก่อนจะจัดการด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด
👾👾👾
เทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้แล้ว หนังเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นในปี 2013 มันกลับกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนสถานการณ์ ณ ตอนนี้ได้แบบตรงเป๊ะ หนังเล่าเรื่องเข้าประเด็นได้แบบกระชับฉับไว สนุกตื่นเต้นแบบตรงประเด็นทุอย่าง มีเพียงแค่ตอนช่วงที่หนังแวะไปเล่นกับเรื่องของตัวละครที่มันค่อนข้างจะออกนอกประเด็นไปบ้าง แต่หนังก็วกกลับมาเข้าเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หนังดูสนุกเข้มข้นตลอดทั้งเรื่อง
👾👾👾
ว่าแต่เรื่องราวของหนังมันทำให้นึกย้อนไปถึงประเทศหนึ่ง ที่ทุกอย่างเหมือนกันเหมือนกับถอดแบบมา ตั้งแต่การติดเชื้อไวรัส การแพร่เชื้อกระจายไปอย่างรวดเร็ว การจัดทำวัคซีนที่มีแต่คนจ้องจะเอาผลงาน ผลเสียจากการทำงานของภาครัฐที่ไม่สอดคล้องหรืออยู่ในทิศทางเดียวกัน นักการเมืองที่เห็นแก่ตัวห่วงแต่หน้าตาตัวเอง ทำให้สถานการณ์บานปลายเกินกว่าจะควบคุม ซึ่งยิ่งดูก็ยิ่งสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่มันใกล้ตัวสุดๆ
👾👾👾
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับประเทศที่ผมว่ารึเปล่า เพราะมีหลายๆ อย่างที่เหมือนเราได้เห็นแบบ เดจาวู ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ที่ว่า "มันก็แค่ไข้หวัดประเภทหนึ่ง" หรือ "รีบจัดการปิดข่าวนโซเชีบลมีเดียให้หมด อย่าให้มันแพร่ออกไป" ยิ่งดูผมยิ่งรู้สึกว่า หรือมันคือ pattern ของข้าราชการทุกที่รึเปล่า แต่สุดท้ายแล้วแง่คิดที่ได้จากหนังประเภทนี้คือการบริหารจัดการที่ถูกต้องและรวดเร็ว กับการคิดถึงประชาชนมาก่อนที่ไม่ใช่แค่คิดถึงแต่หน้าตาของตัวเองเท่านั้น เมื่อมีการจัดการที่ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะควบคุมได้แน่นอน
ชอบอ่านรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้