กระทู้แรกนะจะพยายามเขียนให้เข้าใจ รู้สึกว่าครั้งนี้มีผลกระทบกับชีวิตตัวเองมาก
เราอยู่ต่างจังหวัด แต่ก่อนเราทำงานในโรงงาน แล้วได้รับผลกระทบจากโควิท รอบแรก Order ลดลงรับชส่วนจากต่างประเทศไม่ได้เลยต้องลดการผลิตลง เราโดนจ้างออกได้เงินมาก้อนหนึ่งเอาไปเคลียร์หนี้ต่างๆ แล้วตัดสินใจกลับบ้านอีกจังหวัดหนึ่ง
เรากลับไปอยู่กับย่า ญาติๆให้ไปดูแลเพราะแกอยู่คนเดียว เราก็ตั้งใจว่าจะเอาเงินก้อนที่ได้มาไปลงทุนขายของเล็กๆน้อยๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้ตลาดสดและโรงเรียน แล้วพื้นที่แถวบ้านค่อนข้างปรอดภัยคนติดไวรัสน้อยมาก จนสามารถใช้ชีวิตปกติได้มาตลอด
เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนญาติที่ทำงานเทศบาลพาเราไปฉีดวัคซีน เค้าบอกว่าฉีดไว้เพราะในบ้านมีคนแก่ แต่ใจนึงเราก็ไม่อยากฉีดนะ เราอยากฉีดไฟเซอร์หรือโมเดลน่า แต่ก็ต้องจำใจฉีดไป
หลังจากฉีดวัคซีนได้ 2-3 วันมีเสียงประกาศจากเทศบาลบอกว่าแม่ค้าในตลาดสดมีการติดเชื้อไวรัส นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไวรัสมาอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ บ้านเรารอดมาตลอดเพราะเป็นตลาดเก่าที่ไม่คึกคักคนน้อย ไม่ค่อยมีคนนอกพื้นที่เข้าออก ในพื้นที่ตลาดมีแต่ผู้สูงอายุกับเด็กๆ ส่วนผู้ใหญ่คนวัยทำงานจะไปทำงานที่อื่นกันหมดนานๆจะกลับมาบ้านทีนึง เนื่องด้วยสภาพตลาดเป็นแบบนี้ถึงไม่มีคนติดเชื้อในพื้นที่เลยมาตลอด จะไปติดอยู่ที่ตำบลอื่น
พอมีไวรัสโผล่มาครั้งแรกจากปกติคนก็น้อยเงียบเหงาอยู่แล้วเงียบหนักขึ้นไปอีก เด็กๆ ก็ไม่เดินผ่านเข้าพื้นที่ตลาด แม่ค้าในตลาดสดก็โดนปิดแผงไม่ให้ขายจนถึงสิ้นเดือน เราเองก็รายได้ต่อวันน้อยมากบางวันแทบขายไม่ได้เลย อาหารก็หาซื้อยากเพราะตลาดสดปิด ไปซื้อไข่ หมู ปลา ผักไม่ได้เลย ออกนอกพื้นที่ก็ไม่ได้
พอความเครียดมากๆเข้าพวกแม่ค้าและคนในตลาดก็เริ่มสืบกันว่าใครเป็นคนเอาเชื้อเข้ามา เพราะทางเทศบาลไม่ประกาศชื่อบอกแค่ Timeline ว่าติดมากจากตลาดไท แล้วเอามาแพร่เชื้อในตลาดบ้านเรา
เมื่อวานเราได้รู้แล้วว่าคนที่เอาเชื้อมาปล่อยในตลาดเป็นใคร แม่ค้าในตลาดสดเค้าไปเยี่ยมญาติพยาบาลที่ดูแลโรงพยาบาลสนามแล้วเจอคนแพร่เชื้อ
สิ่งที่น่าผิดหวังคือเรารู้จักกับแม่ค้าคนนั้นเราซื้อของกับเค้าบ่อยเค้าเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ แต่เค้ากับเราต่างกันตรงที่ เราโดนบังคับให้ไปฉีดวัคซีนแต่เค้าปฏิเสธการฉีดเค้าจะรอไฟเซอร์อย่างเดียวเลย แล้วสรุปว่าตอนนี้บ้านเค้าติดกันครบเลยทั้งบ้าน พ่อ แม่ ลูก ส่วนเราก็กักตัวอยู่ในบ้านดูอาการหลายวันแล้วใช้ชีวิตลำบากมาก ล่าสุดแม่ของเพื่อนอีกคนที่อยู่ฝ่ายไล่ลุงก็ติดเชื้อพึ่งเข้าโรงพยาบาล แล้วก็เริ่มมีคนติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จัก
ตอนนี้เราสับสนมากใจนึงก็อยากด่าว่าทำไมเอาเชื้อเข้ามา แต่ใจนึงก็เข้าใจเค้าว่าไม่ได้ตั้งใจ คิดไปคิดมาพยายามทำความเข้าใจหลายๆอย่าง ก็คิดได้ว่าโชคดีที่เราไม่ได้ปฏิเสธวัคซีนเหมือนเพื่อนๆคนอื่น ตอนนี้กลายเป็นว่ามีแต่พวกเราที่อยู่ฝ่ายไล่ลุงและปฏิเสธวัคซีนที่ติดเชื้อและส่วนหนึ่งคือคนที่ยังไม่ฉีดที่ติดเชื้อเหมือนกัน
ตอนนี้เราไม่โอเคมากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราตอนนี้ เรารู้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีเพราะรัฐบาลห่วยจนถึงตอนนี้เราก็อยากให้ลาออก แต่คนที่มาซ้ำเติมชีวิตเราให้แย่เข้าไปอีกกลายเป็นฝ่ายเราเองที่ทำให้เกิดขึ้น
เราขอบ่นเพิ่มตรงนี้อีกหน่อย คนละครึ่ง 50:50 นะปกติเราจะมีร้านประจำที่ซื้อของแล้วรับคนละครึ่งและเราชนะตลอด แต่ครั้งนี้ตั้งแต่มีข่าวเรื่องเก็บภาษีย้อนหลังเค้าก็ไม่รับคนละครึ่ง เราก็ลำบากต้องไปซื้อร้านอื่นเพราะเงินเราน้อย เค้าก็มาว่าเราอีกว่าไม่ซื้อกับเค้าเพราะปกติซื้อประจำแพราะใกล้บ้าน
ตอนนี้เราอยากให้เพื่อนๆทุกคนฉีดเถอะวัคซีนนะตัวไหนก็ได้รีบๆฉีด ได้ฉีดซักเข็มยังไงมันก็ดีกว่าไม่ฉีดอยู่แล้ว อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงหรือทำให้ตัวเองเป็นตัวแพร่เชื้อเลย ตอนนี้แม่เพื่อนอีกคนที่ติดก็อายุ 70 แล้ว เค้าก็เกลียดลุงไล่ลุงเหมือนกันแต่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะพวกเราเอง แบบนี้เรารู้สึกแย่
วัคซีนนะฉีดกันเถอะ เราอยากใช้ชีวิตปกติ พอค้าขายได้ปกติเมื่อไหร่ไวรัสสงบเมื่อไหร่ จะไล่ลุงหรือเลือกตั้งใหม่ยังไงก็ได้เดียวเราไปช่วยประท้วงแต่ตอนนี้ขอล่ะ รีบๆฉีดวัคซีนกัน ถ้ายังมีคนติดเชื้ออยู่แบบนี้เราก็ไม่ไหวนะ
ตอนนี้เราเหลือเงินอยู่ 23000 ไม่รู้ว่าจะใช้ได้อีกกี่เดือน เราอยากขายของ เราอยากใช้ชีวิตปกติ เราอยากทำงาน ฉีดวัคซีนกันนะ อย่าปฏิเสธเลย อย่าถ่วงเวลาเลย อย่ากลัวการฉีดไขว้เราเห็นอาจารย์เจดแล้วเค้าก็บอกว่าฉีดไขว้ได้ เราเห็นข่าวของอังกฤษแล้วว่าเค้าก็ฉีดไขว้เค้าถึงปล่อยใช้ชีวิตปกติได้ ตอนนี้เราเริ่มเกลียดพวกเดียวกันเองแล้วที่มีแต่ข่าวให้คนกลัวไวรัสกลัวการฉีดไขว้ ทั้งๆที่มันสามารถฉีดได้ เราขอหล่ะถ้าเงินเราหมดก่อนไวรัสสงบเราจะทำยังไง เราจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง หรือว่าเราต้องตายก่อนถึงจะพอใจกัน ไปฉีดวัคซีนกันนะเราขอร้อง
ที่บ้านโดนผลกระทบจาก Covid ตกงานไม่มีรายได้
เราอยู่ต่างจังหวัด แต่ก่อนเราทำงานในโรงงาน แล้วได้รับผลกระทบจากโควิท รอบแรก Order ลดลงรับชส่วนจากต่างประเทศไม่ได้เลยต้องลดการผลิตลง เราโดนจ้างออกได้เงินมาก้อนหนึ่งเอาไปเคลียร์หนี้ต่างๆ แล้วตัดสินใจกลับบ้านอีกจังหวัดหนึ่ง
เรากลับไปอยู่กับย่า ญาติๆให้ไปดูแลเพราะแกอยู่คนเดียว เราก็ตั้งใจว่าจะเอาเงินก้อนที่ได้มาไปลงทุนขายของเล็กๆน้อยๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้ตลาดสดและโรงเรียน แล้วพื้นที่แถวบ้านค่อนข้างปรอดภัยคนติดไวรัสน้อยมาก จนสามารถใช้ชีวิตปกติได้มาตลอด
เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนญาติที่ทำงานเทศบาลพาเราไปฉีดวัคซีน เค้าบอกว่าฉีดไว้เพราะในบ้านมีคนแก่ แต่ใจนึงเราก็ไม่อยากฉีดนะ เราอยากฉีดไฟเซอร์หรือโมเดลน่า แต่ก็ต้องจำใจฉีดไป
หลังจากฉีดวัคซีนได้ 2-3 วันมีเสียงประกาศจากเทศบาลบอกว่าแม่ค้าในตลาดสดมีการติดเชื้อไวรัส นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไวรัสมาอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ บ้านเรารอดมาตลอดเพราะเป็นตลาดเก่าที่ไม่คึกคักคนน้อย ไม่ค่อยมีคนนอกพื้นที่เข้าออก ในพื้นที่ตลาดมีแต่ผู้สูงอายุกับเด็กๆ ส่วนผู้ใหญ่คนวัยทำงานจะไปทำงานที่อื่นกันหมดนานๆจะกลับมาบ้านทีนึง เนื่องด้วยสภาพตลาดเป็นแบบนี้ถึงไม่มีคนติดเชื้อในพื้นที่เลยมาตลอด จะไปติดอยู่ที่ตำบลอื่น
พอมีไวรัสโผล่มาครั้งแรกจากปกติคนก็น้อยเงียบเหงาอยู่แล้วเงียบหนักขึ้นไปอีก เด็กๆ ก็ไม่เดินผ่านเข้าพื้นที่ตลาด แม่ค้าในตลาดสดก็โดนปิดแผงไม่ให้ขายจนถึงสิ้นเดือน เราเองก็รายได้ต่อวันน้อยมากบางวันแทบขายไม่ได้เลย อาหารก็หาซื้อยากเพราะตลาดสดปิด ไปซื้อไข่ หมู ปลา ผักไม่ได้เลย ออกนอกพื้นที่ก็ไม่ได้
พอความเครียดมากๆเข้าพวกแม่ค้าและคนในตลาดก็เริ่มสืบกันว่าใครเป็นคนเอาเชื้อเข้ามา เพราะทางเทศบาลไม่ประกาศชื่อบอกแค่ Timeline ว่าติดมากจากตลาดไท แล้วเอามาแพร่เชื้อในตลาดบ้านเรา
เมื่อวานเราได้รู้แล้วว่าคนที่เอาเชื้อมาปล่อยในตลาดเป็นใคร แม่ค้าในตลาดสดเค้าไปเยี่ยมญาติพยาบาลที่ดูแลโรงพยาบาลสนามแล้วเจอคนแพร่เชื้อ
สิ่งที่น่าผิดหวังคือเรารู้จักกับแม่ค้าคนนั้นเราซื้อของกับเค้าบ่อยเค้าเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ แต่เค้ากับเราต่างกันตรงที่ เราโดนบังคับให้ไปฉีดวัคซีนแต่เค้าปฏิเสธการฉีดเค้าจะรอไฟเซอร์อย่างเดียวเลย แล้วสรุปว่าตอนนี้บ้านเค้าติดกันครบเลยทั้งบ้าน พ่อ แม่ ลูก ส่วนเราก็กักตัวอยู่ในบ้านดูอาการหลายวันแล้วใช้ชีวิตลำบากมาก ล่าสุดแม่ของเพื่อนอีกคนที่อยู่ฝ่ายไล่ลุงก็ติดเชื้อพึ่งเข้าโรงพยาบาล แล้วก็เริ่มมีคนติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จัก
ตอนนี้เราสับสนมากใจนึงก็อยากด่าว่าทำไมเอาเชื้อเข้ามา แต่ใจนึงก็เข้าใจเค้าว่าไม่ได้ตั้งใจ คิดไปคิดมาพยายามทำความเข้าใจหลายๆอย่าง ก็คิดได้ว่าโชคดีที่เราไม่ได้ปฏิเสธวัคซีนเหมือนเพื่อนๆคนอื่น ตอนนี้กลายเป็นว่ามีแต่พวกเราที่อยู่ฝ่ายไล่ลุงและปฏิเสธวัคซีนที่ติดเชื้อและส่วนหนึ่งคือคนที่ยังไม่ฉีดที่ติดเชื้อเหมือนกัน
ตอนนี้เราไม่โอเคมากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราตอนนี้ เรารู้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีเพราะรัฐบาลห่วยจนถึงตอนนี้เราก็อยากให้ลาออก แต่คนที่มาซ้ำเติมชีวิตเราให้แย่เข้าไปอีกกลายเป็นฝ่ายเราเองที่ทำให้เกิดขึ้น
เราขอบ่นเพิ่มตรงนี้อีกหน่อย คนละครึ่ง 50:50 นะปกติเราจะมีร้านประจำที่ซื้อของแล้วรับคนละครึ่งและเราชนะตลอด แต่ครั้งนี้ตั้งแต่มีข่าวเรื่องเก็บภาษีย้อนหลังเค้าก็ไม่รับคนละครึ่ง เราก็ลำบากต้องไปซื้อร้านอื่นเพราะเงินเราน้อย เค้าก็มาว่าเราอีกว่าไม่ซื้อกับเค้าเพราะปกติซื้อประจำแพราะใกล้บ้าน
ตอนนี้เราอยากให้เพื่อนๆทุกคนฉีดเถอะวัคซีนนะตัวไหนก็ได้รีบๆฉีด ได้ฉีดซักเข็มยังไงมันก็ดีกว่าไม่ฉีดอยู่แล้ว อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงหรือทำให้ตัวเองเป็นตัวแพร่เชื้อเลย ตอนนี้แม่เพื่อนอีกคนที่ติดก็อายุ 70 แล้ว เค้าก็เกลียดลุงไล่ลุงเหมือนกันแต่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะพวกเราเอง แบบนี้เรารู้สึกแย่
วัคซีนนะฉีดกันเถอะ เราอยากใช้ชีวิตปกติ พอค้าขายได้ปกติเมื่อไหร่ไวรัสสงบเมื่อไหร่ จะไล่ลุงหรือเลือกตั้งใหม่ยังไงก็ได้เดียวเราไปช่วยประท้วงแต่ตอนนี้ขอล่ะ รีบๆฉีดวัคซีนกัน ถ้ายังมีคนติดเชื้ออยู่แบบนี้เราก็ไม่ไหวนะ
ตอนนี้เราเหลือเงินอยู่ 23000 ไม่รู้ว่าจะใช้ได้อีกกี่เดือน เราอยากขายของ เราอยากใช้ชีวิตปกติ เราอยากทำงาน ฉีดวัคซีนกันนะ อย่าปฏิเสธเลย อย่าถ่วงเวลาเลย อย่ากลัวการฉีดไขว้เราเห็นอาจารย์เจดแล้วเค้าก็บอกว่าฉีดไขว้ได้ เราเห็นข่าวของอังกฤษแล้วว่าเค้าก็ฉีดไขว้เค้าถึงปล่อยใช้ชีวิตปกติได้ ตอนนี้เราเริ่มเกลียดพวกเดียวกันเองแล้วที่มีแต่ข่าวให้คนกลัวไวรัสกลัวการฉีดไขว้ ทั้งๆที่มันสามารถฉีดได้ เราขอหล่ะถ้าเงินเราหมดก่อนไวรัสสงบเราจะทำยังไง เราจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง หรือว่าเราต้องตายก่อนถึงจะพอใจกัน ไปฉีดวัคซีนกันนะเราขอร้อง