วันนี้ได้เอาเช็คไปฝากเข้าบัญชีที่ที่ธนาคารใหญ่สาขาหนึ่ง ตอนเข้าเช็คก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีเจ้าหน้าที่หญิงที่อยู่หน้า front ทำหน้าที่ได้ดีช่วยกดคิว ช่วยบอกช่องเคาท์เตอร์ให้(ซึ่งก็เปิดอยู่ช่องเดียว) พอเสร็จแล้วผมเห็นว่ามีคนใช้บริการน้อยจึงจะถือโอกาสเปลี่ยนสมุดบัญชีส่วนตัวที่เต็มแล้วซะทีหลังจากทิ้งไว้นานจึงเดินมากดคิวใหม่ เจ้าหน้าที่ front ก็เดินมาถามว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมจึงบอกไปว่าจะขอเปลี่ยนสมุดบัญชี เจ้าหน้าที่ front จึงหันไปถามเจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งที่นั่งที่โต๊ะ
Front : มีลูกค้าจะขอเปลี่ยนสมุด รับไหม?
เจ้าหน้าที่ : (ด้วยเสียงอันดังกึ่งๆตวาด) โอ๊ยไม่เอาแล้ว จะไปแล้ว!
ผม : ยืนหน้าชา แต่ก็เข้าใจว่า อาจจะเลยเวลาพักเขาแล้ว เพราะตอนนั้นก็ 12.30 น แล้ว
Front จึงไปเรียกเจ้าหน้าที่หญิงอีกคนเข้ามาทำให้โดยให้ผมไปนั่งที่หน้าโต๊ะอีกตัวหนึ่ง
ระหว่างการดำเนินการ Front คนนี้ก็ยังคงมายืนตรงโต๊ะคุยกับเจ้าหน้าที่หญิงที่กำลังเปลี่ยนสมุดให้ผม
ในรายละเอียดของบทสนทนานั้นผมไม่เข้าใจความหมายเท่าใดนัก แต่จะออกไปประมาณว่าให้เจ้าหน้าที่หญิงคนนี้เข้ามาทำงานแทนใครสักคนที่ไปกักตัว 14 วัน ทั้งที่ผลตรวจโควิดเป็นลบ ผมไม่ได้สนใจในบทสนทนา แต่ผมติดว่าทำไมต้องมายืนข้ามหัวผมขณะที่เป็นลูกค้า และในระหว่างคุย เจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นก็โพร่งออกมาว่า "ไม่เอาแล้ว จะลาออกแล้ว" ต่อหน้าผมซึ่งทำได้แค่หัวเราะหึๆ แก้เก้อ
Front ก็ปลอบว่า : ทำไมคิดอย่างนี้ละ นี่ก็มีอบรมยังต้องกลับไป online ทำที่บ้านเลย
หลังจากนั้นก็มีพูดคุยกันอีกหลายเรื่องที่ผมฏ็ไม่ได้อยากรับรู้
ขณะนั้น มีใครสักคนเปิดประตูสาขา ไว้แล้วไม่ปิด
เจ้าหน้าที่หญิง : (เสียงดัง) โอ๊ยทำไมไม่ปิดประตูวะ
ตอนนั้นผมมีความรู้สึกอยากจะรีบออกจากธนาคาร สาขานี้ไปให้เร็วที่สุดและจะไม่กลับมาอีกเลย แต่ก็ยังดีว่าพอเสร็จแล้วเธอยังยกมือไหว้
ผมอาจจะเล่าความรู้สึกได้ไม่ดีนัก แต่อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้อยากรู้หรอกว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน แต่ก็ควรจะเก็บอารมณ์และความรู้สึกสักนิด ไม่ต้องมาระบายให้ผมซึ่งเป็นลูกค้าฟังหรอกนะครับ
วันนี้รู้สึกหน้าชาในการเข้าใช้บริการในธนาคาร สาขาหนึ่ง
Front : มีลูกค้าจะขอเปลี่ยนสมุด รับไหม?
เจ้าหน้าที่ : (ด้วยเสียงอันดังกึ่งๆตวาด) โอ๊ยไม่เอาแล้ว จะไปแล้ว!
ผม : ยืนหน้าชา แต่ก็เข้าใจว่า อาจจะเลยเวลาพักเขาแล้ว เพราะตอนนั้นก็ 12.30 น แล้ว
Front จึงไปเรียกเจ้าหน้าที่หญิงอีกคนเข้ามาทำให้โดยให้ผมไปนั่งที่หน้าโต๊ะอีกตัวหนึ่ง
ระหว่างการดำเนินการ Front คนนี้ก็ยังคงมายืนตรงโต๊ะคุยกับเจ้าหน้าที่หญิงที่กำลังเปลี่ยนสมุดให้ผม
ในรายละเอียดของบทสนทนานั้นผมไม่เข้าใจความหมายเท่าใดนัก แต่จะออกไปประมาณว่าให้เจ้าหน้าที่หญิงคนนี้เข้ามาทำงานแทนใครสักคนที่ไปกักตัว 14 วัน ทั้งที่ผลตรวจโควิดเป็นลบ ผมไม่ได้สนใจในบทสนทนา แต่ผมติดว่าทำไมต้องมายืนข้ามหัวผมขณะที่เป็นลูกค้า และในระหว่างคุย เจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นก็โพร่งออกมาว่า "ไม่เอาแล้ว จะลาออกแล้ว" ต่อหน้าผมซึ่งทำได้แค่หัวเราะหึๆ แก้เก้อ
Front ก็ปลอบว่า : ทำไมคิดอย่างนี้ละ นี่ก็มีอบรมยังต้องกลับไป online ทำที่บ้านเลย
หลังจากนั้นก็มีพูดคุยกันอีกหลายเรื่องที่ผมฏ็ไม่ได้อยากรับรู้
ขณะนั้น มีใครสักคนเปิดประตูสาขา ไว้แล้วไม่ปิด
เจ้าหน้าที่หญิง : (เสียงดัง) โอ๊ยทำไมไม่ปิดประตูวะ
ตอนนั้นผมมีความรู้สึกอยากจะรีบออกจากธนาคาร สาขานี้ไปให้เร็วที่สุดและจะไม่กลับมาอีกเลย แต่ก็ยังดีว่าพอเสร็จแล้วเธอยังยกมือไหว้
ผมอาจจะเล่าความรู้สึกได้ไม่ดีนัก แต่อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้อยากรู้หรอกว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน แต่ก็ควรจะเก็บอารมณ์และความรู้สึกสักนิด ไม่ต้องมาระบายให้ผมซึ่งเป็นลูกค้าฟังหรอกนะครับ