แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลแทรกตรงนี้นิดนึงนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เผื่อมีใครเผลอเข้าใจผิด
เราไม่อยากพาดพิงถึงเรื่องการศึกษาและอาชีพอะไรใดใดค่ะ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนก็มีความเก่งและความสามารถที่ต่างกัน ทุกคนมีประสบการณ์ที่ต่างกัน

เราไม่อยากพาดพิงแล้วทำให้เกิดการเหยียดคนด้วยกัน และเราจะพยายามไม่ตัดสินคนอื่นค่ะ
(โลกสวยค่ะ รู้ตัว😂😂 จะให้หยาบก็ได้ แต่เลือกที่จะไม่หยาบนะคะ)

บางคนอาจจะคิดว่าเราอยากได้สามีญี่ปุ่นมากจนต้องมาตั้งกระทู้ถามอะไรเบอร์นี้
บอกตรงๆ นะคะ ไม่ต้องญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ
ขอให้มาเถอะค่ะ เมกา เยอรมัน เกาหลี อะไรก็ได้หมดแหละค่ะ 😂😂

แต่เราก็ไม่ได้กลัวที่จะเป็นโสดไปตลอดชีวิตนะคะ เรามีความสุขกับการอยู่คนเดียว พึ่งพาตัวเองได้ แต่ก็ยังมีความเป็นสัตว์สังคมอยู่บ้าง เลยอยากมีผู้ชายดีๆ สักคนในชีวิต พอกรุบกริบ


เราแค่มาตั้งกระทู้ถามในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่อยากฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ ถ้ารู้ตัวว่าคุณมีแต่ความ Toxic ก็กรุณาเก็บไว้กับตัวเองเถอะค่ะ
เห็นใจคนที่ต้องมาเห็นข้อความเหล่านั้นบ้าง

———————————————————

สวัสดีค่ะ

คือพอดีว่าตอนนี้เรากำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ เราเจอกันผ่านแอปค่ะ ขอไล่เรียงไทมไลน์เป็นข้อๆ ตามด้านล่างเลยนะคะ (ยาวหน่อยนะคะ😅)

ข้อมูลเบื้องต้น
จขกท. อยู่ญี่ปุ่นค่ะ ฝ่ายชายเป็นคนญี่ปุ่น
ผู้ชายแก่กว่า 5 ปี ทำงานเป็น Freelancer
อยู่คนละจังหวัด
อายุ 30+ ทั้งคู่ค่ะ

การจะไปมาหาสู่วิธีที่ถูกที่สุดคือนั่งรสบัส เที่ยวละ 2 ชม. ค่าเดินทางอย่างต่ำอยู่ที่ประมาณ 2,500 เยน/เที่ยว ไป-กลับตกประมาณ 5,000 เยน++

1. ก่อนเจอกันครั้งแรก เขาเคยเกริ่นมาว่า กรณีเจอกันครั้งแรกขอไม่เลี้ยงนะ หารสองหรือจ่ายใครจ่ายมัน

2. ตอนนัดเจอกันครั้งแรก เขาโหลดแอปที่คำนวนหาจุดกึ่งกลาง (ด้านระยะทาง) ระหว่างบ้านเขากับบ้านเรา เพื่อกำหนดสถานที่นัดพบ

3. สุดท้ายสรุปว่าเขาจะมาเจอที่เมืองเรา เรารอสแตนบายที่สถานี (เรามีรถส่วนตัวค่ะ ค่าเดินทางในตัวเมืองคือไม่ต้องเสีย เราขับ)

4. เนื่องจากเป็นช่วงโควิด เลยตกลงว่าจะไปซื้อของมาทำกินที่ห้องเราค่ะ โดยเราตั้งใจจะจ่ายเองทั้งหมด เพราะคิดว่าเขาต้องเสียเวลาและค่าเดินทางเพื่อมาเจอเราแล้ว

5. ตอนซื้อของ เขาดูกระฉับกระเฉง เลือกของถูกของลดราคาเก่งค่ะ

6. ตอนจ่ายเงิน เราก็แอบลองเชิงนิดหน่อย เขาก็ทำท่าจะควักกระเป๋าตังค์เป็นพิธี พอเราบอกว่าเราจ่ายเอง เขาก็ไม่ติดอะไรยอมให้เราจ่ายแต่โดยดี ไม่มียื้อ

7. เขาค้างที่ห้องเราค่ะ พอดีมีห้องว่างอยู่ โดยรวมเขาไม่มีท่าทีจะล่วงเกินหรือว่าทำให้เรารู้สึกถูกคุกคามใดใด

8.เดทวันที่ 2 ไปเดินสวนสาธารณะใกล้ๆ บ้าน แล้วก็ไปกินกาแฟที่คาเฟ่ในสวนค่ะ
ตอนสั่งเมนูที่เค้าเตอร์ เขาทำทีเลือกนาน เราเลยสั่งก่อนจ่ายก่อน แล้วเขาก็สั่งเครื่องดื่มเขาจ่ายของเขาเอง เราสั่งเครื่องดื่มกับขนมจุบจิบ เอาไว้แบ่งเขาทาน ส่วนเขาสั่งแต่เครื่องดื่ม

9. ขับรถไปส่งที่สถานี เขาบอกว่าอยากนัดเจออีก ซึ่งเราก็โอเคค่ะ

10. นัดเจอรอบที่สอง ตกลงว่าเขาจะมาหาอีก แต่คราวนี้เขาเอ่ยปากขอให้เราช่วยออกค่าเดินทางครึ่งนึง.. เราก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าเอ่ยปากขอแบบนี้ แต่ก็ตอบตกลงไปเพราะ ใจก็อยากลองเจออีกรอบ และคิดว่าเขาก็ต้องเสียเวลานั่งรถไปกลับจากบ้านเขาเที่ยวละเกือบ 3 ชั่วโมง + ค่าจิปาถะเพื่อมาเจอเราแล้ว

เราเลยเสนอทางเลือกไปว่า จะให้เราช่วยออกค่าเดินทางครึ่งหนึ่ง/หรือค่ากินทั้งหมด ให้เขาเลือกเอง

หลังจากเจอกันครั้งแรกก็ติดต่อเรื่อยๆ
และเขาขอที่จะคบกับเราจริงจังค่ะ

ส่วนเรายังลังเล ยังอยากดูอีกสักพัก
เรื่องนิสัยทั่วไปเราไม่ติดค่ะ หน้าตาก็เข้าสเป็คอยู่
ตอนเจอกันถ้าไม่นับเรื่องเปย์ เขาก็ดูแลเทคแคร์ดี พอบอกเมื่อยก็อาสานวดให้ ตอนเดทในสวนเขาก็กางร่มกันแดดให้ (ร่มของเขาพกมาค่ะ😂)
มีความมุ้งมิ้ง สนใจสัตว์โลก
ทำกับข้าวเป็น คล่องแคล่ว ดูมีสกิลการใช้ชีวิต

แต่ที่กังวลคือเรื่องนิสัยการใช้จ่ายของเราและเขาค่ะ
เขาดูประหยัดมาก จนดูเหมือนขี้งก
ณ ตอนนี้เรื่องเงินถ้าคิดตามจริงคือ ก็ไม่ได้มีการเอาเปรียบ แต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะเสียสละจ่ายมากกว่าอย่างที่ผู้ชายคนอื่นที่เราเคยคบ

ซึ่งเราเป็นคนที่ถ้าเรื่องกิน เรื่องเที่ยวคือถึงไหนถึงกัน ไม่ค่อยมาคิดว่าต้องหารครึ่งเป๊ะๆ อะไรขนาดนั้น ไม่เอาเปรียบใครแต่ก็ไม่ชอบถูกเอาเปรียบ ใครใจมาเราใจกลับ

แต่คนนี้ดูไม่ค่อยใจ (ในความรู้สึกเรา) เราเลยกังวลค่ะ เพราะที่ผ่านมาเคยเจอแต่ผู้ชายเปย์ 😅

กังวลค่ะ ว่าจะคบกันได้มั้ย ในอนาคตจะมีเรื่องเงินๆ ทองๆ มากวนใจหรือเปล่า
แต่ก็ไม่อยากด่วนตัดสินเขาค่ะ

เพื่อนๆ คิดว่าไงคะ
เราคิดมากไปหรือเปล่า?

ใครเคยคบกับผู้ชายแบบนี้บ้างคะ
เราควรจะดูต่อไป หรือควรตัดจบไปเลยดีคะ

ตอนที่เขาขอคบ เขาบอกว่าถ้าเราไม่รู้สึกแบบเดียวกัน เขาจะตัดใจค่ะ
ในใจลึกๆ เราก็อยากลองคบ แต่กลัวค่ะ
เลยบอกไปว่า ลองเจอกันอีกครั้งก่อน จะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น…

เราผิดหวังมาเยอะค่ะ
ทั้งโดนนอกใจ ถูกเท แล้วก็การคบแบบไม่มีสถานะ
สุดท้ายคือเจ็บค่ะ คิดว่าไม่อยากพลาดอีก
เราเลยตัดสินใจว่าเราจะระวังมากขึ้นกับความสัมพันธ์ครั้งต่อไป จนกลายเป็นขี้กังวลแล้วก็ระแวงไปหมด อยากมีความรักแต่ก็กลัว
ไม่รู้จะทำไงดีค่ะ 😫