สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ผู้ชายอยากแต่งงานกับผู้หญิงสักคนโดยมากมักแต่งตั้งแต่ขวบปีแรก ๆ ครับ แต่หากคบมาเป็นสิบปี และนี่ก็เกือบจะยี่สิบปี ความรู้สึก ความอิน ที่จะแต่งงานในใจนั้นเหลือน้อยครับ
อุปมาอุปมัยเหมือนตีเหล็กตอนร้อน ตอนรักกันใหม่ ๆ Passion มันยังร้อน อยากให้ผู้ชายทำอะไรเขาก็ยินดี ดั่งโบราณว่าชี้นกเป็นนกชี้ไม่เป็นไม้ แต่ผ่านไปแล้วสิบ ๆ ปี ความรู้สึกเหล่านั้นแทบไม่เหลือครับ
ในขณะที่เหตุผลของคุณ มีอะไรบ้าง?
- อยากแต่งเพราะสงสารพ่อแม่
- อยากแต่งเพราะอายชาวบ้าน
- อยากแต่งเพราะคนอื่นแต่งกันหมดแล้ว
ถ้าด้วยเหตุนี้ คุณเองก็ปล่อยให้ล่วงเลยมา 16 ปีโดยไม่ตัดสินใจเด็ดขาด เช่น อ่ะ ฉันอยากแต่ง แต่เธอไม่แต่งใช่ไหม งั้นแยกย้าย เป็นต้น ถ้าคุณอยากแต่ง ต้องหาคนที่อยากเหมือนกัน และพร้อมทำให้จบภายในไม่กี่ปีแรกที่คบกันครับ
ก็ถ้าอยากห่างกันสักพักก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ เพราะมันทำให้ต่างคนต่างทบทวนว่ายังอยากมีกันอยู่หรือไม่ ยังไงก็ทำใจเผื่อ ๆ ด้วยนะครับ เพราะอีกฝ่ายอาจจะคิดได้เช่นกันว่า เมื่อไม่มีคุณแล้วเขาเกิดแฮปปี้กว่า เขาก็อาจจะตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ ณ โอกาสนั้นครับ
อุปมาอุปมัยเหมือนตีเหล็กตอนร้อน ตอนรักกันใหม่ ๆ Passion มันยังร้อน อยากให้ผู้ชายทำอะไรเขาก็ยินดี ดั่งโบราณว่าชี้นกเป็นนกชี้ไม่เป็นไม้ แต่ผ่านไปแล้วสิบ ๆ ปี ความรู้สึกเหล่านั้นแทบไม่เหลือครับ
ในขณะที่เหตุผลของคุณ มีอะไรบ้าง?
- อยากแต่งเพราะสงสารพ่อแม่
- อยากแต่งเพราะอายชาวบ้าน
- อยากแต่งเพราะคนอื่นแต่งกันหมดแล้ว
ถ้าด้วยเหตุนี้ คุณเองก็ปล่อยให้ล่วงเลยมา 16 ปีโดยไม่ตัดสินใจเด็ดขาด เช่น อ่ะ ฉันอยากแต่ง แต่เธอไม่แต่งใช่ไหม งั้นแยกย้าย เป็นต้น ถ้าคุณอยากแต่ง ต้องหาคนที่อยากเหมือนกัน และพร้อมทำให้จบภายในไม่กี่ปีแรกที่คบกันครับ
ก็ถ้าอยากห่างกันสักพักก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ เพราะมันทำให้ต่างคนต่างทบทวนว่ายังอยากมีกันอยู่หรือไม่ ยังไงก็ทำใจเผื่อ ๆ ด้วยนะครับ เพราะอีกฝ่ายอาจจะคิดได้เช่นกันว่า เมื่อไม่มีคุณแล้วเขาเกิดแฮปปี้กว่า เขาก็อาจจะตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ ณ โอกาสนั้นครับ
ความคิดเห็นที่ 31
เอาตรงๆ นะ จขกท
สงสารครอบครัวตัวเองช้าไปมาก
ถ้าจะอ้างคำนี้ แฟนคุณจะคิดหักล้าง ทันที
ผ่านมา 16 ปี เพิ่งสงสาร ทำไม 16 ปีที่ผ่านมา ทำได้
อายุ ก็ 40 เพิ่งจะมาอาย
คงไม่ได้แต่งแล้วละจ้ะ
ไม่ว่ารูปแบบไหน ถ้าขึ้น ขนาดคำว่า "กุ ไม่ แต่ง"
ถ้ามีงานมีธุรกิจร่วมกัน
ก็รีบแจกแจงแยกแยะให้ชัดเจน
ถ้าจะแค่ จดทะเบียนสมรส ก็ระวังจะเสียรู้คน
เรื่องในครอบครัว ทะเลาะบ้าง รักบ้างโกรธกันบ้าง
เราไม่ได้ไปรู้นอกในลึกซึ้ง พอจะแนะนำำว่า คบต่อหรือเลิกเถอะ
ส่วนอยากไปเมืองนอก ถ้าอายุ 40 ไม่ต้องกังวล
ถ้าไปได้แบบถูกต้องก็ไปเถอะ
สงสารครอบครัวตัวเองช้าไปมาก
ถ้าจะอ้างคำนี้ แฟนคุณจะคิดหักล้าง ทันที
ผ่านมา 16 ปี เพิ่งสงสาร ทำไม 16 ปีที่ผ่านมา ทำได้
อายุ ก็ 40 เพิ่งจะมาอาย
คงไม่ได้แต่งแล้วละจ้ะ
ไม่ว่ารูปแบบไหน ถ้าขึ้น ขนาดคำว่า "กุ ไม่ แต่ง"
ถ้ามีงานมีธุรกิจร่วมกัน
ก็รีบแจกแจงแยกแยะให้ชัดเจน
ถ้าจะแค่ จดทะเบียนสมรส ก็ระวังจะเสียรู้คน
เรื่องในครอบครัว ทะเลาะบ้าง รักบ้างโกรธกันบ้าง
เราไม่ได้ไปรู้นอกในลึกซึ้ง พอจะแนะนำำว่า คบต่อหรือเลิกเถอะ
ส่วนอยากไปเมืองนอก ถ้าอายุ 40 ไม่ต้องกังวล
ถ้าไปได้แบบถูกต้องก็ไปเถอะ
ความคิดเห็นที่ 1
จขกท.คะ ชีวิตเราทุกคนจะมีวันนึงที่เราต้องตัดสินใจที่จะก้าวต่อไป ก้าวย่างที่สำคัญของชีวิต
เราว่าถึงเวลาของคุณแล้วค่ะ
การหยุดอยู่กับที่นานๆ อยู่กับคำถามว่าเมื่อไหร่และทำไม มันทำให้เสียเวลาอันมีค่าของคุณ
ชีวิตคนเรา ถ้ามีใครได้อยู่เกินร้อยปีก็ถือว่าโชคดีอย่างที่สุด แต่ร้อยปีก็ถือว่าน้อยอยู่ดี คนเรามีเวลาอยู่บนโลกน้อยนิด อย่ามัวเสียเวลาเลย
เราว่าถึงเวลาของคุณแล้วค่ะ
การหยุดอยู่กับที่นานๆ อยู่กับคำถามว่าเมื่อไหร่และทำไม มันทำให้เสียเวลาอันมีค่าของคุณ
ชีวิตคนเรา ถ้ามีใครได้อยู่เกินร้อยปีก็ถือว่าโชคดีอย่างที่สุด แต่ร้อยปีก็ถือว่าน้อยอยู่ดี คนเรามีเวลาอยู่บนโลกน้อยนิด อย่ามัวเสียเวลาเลย
แสดงความคิดเห็น
คบมา16ปี พูดเรื่องแต่งงานทีไรลงท้ายด้วยทะเลาะกัน
ร่วมทุกข์และสุขมากันตลอด16ปี ปัจจุบันพ่อเราเสียแล้ว
เหลือแม่เพียงคนเดียว เราอยากชัดเจนกับชีวิต
เพราะไปต่อไม่ถูก บ้านรถ ผ่อนร่วมกัน
งานที่ทำก็ทำด้วยกัน มันเลยค่อนข้างยากทุกครั้ง
ที่จะตัดสินใจอะไร
ทำไมเราถึงอยากแต่งงาน ?
ส่วนสำคัญเลยคือเราอยากทำให้ครอบครัวค่ะ เพราะที่บ้านพอมีคนรู้จักเยอะ
พูดตรงๆว่าเราสงสารพ่อแม่ สงสารความรู้สึกเค้า และเราอายคนอื่นด้วย
พี่น้องฝั่งเราก็แต่งหมดแล้ว พี่น้องฝั่งแฟนเราก็แต่งหมดแล้ว
เหลือเราคนเดียว จนบางทีก็คิดเหมือนกันว่าหรือเราไม่ดีพอ
หลายๆปีก่อน แฟนเคยพูดคุยตกลงกับแม่เราว่าปีนี้แต่งนะ
แล้วปลายปีก็เลื่อนไปปีหน้าอีก เป็นแบบนี้มาประมาณ2รอบ
จนสุดท้ายหลังๆ เวลาเราถามเรื่องแต่งงาน
ก็จบด้วยการทะเลาะกันทุกครั้ง และเค้าไม่เคยพูดถึงอีกเลย
ไม่มีการปรึกษาว่าเออ เราจะอะไรยังไงดี
มีแต่เราที่คอยถาม และจบแบบเดิมทุกครั้ง
..
เราไม่มีลูกค่ะ มีแต่หมาแมวที่เลี้ยงด้วยกันมา
คงเป็นสิ่งที่ผูกพันที่สุดในตอนนี้
ตั้งแต่ก่อนโควิด งานเรามีปัญหามาก
เรายืมเงินที่บ้านมาหลักแสน แล้วพอมาเจอโควิดอีก
ที่บ้านเราก็ช่วยอีก เราเลยรู้สึกว่าครอบครัวเราซัพพอร์ตมากขนาดนี้
ทำไมแฟนเราถึงไม่พยายามทำอะไรที่ถูกต้อง เพื่อครอบครัวเราบ้าง
และที่บ้านไม่เคยเรียกสินสอดนะคะ เค้าแค่อยากให้ทำให้ถูกต้อง
เค้าไม่ได้พูดกับเราตรงๆ แต่ในฐานะลูก เราเข้าใจตรงนี้ดีค่ะ
..
สุดท้าย ตอนนี้เราอยากไปทำงานต่างประเทศซัก6เดือนหรือ 1ปี
เพื่อห่างกันสักพัก ให้ต่างคนต่างทบทวน เพราะเวลาชีวิต
มันคงเหลืออีกไม่มากในคนวัย40แบบเรา เราอยากชัดเจนค่ะ
เราอยากปรึกษษและถามความคิดเห็นเพื่อนสมาชิกดูค่ะ
มันเป็นปัญหาที่ยาวนานของเรามากจริงๆ