ในบรรดาวิธีการลงโทษที่น่ากลัวที่สุดในยุคโบราณ
นักโทษอยากตายแต่ก็ยังตายไม่ได้
ร่ำไห้ก็ไม่ได้ร่ำร้องก็เท่านั้น
ด้วยวิธีการทรมานนักโทษด้วยนมและน้ำผึ้ง
เป็นขบวนการที่สลับซับซ้อน
และได้อารมณ์สุดฟิน ซาดิสต์
มาจากชื่อ Marquis de Sade อำมาตย์
1 ใน 7 นักโทษที่ยังถูกขังอยู่ในคุกบาสตีย์
ในวันปฏิวัติฝรั่งเศส 14 กรกฏาคม 1789
คำนึ้มาจากผลงานเขียนที่มาก่อนกาลเวลา
บรรยายเรื่องกามรุนแรง/วิปริต

โทษการใช้น้ำผึ้งกับนมมอบความตายให้นักโทษ
คือ การลงโทษอาชญากรรมที่รุนแรงของรัฐ
เช่น การฆาตกรรม การคิดคดทรยศกบฎต่อราชันย์
เพื่อสร้างความทรงจำ/หวาดกล้วให้กับผู้คน
วิธีการนี้เริ่มในยุคของจักรวรรดิ์เปอร์เซีย  Persian Empire
ในช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตศักราช




วิธีการนี้นักโทษจะถูกมัดติดระหว่างเรือสองลำ
หรือต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่จำนวน 2 ต้น
หรือจับนักโทษยัดเข้าไปโพรงต้นไม้
จับมัดลำตัว แต่ให้หัว มือ เท้า พอเคลื่อนไหวได้

ถ้าใช้เรือ ลำตัวจะอยู่กลางลำเรือที่ประกบกันไว้
ทั้งให้นักโทษต้องตากแดดตากฝนโดนน้ำค้าง
เป็นการประจาน/ข่มขู่ข่มขวัญชาวบ้าน
ไปในตัวเลยทีเดียวยิ่งกว่าโฆษณากาแฟ 3 in 1

จากนั้นก็กรอกปากนักโทษด้วยนมและน้ำผึ้ง
จับกรอกปากไปจนนักโทษอ้วก/อาเจียนออกมา
เท่านั้นยังไม่พอ จะทำการราดรดน้ำผึ้งและนม
ไปทั่ว แต่เน้น ๆ ที่ ดวงตา ใบหน้า และลำคอ
หลังจากนั้นไม่นาน  กลิ่นของน้ำผึ้ง นม อาเจียน
อุจจาระ ปัสสาวะ(ของเค็ม/เกลือ) เหมือนดินโป่ง
สัตว์บางชนิดชอบแวะมากิน เช่น แพะ หมู หนู
จะดึงดูดให้ มด แมลงต่าง ๆ  มากินนมและน้ำผึ้ง
รวมทั้งสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่ชอบอาหารแบบนี้
บางครั้งพวกหนูก็มากัดกินนักโทษทั้งเป็น ๆ
เพราะไม่สามารถดิ้นรนต่อสู้/ขับไล่หนูได้แล้ว
สักพักแมลงวันจะเริ่มวางไข่บนร่างกายเหยื่อ
แล้วฟักออกมาเป็นตัวหนอนชอนไชไต่ตามเนื้อเยื่อนักโทษ
เท่ากับเปิดแผลที่อักเสบให้มากยิ่งขึ้น
ตามอวัยวะต่าง ๆ ทั่วทั้งร่างกาย

นักโทษมักจะมีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงตามมา
ยิ่งทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนแอและมีอาการขาดน้ำ
แต่นักโทษก็ยังถูกจับกรอกปากด้วยนมและน้ำผึ้ง
แบบยิ่งกินยิ่งถ่ายออกมา ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ตาย
ทำให้นักโทษไม่ตายง่าย ๆ ในเร็ววันแต่อย่างใด
แต่ติดคุกนรกบนดิน พื้นที่สั่งสมอุดมไปด้วย
หนอน แมลง อุจจาระ  ปัสสาวะ เหงื่อ(เค็ม/เกลือ) นม และน้ำผึ้ง

เหยื่อบางรายอยู่รอดได้เป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
แต่สุดท้าย เหยื่อมักจะตายบนลำเรือในที่สุด
เพราะหนอนที่ชอนไชเข้าไปในลำตัวของเหยื่อ
จะเป็นตัวการค่อย ๆ กัดกินอวัยวะภายใน
และปล่อยสารพิษต่อร่างกายและอวัยวะนักโทษ
เมื่อนักโทษติดเชื้อตายแล้ว  จึงจะแยกเรือออกจากกัน
เผยให้เห็นศพนักโทษที่อวัยวะภายในขาดหาย/รุ่งริ่งไปเกือบครึ่ง

 


นักโทษที่โด่งดังที่สุดเป็นตำนาน
กับการฆ่าด้วยเรือนรก นมและน้ำผึ้ง คือ
ทหารเปอร์เซียอายุน้อยที่ชื่อว่า Mithridates 
ซึ่งเสียชีวิตเมื่อประมาณ 401 ปีก่อนคริสตกาล
นักโทษถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะได้ฆ่า
Cyrus the Younger  มงกุฏราชกุมาร โดยไม่ตั้งใจ
ทำให้ Artaxerxes II อำมาตย์ที่อยากชิงบัลลังค์
และได้เป็นกษัตริย์เปอร์เซียในเวลาต่อมาพึงพอใจ
จึงปกปิดเรื่องฆาตกรรรมดังกล่าวไว้ก่อน
เพราะรู้สึกพอใจและขอบใจที่ Mithridates
ได้ฆ่า Cyrus the Younger  แทนตน
แบบไม่ต้องลงมือด้วยตนเอง/มือไม่เปื้อนเลือด

แต่เมื่อ Mithridates ลืมข้อตกลงลับ
และเริ่มคุยโวเกี่ยวกับการฆ่า Cyrus the Younger
จึงมีเหตุผลอันสมควรที่จะฆ่าคนปากโป้งทิ้ง
คนคิดคดกบฏต่อสถาบันราชันย์

Mithridates ทนถึกมากจึงโชคร้ายมาก
ที่มีชีวิตอยู่ได้ถึง 17 วันในเรือนรกคราวนั้น
ตามบันทึกที่เขียนโดย Plutarch
นักเรียงความและนักชีวประวัติชาวกรีก




แต่พวกเปอร์เซียโบราณยังมีวิธีการอื่น ๆ  อีกมากมาย
ที่เลวร้ายพอ ๆ กับการฆ่าคนด้วยนมและน้ำผึ้ง  เช่น
การฆ่าผู้คนโดยบังคับให้นักโทษดื่มทองคำหลอมเหลว
ถ้าไม่ยอมดื่มจะฉีกปากแล้วกรอกทองคำเหลวลงไป

(ในกฎหมายอยุธยา สยามรัฐในอดีต ก็ลงโทษ
ใช้น้ำเหล็กเหลว ทองแดงเหลว  ตะกั่วเหลว
อย่างใดอย่างหนึ่งกรอกปากนักโทษ)

ฉีกร่างกายนักโทษด้วยต้นไม้
(จับมัดร่างกายแล้วให้ไม้ดีดขี้นลง)

จับกดน้ำให้จมน้ำตายด้วยขี้เถ้า
วิธีการสุดท้ายนี้ ฟังดูแย่เกินกว่าจะเป็นจริงได้
แต่ทำได้ด้วยการโยนเหยื่อลงในห้องที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า
ขี้เถ้าจะถูกเคลื่อนย้ายโดยเฟืองล้อ
ที่ผลักดันให้เหยื่อต้องเข้าไปให้ลึกสุด
จนไปถึงสระน้ำ/แอ่งน้ำขังด้านในสุด
เพื่อให้ขี้เถ้าหลุดรอดเข้าไปในปากและจมูก
จนนักโทษสำลักทั้งน้ำทั้งขี้เถ้าจนจมน้ำตาย



เรียบเรียง/ที่มา


https://bit.ly/3AzGAso
https://bit.ly/36dOlpS 
https://bit.ly/2TF6hai 
 




© ความรู้เรื่องแมลงวัน


จะพบแมลงวันได้ทุกแห่งในโลก
หลายชนิดพบว่าสามารถดูดเลือดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
และหลายชนิดสามารถกัดกินหรือทำลายพืช
ที่ปลูกทำให้ผลผลิตเสียหาย
หลายชนิดสวยงาม บางชนิดมีลวดลายแปลกตา
บางชนิดเป็นตัวห้ำ หรือผสมเกสร
ดังนั้น แมลงวันจึงมีความสำคัญทางเกษตรและทางการแพทย์

แมลงวันสามารถผสมพันธุ์ได้ 
หลังจากเป็นตัวเต็มวัยได้เพียง 18-30 ชั่วโมงเท่านั้น 
และผสมพันธุ์เพียงครั้งเดียว 
หลังจากนั้นก็จะหาแหล่งที่เหมาะสมในการวางไข่ 
โดยจะค้นหาแหล่งดังกล่าวด้วยกลิ่นเป็นตัวนำทาง 
พวกมันจะเริ่มวางไข่ในที่ลับตา 
แสงแดดส่องไม่ถึง และมีความชื้นสูง 
โดยวางเป็นกลุ่มๆละประมาณ 120 ฟอง 
ตัวเมียบางตัวสามารถวางไข่ได้มากกว่า 10 ครั้งในชั่วชีวิต 
ดังนั้น แมลงวันตัวเมีย 1 ตัว สามารถขยายพันธุ์ได้ 200-1,000 ฟอง 
ไข่แมลงวันมีระยะฟักภายใน 6-12 ชั่วโมง

ระยะตัวอ่อน  หรือหนอน

มีรูปร่าง เรียวยาว ปลายด้านท้องใหญ่  หัวหรือปากเรียวแหลมและแข็ง 
ตัวอ่อนจะกินของกำลังเน่าเหม็น
มักชอบกลิ่นแอมโมเนีย หรือกลิ่นของยีสต์เป็นพิเศษ 
ตัวอ่อนจะกินอาหารมากจนเข้าใกล้ระยะดักแด้
จึงจะหยุดกินอาหาร ระยะนี้กินเวลา 6-7 วัน

ระยะเข้าดักแด้

เมื่อหนอนหยุดกินจะเริ่มคลานไปสู่ที่แห้งๆ 
เพื่อเริ่มปรับเปลี่ยนร่างกาย  โดยหดตัวเองให้สั้นลง 
จนมีลักษณะอ้วนสั้น ผนังลำตัวจะแข็งขึ้น
เพื่อห่อหุ้มตัวหนอน ระยะนี้ใช้เวลา 3-4 วัน 
ก็จะเข้าสู่ระยะตัวโตเต็มวัย

ระยะตัวโตเต็มวัย

เมื่อเข้าดักแด้/พัฒนาร่างกายสู่ภายในจนมีรูปร่างครบสมบูรณ์
ก็จะเริ่มออกจากดักแด้ ซึ่งขณะที่ออกจากดักแด้ใหม่ ๆ ยังบินไม่ได้ในทันที 
จะต้องใช้วิธีเดิน กระโดด เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที 
ลำตัวและปีกเริ่มแข็งแรงขึ้นสมารถบินได้ และเตรียมผสมพันธุ์ต่อไป





เรื่องเล่าไร้สาระ 



หลายปีก่อนในยุค Analog
ผมนั่งรถไฟกลับบ้านที่หาดใหญ่
ได้นั่งสนทนากับบาทหลวง นาตัล มาเนย์
ท่ีเคยสอนพวกผมที่โรงเรียนแสงทองวิทยา

ท่านเล่าว่าท่านเพิ่งกลับจากอิตาลี
เพราะทางศาสนาจักรให้กลับบ้านเกิดได้
ทุกรอบระยะเวลา  10  ปีครั้งหนึ่ง
แต่ท่านคงไม่กลับไปอีกแล้วในคราวหน้า
เพราะพ่อแม่เสียชิวิตไปหมดแล้ว
ส่วนพี่น้องและเพื่อน ๆ ก็กระจัดกระจายไป
ท่านคงจะใช้ชีวิตที่เมืองไทยตลอดกาล

เพื่อนรุ่นเดียวกับท่านที่เข้าพิธีบวชเป็นบาทหลวง
มีหลายคนที่สึกออกไปมีลูกเมีย
แต่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค
บาทหลวงต้องเป็นตลอดชีพไม่มีวันสึก
แต่ห้ามทำพิธีมิซซาให้ชาวบ้านตลอดชีพ
ตามโองการของพระสันตปาปา

(มีคนสันนิษฐานว่า กาลิเลโอ มีลูกสาว 2 คน
แต่ต้องให้ไปเป็นแม่ชี  เพราะท่านไม่มี Dowry
สินสอดของหมั้นให้ผู้ชายตามประเพณีเดิม
ท่านน่าจะเคยเป็นบาทหลวงมาก่อน  แต่สึก
โทษทางอาญาจึงไม่รุนแรงหนักหนาสาหัส
ผิดกับหลาย ๆ คนในยุคล่าแม่มดพ่อมด ในสมัยนั้น

ประเทศโปแลนด์มีประชาธิปไตย
เลิกเอียงซ้ายฝักใฝ่ฝ่ายเครมลิน(คอมมี่)
บาทหลวงคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค
ต่างสึกไปมีลูกเมียหลายคน ทำให้โบสถ์ร้างไปเลย)




อิหร่านเป็นประเทศที่กว้างใหญ่มาก
มีทั้งดินแดนที่ชุ่มชื้นและแห้งแล้งมาก
ในช่วงการปฏิว้ติอิหร่าน
ยุค ชาห์แห่งอิหร่าน ที่เป็นตำนาน

ท่านเล่าว่า ท่านเจอเพื่อนท่านที่เป็นวิศวกร
คุมงานก่อสร้างเขื่อนทางตอนเหนือของอิหร่าน
บอกไม่รู้เรื่องการปฏิวัติอิหร่าน
ของ อายะตุลลอฮ์ รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี
เพราะทำแต่งานกลับที่พักก็นอน/ที่นั่นกันดารมาก
ข่าวสารต่าง ๆ จากแต่ละฝ่ายที่จะรับรู้ก็น้อยมาก
กอปรกับพวกสายช่างส่วนใหญ่ไม่ค่อนสนใจโลกภายนอก
โลกการเมืองแต่อย่างใดเหมือน ๆ กับพวกชาวบ้าน
สนใจแต่งานที่ร้บมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น
และเพื่อนท่านมารู้เรื่องนี้   ก็ตอนกล้บมาอยู่ที่อิตาลีแล้ว
 

ในยุค Analog การรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ
ต้องรอแต่หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หนังสือ วิทยุ โทรทัศน์
เป็นช่องทางสื่อสารแต่ฝ่ายเดียว
การตอบโต้ทันควันทำได้ยากและช้า
เพราะมีแค่วิทยุ โทรทัศน์ ที่สื่อสาร 2 ช่องทาง
แต่ถูกควบคุมโดยรัฐบาล หรือกลุ่มทุนใหญ่

ช่วงเวลาดังกล่าวคือ  ก่อนปี 1978
ก่อนที่จะเริ่มมี Internet ในปี 1989-1990
และ iPhone เริ่มวางขายในปี 2007
ทำให้ SmartPhone แพร่หลายมากขึ้น
เพราะได้แรงบันดาลใจจาก Steve Jobs
มี App ต่าง ๆ ที่สร้างการสื่อสารมากกว่า 2 ช่องทาง