รามาฯ ไม่รอรัฐ สั่ง โมเดอร์นา ฉีดบุคลากรทางการแพทย์ ลั่นต้องช่วยตัวเอง-ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6490703
 

---

"หมอบุญ" โต้กลับ สธ. ปมวัคซีน "โมเดอร์นา" อัดยับ เวรกรรมประเทศชาติ

https://www.thansettakij.com/content/business/486415

หมอบุญ" อัด สธ. ปมวัคซีน"โมเดอร์นา" ลั่น “ตอนนี้อย่าพูดว่าความผิดของใคร ต้องพูดว่ามันเป็นเวรกรรมของประเทศชาติ” เผยติดต่อขอซื้อ วัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์น่า พร้อมวางเงินตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่โดนเบรก “เอกชนอย่ายุ่ง” เตือนนักการเมืองก่อนพูดอะไรชั่งน้ำหนักและคิดให้ดี
 
นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand วันนี้ 5 ก.ค. 2564 กรณีปัญหาการสั่งซื้อวัคซีนโควิดจาก "โมเดอร์นา" หลังองค์การเภสัชฯชี้แจงเกี่ยวกับการวางเงินในการสั่งซื้อก่อนเซ็นสัญญา ว่า สมาคมโรงพยาบาลเอกชนยังไม่ได้รวบรวม จำนวนวัคซีนและเงินที่ประชาชนจองซื้อล่วงหน้านำมาส่งให้ ทางองค์การเภสัชกรรมจึงไม่กล้าเซ็นสัญญาเพราะเกรงว่าจะรับผิดชอบไม่ไหว
 
เบื้องต้น นพ.บุญ ระบุว่า  “ มีหลายอย่างเรียกคืนไม่ได้ 1 คือเวลา 2 คือคำพูด ไม่ว่าจะบิ๊กตู่หรืออนุทินจะพูดอะไรเรียกคืนไม่ได้ ผมขอเตือนนักการเมืองทั้งหลายบ้าง เวลาพูดอะไรชั่งน้ำหนักและคิดให้ดีก่อนเพราะสมัยนี้ถูกบันทึกไว้หมดอันนี้สำคัญมาก ผมไม่อยากพูดว่าความผิดของใครมันเป็นระบบราชการ”
 
อเมริกาและจีนผลประโยชน์สำคัญที่สุดโดยเฉพาะอเมริกาถ้าคุณจะติดต่อเขาโดยตรงเขาคิดถึงแต่เรื่องผลประโยชน์ คุณต้องเอาการเมืองมาบังคับเนื่องจากวัคซีนมันเป็นความผิดพลาดเราประมาทเรื่องการสั่งวัคซีนเพราะการระบาดครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 เราทำได้ดีจึงไม่กระตือรือร้น
 
ส่วนตัวเราติดต่อทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นานานมาก แต่รัฐบาลบอกว่า อะไรที่รัฐบาลติดต่อไปแล้วเอกชนอย่ายุ่งก็คือ โมเดอร์นา ไฟเซอร์และโควาแวกซ์
 
แต่เรื่องที่กำลังถกเถียงกันตอนนี้คือทางโรงพยาบาลเอกชนพร้อมหรือไม่ เราบอกได้ว่า เราพร้อมเสมอ รัฐบาลรีบไปเซ็นสัญญาได้เลย เพราะผู้ผลิตจะนับจองจากวันที่เซ็นสัญญา เราเคยขอให้รัฐบาลเซ็นสัญญาภายในเดือนเมษายนเพื่อที่จะได้วัคซีนในเดือนสิงหาคม
 
"โรงพยาบาลเอกชนพร้อมที่จะเอาเงินไปวางผมเข้าใจว่ารัฐบาลไม่อยากรับผิดชอบไม่อยากเสี่ยง จริงๆเราพร้อมตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว มีหลักฐานชัดเจนมาตลอดเวลาว่าเราขอซื้อวัคซีนประมาณ 10 เดือนแล้ว
 
เราก็ต้องเข้าใจว่า ทางหัวถ้าเขาไม่เห็นความจำเป็นก็ช้า แต่เราก็มีการเตือนและติดตามว่า ทำไมถึงไม่รีบตอนนี้ ที่อินโดนีเซียบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด 300 กว่าคน ที่ว่าไม่มีอาการรุนแรงไม่จริง ผลการวิจัยชัดเจนเลยว่า วัคซีนเชื้อตายไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวกลายพันธุ์
 
วิกฤตครั้งนี้ผมเคยพูดเมื่อตั้งแต่เดือนเมษายนว่า มันจะหนักหนาสาหัส ระบบสาธารณสุขของเรารับไม่ได้ ตอนนี้อย่าไปพูดว่า มันเป็นความผิดของใคร ต้องพูดว่า มันเป็นเวรกรรมของประเทศชาติ"

---

'สมาคมรถทัวร์' จี้ 'บิ๊กตู่' ช่วยผู้ประกอบการ คุมราคาน้ำมัน-แก๊ส งดเก็บภาษีรถโดยสาร หลังร้องแล้วไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2811668

‘สมาคมรถทัวร์’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ช่วยผู้ประกอบการ คุมราคาน้ำมัน-แก๊ส งดเก็บภาษีรถโดยสาร หลังร้องแล้วไม่คืบ
 
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 5 กรกฎาคม ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสาร เข้ายื่นหนังสือขอให้พิจารณาการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถโดยสาร ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรี
 
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สมาคมฯเคยมายื่นหนังสือขอให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการรถโดยสารมาแล้ว แต่ก็พบว่า ข้อเรียกร้องโดยร่วมยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้ทางสมาคมฯจึงยื่นเรื่องของให้รัฐบาล ช่วยพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยสารรถประจำทางซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างหนักในเวลานี้ ที่ต้องลดเที่ยววิ่งเป็นจำนวนมากและลดอันตราบรรทุกผู้โดยสารลงไปกว่า 50%
 
1.ตึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เฉพาะรถขนส่งผู้โดยสาร ดีเซล ไม่เกินลิตรละ 20 บาท และ ก๊าซ NGV ลดเหลือ 10.62 บาท กิโลกรัม
2.ยกเว้นการเก็บภาษีรถโทรสารประจำปี 2564
3.ยกเว้นการทำประกันภัยรถโดยสารภาคสมัครใจประจำปี 2564
4.ให้บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) งดเว้นหรืองดการเรียกค่าทำเนียบ หรือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเดินรถทั้งหมดให้ผู้ประกอบการรถร่วมเป็นเวลา 1 ปี
5.ขอจัดการเดินรถประจำทางให้สามารถหมุนเวียนได้ทึกเส้นทาง เพื่อให้สามารถใช้ตัวรถอย่างเต็มประสิทธิภาพและลดต้นทุนผู้ประกอบการ
6.ขอให้ช่วยเหลือผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิ์การช่วยเหลือเยียวยาจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ใน อัตรา 50% เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน
7. ขอให้ผ่อนคลายการจำหน่ายตั๋วโดยสารต่อรถ 1 คันได้ตามปกติ 100% เมื่อได้มีการฉีดวัคซีนแล้ว