ที่ถูกที่ควรมันควรเป็นแบบไหน?
ถ้าคิดให้ลึกซึ้งปัญหาพื้นฐานรากเหง้าที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่เฉพาะเรื่องวัคซีนเท่านั้นแต่รวมถึงในหลายๆเรื่องที่คนทำงานในระบบราชการต้องตัดสินใจภายใต้ความเสี่ยงในการทำงานโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ที่จะช่วยคนเซ็นเอกสารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการทำงานโดยสุจริตใจเพื่อประเทศชาติและประชาชนในภาวะวิกฤติใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ?
ถ้าเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนที่ รัฐบาลนำเข้ามาเองรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ในภาวะวิกฤต.. ถ้าอยากให้ภาคเอกชนหรือโรงพยาบาลเอกชนมีส่วนช่วยในการบรรเทาการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศชาติและประชาชนด้วยความสุจริตใจ..รัฐบาลก็ไม่น่าจะลังเลใจที่จะเข้ามารับผิดชอบให้กับวัคซีนที่เขาใช้กันทั่วโลก...ในขอบข่ายที่เอกชนเป็นผู้นำเข้าด้วยแทนที่จะรับผิดชอบเฉพาะในขอบข่ายของวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้าแต่เพียงอย่างเดียว
ยกตัวอย่างเทียบเคียงเช่น
กรณีไฟไหม้บ้าน, ถ้าเจ้าของบ้านดับไฟเองเกิดน้ำที่ฉีดไปกระแทกกระจกแตกเจ้าของบ้านก็รับผิดชอบ....แต่ถ้าเพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยหรือลูกน้องจะเข้ามาช่วยภายใต้เงื่อนไขที่ว่าถ้าลูกน้องทำกระจกแตกในการฉีดน้ำให้เจ้าของบ้านรับผิดชอบทำไมจะทำไม่ได้
สำคัญที่สุด..ทั้งหลายทั้งปวงของวัคซีนเอกชนแก้ตรงนี้ได้ก็ฉลุย
ถ้าคิดให้ลึกซึ้งปัญหาพื้นฐานรากเหง้าที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่เฉพาะเรื่องวัคซีนเท่านั้นแต่รวมถึงในหลายๆเรื่องที่คนทำงานในระบบราชการต้องตัดสินใจภายใต้ความเสี่ยงในการทำงานโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ที่จะช่วยคนเซ็นเอกสารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการทำงานโดยสุจริตใจเพื่อประเทศชาติและประชาชนในภาวะวิกฤติใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ?
ถ้าเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนที่ รัฐบาลนำเข้ามาเองรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ในภาวะวิกฤต.. ถ้าอยากให้ภาคเอกชนหรือโรงพยาบาลเอกชนมีส่วนช่วยในการบรรเทาการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศชาติและประชาชนด้วยความสุจริตใจ..รัฐบาลก็ไม่น่าจะลังเลใจที่จะเข้ามารับผิดชอบให้กับวัคซีนที่เขาใช้กันทั่วโลก...ในขอบข่ายที่เอกชนเป็นผู้นำเข้าด้วยแทนที่จะรับผิดชอบเฉพาะในขอบข่ายของวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้าแต่เพียงอย่างเดียว
ยกตัวอย่างเทียบเคียงเช่น
กรณีไฟไหม้บ้าน, ถ้าเจ้าของบ้านดับไฟเองเกิดน้ำที่ฉีดไปกระแทกกระจกแตกเจ้าของบ้านก็รับผิดชอบ....แต่ถ้าเพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยหรือลูกน้องจะเข้ามาช่วยภายใต้เงื่อนไขที่ว่าถ้าลูกน้องทำกระจกแตกในการฉีดน้ำให้เจ้าของบ้านรับผิดชอบทำไมจะทำไม่ได้