เราเป็นเจ้าของกิจการขายรถมอไซค์มือสอง ขนาดเล็กดูแลกิจการแบบครอบครัว โดยที่มีเซลล์คนนี้ช่วยขาย ขายได้ 1 คัน ให้ค่าคอมคันละ 3,000 ซึ่งได้มีข้อตกลงกันว่าต้องรับผิดชอบรถและดูแลตรวจสภาพรถคันนี้จนเสร็จ และช่วยดูแลความเรียยร้อยของรถจนกว่าลูกค้าจะออกถึงจะได้เงิน 3,000
- ต้องย้อนไปว่าเซลล์คนนี้ได้เริ่มทำงานตั้งแต่เดือน มี.ค ปีที่แล้ว เป็นคนค่อนข้างเกี่ยงงานลูกน้องคนอื่น ไม่ค่อยให้เกียรติลูกน้องที่อายุเยอะกว่าที่อยู่มาก่อนเป็นบางครั้ง แต่ถ้าใช้ให้ทำนู่นนี่นั่นก็ถือว่าโอเคไม่มีอาการใดๆ ซึ่งบางครั้งเราก็พาไปเที่ยวบ้าง พาไปกิน ซื้อของมาให้กิน และแบ่งลูกค้าที่เราคุยจบเองให้เซลล์คนนี้บ้างเป็นบางคันเพราะ บางทียอดไม่ถึงเป้าที่เราตั้งไว้ แต่เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เซลล์คนนี้จะออกจากทางร้านเราสิ้นเดือน พ.ค นี้ ซึ่งมาบอกไว้เป็นอาทิตย์ก็ถือว่าโอเค เราจะได้เตรียมหาเซลล์คนใหม่ แต่เผอิญเซลล์คนนี้ขายรถได้ 1 คันในวันที่ 28 พ.ค และลูกค้าจะรับรถวันที่ 3 มิ.ย ในช่วงระหว่างนั้นเราให้ทางเซลล์คนที่ว่าเอารถไปให้ช่างเช็คสภาพรถในวันที่ 29 พ.ค แต่พอถึงวันสิ้นเดือน พ.ค เซลล์คนดังกล่าวก็ได้ออกจากงานไปแล้ว เราก็ให้เงินเดือนตามปกติ *** ยังไม่รวมค่าคอม **** แต่ในช่วงระหว่างที่ซ่อมเราต้องดูแลเองทั้งหมด เข้าไปติดต่อช่าง เข้าไปเอารถกลับ รถเสียก็ต้องเข้าไปซ่อมใหม่เอง ล้างทำความสะอาดกันเองกับลูกน้องที่อายุเยอะ จนทางเราทนไม่ไหว เลยถามกับทางเซลล์คนนี้ว่าไม่มาดูแลรถของลูกค้าคันนี้ที่จะขายหน่อยหรอ ทางเซลล์ตอบกลับมาว่า ผมไม่ว่าง ผมต้องไปรับแฟน ทางเราก็เลยบอกก็แล้วแต่คิดเอาเอง พอถึงวันที่ลูกค้ารับรถ ปรากฏว่าเซลล์คนนี้มาส่งมอบรถ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่ดูแลและรับผิดชอบรถคันนี้สักเท่าไหร่ ได้แต่ประสานงานกับลูกค้าวันซื้อรถ กับรับรถเท่านั้น ไม่มีมาถามทางเราว่าให้ผมไปช่วยดูแลรถคันนี้มั้ย ให้ขับไปเอาออกจากอู่มั้ย ? จนถึงวันรับรถเสร็จ ทางเราให้ค่าคอม 1,000 เพราะ ไม่มาดูแลรถคันที่ต้องรับผิดชอบคันสุดท้าย ทางเซลล์คนนี้จึงด่าทอสารพัด และบอกว่าทางเราโกงเงิน และบอกมาอีกว่า กุออกจากงานแล้ว ทำไมไม่ล้างกันไปล้ะ ให้เซลล์ที่มาใหม่เขาบ้างสิ กุต้องไปทำงานที่ใหม่ นี่ถ้ากุได้งานที่ใหม่ กุต้องหนีงานมาทำให้ด้วยมั้ย ซึ่งทางเราก็พยายามอธิบายบอกว่า ให้ดูแลรถคันสุดท้ายที่ขายได้ ถ้าขายคันนี้ไม่ได้แล้วออกจากงานก็ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอยู่แล้ว ทางเซลล์ก็หาว่าเราโกงๆๆๆ ก็เลยยะถามความเห็นพี่ๆว่า เราควรทำยังไง
ลูกน้องหาว่าโกงเงิน ?
- ต้องย้อนไปว่าเซลล์คนนี้ได้เริ่มทำงานตั้งแต่เดือน มี.ค ปีที่แล้ว เป็นคนค่อนข้างเกี่ยงงานลูกน้องคนอื่น ไม่ค่อยให้เกียรติลูกน้องที่อายุเยอะกว่าที่อยู่มาก่อนเป็นบางครั้ง แต่ถ้าใช้ให้ทำนู่นนี่นั่นก็ถือว่าโอเคไม่มีอาการใดๆ ซึ่งบางครั้งเราก็พาไปเที่ยวบ้าง พาไปกิน ซื้อของมาให้กิน และแบ่งลูกค้าที่เราคุยจบเองให้เซลล์คนนี้บ้างเป็นบางคันเพราะ บางทียอดไม่ถึงเป้าที่เราตั้งไว้ แต่เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เซลล์คนนี้จะออกจากทางร้านเราสิ้นเดือน พ.ค นี้ ซึ่งมาบอกไว้เป็นอาทิตย์ก็ถือว่าโอเค เราจะได้เตรียมหาเซลล์คนใหม่ แต่เผอิญเซลล์คนนี้ขายรถได้ 1 คันในวันที่ 28 พ.ค และลูกค้าจะรับรถวันที่ 3 มิ.ย ในช่วงระหว่างนั้นเราให้ทางเซลล์คนที่ว่าเอารถไปให้ช่างเช็คสภาพรถในวันที่ 29 พ.ค แต่พอถึงวันสิ้นเดือน พ.ค เซลล์คนดังกล่าวก็ได้ออกจากงานไปแล้ว เราก็ให้เงินเดือนตามปกติ *** ยังไม่รวมค่าคอม **** แต่ในช่วงระหว่างที่ซ่อมเราต้องดูแลเองทั้งหมด เข้าไปติดต่อช่าง เข้าไปเอารถกลับ รถเสียก็ต้องเข้าไปซ่อมใหม่เอง ล้างทำความสะอาดกันเองกับลูกน้องที่อายุเยอะ จนทางเราทนไม่ไหว เลยถามกับทางเซลล์คนนี้ว่าไม่มาดูแลรถของลูกค้าคันนี้ที่จะขายหน่อยหรอ ทางเซลล์ตอบกลับมาว่า ผมไม่ว่าง ผมต้องไปรับแฟน ทางเราก็เลยบอกก็แล้วแต่คิดเอาเอง พอถึงวันที่ลูกค้ารับรถ ปรากฏว่าเซลล์คนนี้มาส่งมอบรถ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่ดูแลและรับผิดชอบรถคันนี้สักเท่าไหร่ ได้แต่ประสานงานกับลูกค้าวันซื้อรถ กับรับรถเท่านั้น ไม่มีมาถามทางเราว่าให้ผมไปช่วยดูแลรถคันนี้มั้ย ให้ขับไปเอาออกจากอู่มั้ย ? จนถึงวันรับรถเสร็จ ทางเราให้ค่าคอม 1,000 เพราะ ไม่มาดูแลรถคันที่ต้องรับผิดชอบคันสุดท้าย ทางเซลล์คนนี้จึงด่าทอสารพัด และบอกว่าทางเราโกงเงิน และบอกมาอีกว่า กุออกจากงานแล้ว ทำไมไม่ล้างกันไปล้ะ ให้เซลล์ที่มาใหม่เขาบ้างสิ กุต้องไปทำงานที่ใหม่ นี่ถ้ากุได้งานที่ใหม่ กุต้องหนีงานมาทำให้ด้วยมั้ย ซึ่งทางเราก็พยายามอธิบายบอกว่า ให้ดูแลรถคันสุดท้ายที่ขายได้ ถ้าขายคันนี้ไม่ได้แล้วออกจากงานก็ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอยู่แล้ว ทางเซลล์ก็หาว่าเราโกงๆๆๆ ก็เลยยะถามความเห็นพี่ๆว่า เราควรทำยังไง