คัมภีร์อัลกุรอาน คือ คัมภีร์ที่เป็นวจนะของพระผู้เป็นเจ้า(ทั้งหมด) ซึ่งไม่ปะปนคำพูดหรือความเห็นใดๆของมนุษย์เลยแม้แต่น้อย ผ่านผ่านทางเทวทูต(Angel) มายังท่านศาสนทูต(Phophet) โดยท่านนบีมุฮัมมัด(ﷺ) ได้อ่านให้สาวกจำและสาวกจะบันทึกวจนะของพระเจ้าไว้ด้วยกับสิ่งของที่หาได้ ณ ช่วงแรก บันทึกลงบนหินหรือก้านอินทผาลัมและได้คัดลอกแจกจ่ายกันในยุคของท่านอุษมาน(ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าอัลกุรอานถูกบันทึกรวบรวมหลังท่านนบีตาย) แต่ความจริงแล้วได้มีการบันทึกรวบรวมไว้ตั้งแต่ยุคของท่านนบีมุฮัมมัดยังมีชีวิตอยู่แล้ว
อัลกุรอานเป็นคัมภีร์เดียวในโลกที่มีการกล่าวว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆแม้แต่อักษร หากมีก็ต้องหาหลักฐานที่มาของข้อความนั้นให้ได้ (ดูคลิปประกอบเพื่อความดขเาใจมากขึ้นถึงขั้นตอนเบื้องต้น) อัลกุรอานได้ถูกส่งต่อมายังปัจจุบันด้วยกับการบันทึก ตรวจสอบ และส่งมอบการรายงานไปให้คนรุ่นหลัง ซึ่งต้องได้รับการยอมรับจากผู้บันทึกคนก่อนทั้งในเรื่องคุณธรรม ความรู้ และความจำ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับสายรายงานอัลกุรอาน (มุสลิมปัจจุบันจึงเป็นหนี้บุญคุณทั้งท่านนบีมุฮัมมัดและบรรดาสาวกของท่านที่อุทิศตนเผยแผ่วจนะของพระเจ้ามายังมุสลิมปัจจุบัน) เพราะฉะนั้นมุสลิมต้องให้เกียรติแก่บรรพชนโดยการไม่ทำตัวเป็นพวก รับข้อมูลใช้ข้อมูล แต่วิจารณ์ผู้ส่งมอบอัลกุรอานว่าเป็นพวกนอกรีต
และอัลกุรอานเป็นคัมภีร์เดียวในโลกที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงใดๆเลยเพื่อเอาใจคนหมู่มาก หรือเพราะค้านกับวิทย์ที่เป็นทฤษฎี
คัมภีร์อัลกุรอานไม่ถูกเปลี่ยนแปลงจริงหรือ?
คัมภีร์อัลกุรอาน คือ คัมภีร์ที่เป็นวจนะของพระผู้เป็นเจ้า(ทั้งหมด) ซึ่งไม่ปะปนคำพูดหรือความเห็นใดๆของมนุษย์เลยแม้แต่น้อย ผ่านผ่านทางเทวทูต(Angel) มายังท่านศาสนทูต(Phophet) โดยท่านนบีมุฮัมมัด(ﷺ) ได้อ่านให้สาวกจำและสาวกจะบันทึกวจนะของพระเจ้าไว้ด้วยกับสิ่งของที่หาได้ ณ ช่วงแรก บันทึกลงบนหินหรือก้านอินทผาลัมและได้คัดลอกแจกจ่ายกันในยุคของท่านอุษมาน(ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าอัลกุรอานถูกบันทึกรวบรวมหลังท่านนบีตาย) แต่ความจริงแล้วได้มีการบันทึกรวบรวมไว้ตั้งแต่ยุคของท่านนบีมุฮัมมัดยังมีชีวิตอยู่แล้ว
อัลกุรอานเป็นคัมภีร์เดียวในโลกที่มีการกล่าวว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆแม้แต่อักษร หากมีก็ต้องหาหลักฐานที่มาของข้อความนั้นให้ได้ (ดูคลิปประกอบเพื่อความดขเาใจมากขึ้นถึงขั้นตอนเบื้องต้น) อัลกุรอานได้ถูกส่งต่อมายังปัจจุบันด้วยกับการบันทึก ตรวจสอบ และส่งมอบการรายงานไปให้คนรุ่นหลัง ซึ่งต้องได้รับการยอมรับจากผู้บันทึกคนก่อนทั้งในเรื่องคุณธรรม ความรู้ และความจำ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับสายรายงานอัลกุรอาน (มุสลิมปัจจุบันจึงเป็นหนี้บุญคุณทั้งท่านนบีมุฮัมมัดและบรรดาสาวกของท่านที่อุทิศตนเผยแผ่วจนะของพระเจ้ามายังมุสลิมปัจจุบัน) เพราะฉะนั้นมุสลิมต้องให้เกียรติแก่บรรพชนโดยการไม่ทำตัวเป็นพวก รับข้อมูลใช้ข้อมูล แต่วิจารณ์ผู้ส่งมอบอัลกุรอานว่าเป็นพวกนอกรีต
และอัลกุรอานเป็นคัมภีร์เดียวในโลกที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงใดๆเลยเพื่อเอาใจคนหมู่มาก หรือเพราะค้านกับวิทย์ที่เป็นทฤษฎี