Nomadland (Chloe Zhao)
10/10
"เรียบง่าย ....แต่งดงามที่สุด คุณค่าที่คู่ควรกับ Best Picture"
(ดูได้ใน Disney Plus)
....
บอกตรงๆ อยากดู Nomadland มากๆ ตั้งแต่หนังไปกวาดรางวัลจากสมาคมนักวิจารณ์ที่โน่น ที่นี่ ที่นั่น จนหนังได้ลูกโลกทองคำ บาฟต้า และออสการ์ ...ความหวังที่อยากดูในโรงริบหรี่มาก จนการมาของ ดิสนีย์ พลัส นี่ล่ะ ทำให้ผมได้ดูหนังเรื่องนี้เต็มๆ สักที
แรกๆ แอบกังวลเล็กๆ เพราะได้ยินจากคนดูที่ได้ดูแล้วว่า หนังมันเรื่อยๆ นิ่งๆ เนิบๆ เชื่องช้า คล้ายดูสารคดี กลัวว่าจะน่าเบื่อไหม จะหลับมั้ย แล้วยิ่งการรับรู้เรื่องราวของพวกโนแมด ในบ้านเรา แทบจะไม่ได้อินใดๆ เลย น่าจะเรียกว่า เป็นหนังเฉพาะกลุ่มของอเมริกันชนซะมากกว่า ...แต่ยังไงก็ต้องดู เลยตัดสินใจดู ...แล้วพบว่า ดีใจมากๆ จริงๆ ที่ตัดสินใจเปิดดู ...หนังดีครับ ดีมาก แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคนนะ แต่สำหรับผม มันเติมพลังใจเล็กๆ ในช่วงเวลานี้ ช่วงเวลาที่ท้อแท้กับอะไรหลายๆ เรื่องจริงๆ
Nomad แปลตรงตัวคือ คนเร่ร่อน ซึ่งไม่ได้หมายถึงพวก Homeless คือคนไร้บ้าน ...Nomad ในหนังคือคนที่ไม่ต้องการอยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่ในรถบ้าน เร่ร่อนสัญจรไปเรื่อยๆ หลายคนพอไปจอดพักที่ไหน อาจหาจ๊อบงานเล็กๆ ทำเพื่อมีรายได้ หลานคนมีบ้าน มีญาติพี่น้อง มีลูกๆ แต่ตัดสินใจเลือกไม่ไปอยู่กับพวกเขา แต่กลับพอใจที่จะออกเร่ร่อน สัญจรแบบคนจรหมอนหมิ่นมากกว่า
Nomadland เล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักคือ เฟิร์น (ฟรานเซส แม็คดอมานด์) หญิงม่ายวัย 60 สามีตาย งานที่ทำคือบริษัทผลิตยิปซัม ที่เอ็มไพร์ในรัฐเนวาด้า ปิดตัวลง เธอจึงตัดสินใจซื้อรถบ้าน เพื่อออกตระเวนเดินทางแบบโนแมด ไปทางดินแดนตอนใต้ของอเมริกา ระหว่างเมืองที่แวะจอด เธอก็ยังหารายได้เช่นไปทำงาน แพ็คสินค้า ที่ แอมะซอน บ้าง ทำงานเก็บขยะในสนามกอล์ฟ บ้าง ...และเธอได้เจอ ได้พูดคุยกับบรรดาโนแมดที่หลากหลาย ได้สัมผัส ได้มิตรภาพดีๆ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองชีวิต ได้รับรู้ถึงความสุข ความเศร้า การจากลา พร้อมกับได้มอง ได้สะท้อน ได้สำรวจถึงตัวเองถึงคุณค่า ตัวตนที่แท้จริงในช่วงเวลาเกษียณของชีวิต
ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ แทบจะเป็นตัวแบกหนังทั้งเรื่อง และเธอเองก็เล่นได้อย่างเรียบง่าย เล่นดีจนไม่มีที่ติ ไม่แปลกใจที่เธอคว้าออสการ์นักแสดงนำหญิงมาได้ ...รวมถึงนักแสดงอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่ใช้พวกโนแมดจริงๆ มาเล่น จะเห็นก็แค่บทเดฟ ที่สวมบทโดยนักแสงเจ้าบทบาท เดวิด สเตรทธาร์น เพื่อนในกลุ่มโนแมดที่เฟิร์นพบเจอขณะจอดรถ ...ส่วนตัวผมชอบคาแรกเตอร์ของเดฟนะ เป็นคุณพ่อมีลูกชาย มีบ้านอยู่ แต่อยากใช้ชีวิตแบบโนแมด ออกมาอยู่เร่ร่อนกับรถบ้าน หารายได้จากการเป็นกุ๊กในร้านอาหารเล็กๆ สุดท้ายเดฟ ก็ต้องยอมทิ้งวิถีชีวิตแบบโนแมด กลับไปอยู่กับครอบครัวทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้ อีกครั้ง
บอกไว้ตรงนี้ครับ ...Nomadland คือหนังดีมาก งดงาม เรียบง่าย ที่อยากเชียร์ให้ลองดู ได้ลองสัมผัสหนังในมุมมองแบบใหม่ๆ บ้าง ...ยอมรับตรงๆ ว่าหนังมันไม่เหมาะกับทุกคนนะครับ (แต่ลองเปิดใจสัมผัสดูก็ดีนะครับ) หนังมันเดินเรื่องช้าๆ เรื่อยๆ แบบกึ่งๆ สารคดี ไม่หวือหวา ไม่มีการเร้าอารมณ์ได้ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนคนดูตามติดชีวิตของเฟิร์น ตามไปรู้จักกับคนโนแมด ..ยอมรับ มีเสียน้ำตาหลายช่วงมากๆ มันเรียลมาก มันได้สัมผัสถึงแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์จริงๆ มันดีงาม มันแสดงคุณค่าของความเป็นมนุษยฺที่แท้จริง ...ชื่นชมผู้กำกับ โคลอี้ เจ้า มากๆ ที่ถ่ายทอดความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะมุมมองของความเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนมีความงดงามอยู่ในตัวเอง ...หนังมีความเป็นตัวตนสูง และไม่เกินเลยที่จะบอกว่า หนังมีความรักในมนุษย์ทุกคนสูงมาก อีกมุมหนึ่งที่สัมผัสได้ คือความเป็นขบถของผู้คนโนแมด ที่เลือกปฏิเสธสังคมแบบทุนนิยม และออกมาใช้ชีวิตแบบปัจเจกชน ตามแบบที่ตัวเองต้องการ
สิ่งที่ดีงามไม่แพ้เนื้อหา คืองานด้านภาพ ..Scenatic ต่างๆ ในหนังสวยงาม ทั้งการถ่ายทอดภูมิประเทศของอเมริกา ทั้งแถบเนบราสก้า ได้อย่างงดงาม หนังแทบไม่ได้จัดแสงใดๆ ใช้แสงธรรมชาติ แต่โดดเด่นมากๆ เรื่องงานภาพ เข้าใจแล้วว่าทำไมที่เมืองนอกถึงฉายโรง Imax เพราะงานภาพต่างๆ ในหนังนี่คือที่สุดแล้วจริงๆ
อยากปรบมือดังๆ ให้กับโคลอี้ เจ้า ที่ทำ Nomadland ได้อย่างเข้าใจ มีมุมมองใหม่ มีวิชั่นที่ดีของการถ่ายทอดสิ่งต่างๆลงมาในหนัง ...และเชื่อว่า Eternals ของ Marvel ต้องมีอะไรดีๆ ใหม่ๆ และแตกต่างแน่ๆ
แม้จะไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคน แต่อยากให้ทุกคนลองเปิดใจดู Nomadland ...แม้จะไม่บันเทิง แต่มันควรคุณค่ากับคำว่า หนังดีงาม ที่อยากปรบมือให้จริงๆ
ติดตามเพจ
https://www.facebook.com/urrahoei
#Nomadland #Disneyplusthailand
#เอ้อระเหยลอยลม
[CR] รีวิว : "์Nomadland" : เรียบง่าย แต่งดงามที่สุด คุณค่าที่คู่ควร Best Picture
10/10
"เรียบง่าย ....แต่งดงามที่สุด คุณค่าที่คู่ควรกับ Best Picture"
(ดูได้ใน Disney Plus)
....
บอกตรงๆ อยากดู Nomadland มากๆ ตั้งแต่หนังไปกวาดรางวัลจากสมาคมนักวิจารณ์ที่โน่น ที่นี่ ที่นั่น จนหนังได้ลูกโลกทองคำ บาฟต้า และออสการ์ ...ความหวังที่อยากดูในโรงริบหรี่มาก จนการมาของ ดิสนีย์ พลัส นี่ล่ะ ทำให้ผมได้ดูหนังเรื่องนี้เต็มๆ สักที
แรกๆ แอบกังวลเล็กๆ เพราะได้ยินจากคนดูที่ได้ดูแล้วว่า หนังมันเรื่อยๆ นิ่งๆ เนิบๆ เชื่องช้า คล้ายดูสารคดี กลัวว่าจะน่าเบื่อไหม จะหลับมั้ย แล้วยิ่งการรับรู้เรื่องราวของพวกโนแมด ในบ้านเรา แทบจะไม่ได้อินใดๆ เลย น่าจะเรียกว่า เป็นหนังเฉพาะกลุ่มของอเมริกันชนซะมากกว่า ...แต่ยังไงก็ต้องดู เลยตัดสินใจดู ...แล้วพบว่า ดีใจมากๆ จริงๆ ที่ตัดสินใจเปิดดู ...หนังดีครับ ดีมาก แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคนนะ แต่สำหรับผม มันเติมพลังใจเล็กๆ ในช่วงเวลานี้ ช่วงเวลาที่ท้อแท้กับอะไรหลายๆ เรื่องจริงๆ
Nomad แปลตรงตัวคือ คนเร่ร่อน ซึ่งไม่ได้หมายถึงพวก Homeless คือคนไร้บ้าน ...Nomad ในหนังคือคนที่ไม่ต้องการอยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่ในรถบ้าน เร่ร่อนสัญจรไปเรื่อยๆ หลายคนพอไปจอดพักที่ไหน อาจหาจ๊อบงานเล็กๆ ทำเพื่อมีรายได้ หลานคนมีบ้าน มีญาติพี่น้อง มีลูกๆ แต่ตัดสินใจเลือกไม่ไปอยู่กับพวกเขา แต่กลับพอใจที่จะออกเร่ร่อน สัญจรแบบคนจรหมอนหมิ่นมากกว่า
Nomadland เล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักคือ เฟิร์น (ฟรานเซส แม็คดอมานด์) หญิงม่ายวัย 60 สามีตาย งานที่ทำคือบริษัทผลิตยิปซัม ที่เอ็มไพร์ในรัฐเนวาด้า ปิดตัวลง เธอจึงตัดสินใจซื้อรถบ้าน เพื่อออกตระเวนเดินทางแบบโนแมด ไปทางดินแดนตอนใต้ของอเมริกา ระหว่างเมืองที่แวะจอด เธอก็ยังหารายได้เช่นไปทำงาน แพ็คสินค้า ที่ แอมะซอน บ้าง ทำงานเก็บขยะในสนามกอล์ฟ บ้าง ...และเธอได้เจอ ได้พูดคุยกับบรรดาโนแมดที่หลากหลาย ได้สัมผัส ได้มิตรภาพดีๆ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองชีวิต ได้รับรู้ถึงความสุข ความเศร้า การจากลา พร้อมกับได้มอง ได้สะท้อน ได้สำรวจถึงตัวเองถึงคุณค่า ตัวตนที่แท้จริงในช่วงเวลาเกษียณของชีวิต
ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ แทบจะเป็นตัวแบกหนังทั้งเรื่อง และเธอเองก็เล่นได้อย่างเรียบง่าย เล่นดีจนไม่มีที่ติ ไม่แปลกใจที่เธอคว้าออสการ์นักแสดงนำหญิงมาได้ ...รวมถึงนักแสดงอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่ใช้พวกโนแมดจริงๆ มาเล่น จะเห็นก็แค่บทเดฟ ที่สวมบทโดยนักแสงเจ้าบทบาท เดวิด สเตรทธาร์น เพื่อนในกลุ่มโนแมดที่เฟิร์นพบเจอขณะจอดรถ ...ส่วนตัวผมชอบคาแรกเตอร์ของเดฟนะ เป็นคุณพ่อมีลูกชาย มีบ้านอยู่ แต่อยากใช้ชีวิตแบบโนแมด ออกมาอยู่เร่ร่อนกับรถบ้าน หารายได้จากการเป็นกุ๊กในร้านอาหารเล็กๆ สุดท้ายเดฟ ก็ต้องยอมทิ้งวิถีชีวิตแบบโนแมด กลับไปอยู่กับครอบครัวทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้ อีกครั้ง
บอกไว้ตรงนี้ครับ ...Nomadland คือหนังดีมาก งดงาม เรียบง่าย ที่อยากเชียร์ให้ลองดู ได้ลองสัมผัสหนังในมุมมองแบบใหม่ๆ บ้าง ...ยอมรับตรงๆ ว่าหนังมันไม่เหมาะกับทุกคนนะครับ (แต่ลองเปิดใจสัมผัสดูก็ดีนะครับ) หนังมันเดินเรื่องช้าๆ เรื่อยๆ แบบกึ่งๆ สารคดี ไม่หวือหวา ไม่มีการเร้าอารมณ์ได้ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนคนดูตามติดชีวิตของเฟิร์น ตามไปรู้จักกับคนโนแมด ..ยอมรับ มีเสียน้ำตาหลายช่วงมากๆ มันเรียลมาก มันได้สัมผัสถึงแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์จริงๆ มันดีงาม มันแสดงคุณค่าของความเป็นมนุษยฺที่แท้จริง ...ชื่นชมผู้กำกับ โคลอี้ เจ้า มากๆ ที่ถ่ายทอดความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะมุมมองของความเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนมีความงดงามอยู่ในตัวเอง ...หนังมีความเป็นตัวตนสูง และไม่เกินเลยที่จะบอกว่า หนังมีความรักในมนุษย์ทุกคนสูงมาก อีกมุมหนึ่งที่สัมผัสได้ คือความเป็นขบถของผู้คนโนแมด ที่เลือกปฏิเสธสังคมแบบทุนนิยม และออกมาใช้ชีวิตแบบปัจเจกชน ตามแบบที่ตัวเองต้องการ
สิ่งที่ดีงามไม่แพ้เนื้อหา คืองานด้านภาพ ..Scenatic ต่างๆ ในหนังสวยงาม ทั้งการถ่ายทอดภูมิประเทศของอเมริกา ทั้งแถบเนบราสก้า ได้อย่างงดงาม หนังแทบไม่ได้จัดแสงใดๆ ใช้แสงธรรมชาติ แต่โดดเด่นมากๆ เรื่องงานภาพ เข้าใจแล้วว่าทำไมที่เมืองนอกถึงฉายโรง Imax เพราะงานภาพต่างๆ ในหนังนี่คือที่สุดแล้วจริงๆ
อยากปรบมือดังๆ ให้กับโคลอี้ เจ้า ที่ทำ Nomadland ได้อย่างเข้าใจ มีมุมมองใหม่ มีวิชั่นที่ดีของการถ่ายทอดสิ่งต่างๆลงมาในหนัง ...และเชื่อว่า Eternals ของ Marvel ต้องมีอะไรดีๆ ใหม่ๆ และแตกต่างแน่ๆ
แม้จะไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคน แต่อยากให้ทุกคนลองเปิดใจดู Nomadland ...แม้จะไม่บันเทิง แต่มันควรคุณค่ากับคำว่า หนังดีงาม ที่อยากปรบมือให้จริงๆ
ติดตามเพจ
https://www.facebook.com/urrahoei
#Nomadland #Disneyplusthailand
#เอ้อระเหยลอยลม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้