สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ถึงกับต้องล็อคอินเข้ามาตอบ
เราเคยเป็นค่ะ ช่วงอายุพอๆกับ จขกท พอดี แต่งงานแล้วด้วย
ไม่มีคนใหม่ ไม่มีใครเข้ามา แต่มันเบื่อค่ะ หลังๆคือไม่อยากกินข้าวด้วย
เรากินข้าวไปจากที่ทำงาน พอกลับถึงบ้านเห็นหน้าแล้วมันก็กินอะไรไม่ลง แปลกประหลาดมาก ช่วงนั้นน้ำหนักเราลงเป็น 10 โลเลยค่ะ
สุดท้ายมันก็แตกหักเพราะเราซื้อบ้านค่ะ
สามีเรา หลังจากแต่งงานก็ลาออกจากงานมาอยู่ห้องเฉยๆ
เพราะช่วงนั้นเราหาเงินได้มากกว่าด้วย ก็เลยปล่อยๆให้พักก่อน
สุดท้ายสามีเราไม่ยอมไปทำงานค่ะ งานบ้านก็ไม่ทำ นอนอยู่ห้องเล่นเกมส์ มีออกไปทำงานเป็นเซลล์รถ(ไม่มีเงินเดือน) เกือบๆครึ่งปี สุดท้ายไม่เวิร์คเลยกลับมาทำงานได้ 4-5 เดือน
ทีนี้พอเราซื้อบ้าน เรากู้คนเดียวผ่านค่ะ สามีไม่ยอม แต่ตัวเขาเองไม่มีสเตทเม้นท์ที่จะกู้ร่วมได้ เขาเลยขอจดทะเบียนสมรสค่ะ
เราไม่ยอมจดเพราะเขาเคยปล่อยให้เราทำงานเลี้ยงอยู่เกือบ2 ปี
เขาก็ด่าเราหาว่าเราไม่ให้เกียรติ ด่าสารพัดเท่าที่จะสรรหาคำมาด่าได้ท้าให้เลิก
หลังทำเรื่องบ้านเสร็จเราก็หิ้วที่นอนปิ๊กนิก หมอนผ้าห่มเสื้อผ้า 2-3 ชึด แล้วย้ายเข้าบ้านตัวเองค่ะ ไม่เอาเขามาด้วย ของทุกอย่างที่ซื้อและใช้ร่วมกันมาที่ห้องเก่าเราทิ้งไว้ให้เขาทั้งหมด มาสร้างใหม่เอง
สรุปคือหมด Passion ของเราก็คือหมดรักค่ะ พอหมดรักอะไรๆที่เคย ยอมให้ได้ ก็ไม่อยากยอมอีกแล้ว มันหมดเหตุผลที่จะทนค่ะ
ส่วนใหญ่ที่คนเราหมดรัก มันก็เกิดจากปัญหาเล็กๆเดิมๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆจนเราเลิกทนและออกมาอยู่กับตัวเองดีกว่า สบายใจ สบายกาย
เราเคยเป็นค่ะ ช่วงอายุพอๆกับ จขกท พอดี แต่งงานแล้วด้วย
ไม่มีคนใหม่ ไม่มีใครเข้ามา แต่มันเบื่อค่ะ หลังๆคือไม่อยากกินข้าวด้วย
เรากินข้าวไปจากที่ทำงาน พอกลับถึงบ้านเห็นหน้าแล้วมันก็กินอะไรไม่ลง แปลกประหลาดมาก ช่วงนั้นน้ำหนักเราลงเป็น 10 โลเลยค่ะ
สุดท้ายมันก็แตกหักเพราะเราซื้อบ้านค่ะ
สามีเรา หลังจากแต่งงานก็ลาออกจากงานมาอยู่ห้องเฉยๆ
เพราะช่วงนั้นเราหาเงินได้มากกว่าด้วย ก็เลยปล่อยๆให้พักก่อน
สุดท้ายสามีเราไม่ยอมไปทำงานค่ะ งานบ้านก็ไม่ทำ นอนอยู่ห้องเล่นเกมส์ มีออกไปทำงานเป็นเซลล์รถ(ไม่มีเงินเดือน) เกือบๆครึ่งปี สุดท้ายไม่เวิร์คเลยกลับมาทำงานได้ 4-5 เดือน
ทีนี้พอเราซื้อบ้าน เรากู้คนเดียวผ่านค่ะ สามีไม่ยอม แต่ตัวเขาเองไม่มีสเตทเม้นท์ที่จะกู้ร่วมได้ เขาเลยขอจดทะเบียนสมรสค่ะ
เราไม่ยอมจดเพราะเขาเคยปล่อยให้เราทำงานเลี้ยงอยู่เกือบ2 ปี
เขาก็ด่าเราหาว่าเราไม่ให้เกียรติ ด่าสารพัดเท่าที่จะสรรหาคำมาด่าได้ท้าให้เลิก
หลังทำเรื่องบ้านเสร็จเราก็หิ้วที่นอนปิ๊กนิก หมอนผ้าห่มเสื้อผ้า 2-3 ชึด แล้วย้ายเข้าบ้านตัวเองค่ะ ไม่เอาเขามาด้วย ของทุกอย่างที่ซื้อและใช้ร่วมกันมาที่ห้องเก่าเราทิ้งไว้ให้เขาทั้งหมด มาสร้างใหม่เอง
สรุปคือหมด Passion ของเราก็คือหมดรักค่ะ พอหมดรักอะไรๆที่เคย ยอมให้ได้ ก็ไม่อยากยอมอีกแล้ว มันหมดเหตุผลที่จะทนค่ะ
ส่วนใหญ่ที่คนเราหมดรัก มันก็เกิดจากปัญหาเล็กๆเดิมๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆจนเราเลิกทนและออกมาอยู่กับตัวเองดีกว่า สบายใจ สบายกาย
ความคิดเห็นที่ 4
เรามองแบบนี้นะคะ
- อารมณ์คนเราอ่ะ เอาแน่นอนไม่ได้หรอกค่ะ มันเปลี่ยนไปๆ มาๆ ได้สารพัด
บางอารมณ์ที่มันอยู่กับเรานานๆ เราก็นึกว่ามันมั่นคง แน่นอนไปตลอด
แต่จริงๆ แล้ว วันนึง มันก็อาจจะเปลี่ยนไปได้แบบหน้ามือ/หลังมือเลยค่ะ
คู่ชีวิตมากมายที่อยู่ร่วมกันมาหลายสิบปี บางคู่มีลูกหลานเต็มไปหมด
ถามว่า อารมณ์ ความรู้สึกต่อคนรักมันเปลี่ยนไปมั้ย?
มันเปลี่ยนไปค่ะ บางคนก็เบื่อสุดๆ กับคนที่อยู่ด้วย
แต่ก็มีสารพัดเหตุผลที่จำต้องอยู่ร่วมกันต่อไป
บางคู่อยู่กันจนอายุ 70 กว่าๆ ก็ยังเพิ่งจะมาหย่ากันก็มีเยอะค่ะ
บางคู่ก็อยู่กันนาน จนปรับตัวได้กับทั้ง "ข้อดีและข้อเสีย" ของแต่ละฝ่าย
... ฯลฯ
- ถ้าถามว่า แก้ความรู้สึกพวกนี้ได้มั้ย?
ก็ต้องบอกว่า ทั้งแก้ได้ และแก้ไม่ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ
มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากพอสมควรเลย
เช่น บางคนตั้งเป้าหมายไว้เคร่งครัดมากกับการมีคู่ แต่งงาน มีลูก ฯลฯ
เพราะฉะนั้น คนเหล่านั้น ก็จะแก้ปัญหาไปทางนึง อาทิ
คบคนนี้ ไม่ถูกใจ ก็ไปคบคนใหม่ คือเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ยังไงก็ได้ ขอมีคู่ชีวิตไว้ก่อน ไม่ต้องการอยู่คนเดียว เป็นต้น
หรือบางคนไม่ได้ตั้งเป้าอะไรกับชีวิตคู่ คือ มีแฟนก็ได้ อยู่โสดก็ได้
แต่งงานหรือไม่แต่ง ก็ได้ มันมีข้อดีข้อด้อยทุกทางแหละ ไม่มีทางไหนถูกใจไปหมด
เพราะฉะนั้น คนพวกนี้ ก็เลือกเอาได้ว่า ถ้ามีคู่แล้วมันทุกข์มากกว่าสุข
เค้าก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่ใช่ว่า พอเจอใครไม่ถูกใจ ก็ต้องเปลี่ยนหาคนใหม่เสมอไป
บางคนพบว่า การหยุดแสวงหาคนอื่นมาสร้างความสุขให้
แล้วเราเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุขด้วยตนเอง มันเป็นเรื่องที่อิสระกว่า
แล้ววันนึง ถ้าจะมีใครมาร่วมชีวิต ก็พิจารณาให้ลงตัว แต่ถ้าไม่ลงตัว ก็ไม่กลัวที่จะอยู่คนเดียว
เพราะรู้วิธีอยู่คนเดียวได้ อะไรประมาณนั้นค่ะ
- อารมณ์คนเราอ่ะ เอาแน่นอนไม่ได้หรอกค่ะ มันเปลี่ยนไปๆ มาๆ ได้สารพัด
บางอารมณ์ที่มันอยู่กับเรานานๆ เราก็นึกว่ามันมั่นคง แน่นอนไปตลอด
แต่จริงๆ แล้ว วันนึง มันก็อาจจะเปลี่ยนไปได้แบบหน้ามือ/หลังมือเลยค่ะ
คู่ชีวิตมากมายที่อยู่ร่วมกันมาหลายสิบปี บางคู่มีลูกหลานเต็มไปหมด
ถามว่า อารมณ์ ความรู้สึกต่อคนรักมันเปลี่ยนไปมั้ย?
มันเปลี่ยนไปค่ะ บางคนก็เบื่อสุดๆ กับคนที่อยู่ด้วย
แต่ก็มีสารพัดเหตุผลที่จำต้องอยู่ร่วมกันต่อไป
บางคู่อยู่กันจนอายุ 70 กว่าๆ ก็ยังเพิ่งจะมาหย่ากันก็มีเยอะค่ะ
บางคู่ก็อยู่กันนาน จนปรับตัวได้กับทั้ง "ข้อดีและข้อเสีย" ของแต่ละฝ่าย
... ฯลฯ
- ถ้าถามว่า แก้ความรู้สึกพวกนี้ได้มั้ย?
ก็ต้องบอกว่า ทั้งแก้ได้ และแก้ไม่ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ
มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากพอสมควรเลย
เช่น บางคนตั้งเป้าหมายไว้เคร่งครัดมากกับการมีคู่ แต่งงาน มีลูก ฯลฯ
เพราะฉะนั้น คนเหล่านั้น ก็จะแก้ปัญหาไปทางนึง อาทิ
คบคนนี้ ไม่ถูกใจ ก็ไปคบคนใหม่ คือเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ยังไงก็ได้ ขอมีคู่ชีวิตไว้ก่อน ไม่ต้องการอยู่คนเดียว เป็นต้น
หรือบางคนไม่ได้ตั้งเป้าอะไรกับชีวิตคู่ คือ มีแฟนก็ได้ อยู่โสดก็ได้
แต่งงานหรือไม่แต่ง ก็ได้ มันมีข้อดีข้อด้อยทุกทางแหละ ไม่มีทางไหนถูกใจไปหมด
เพราะฉะนั้น คนพวกนี้ ก็เลือกเอาได้ว่า ถ้ามีคู่แล้วมันทุกข์มากกว่าสุข
เค้าก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่ใช่ว่า พอเจอใครไม่ถูกใจ ก็ต้องเปลี่ยนหาคนใหม่เสมอไป
บางคนพบว่า การหยุดแสวงหาคนอื่นมาสร้างความสุขให้
แล้วเราเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุขด้วยตนเอง มันเป็นเรื่องที่อิสระกว่า
แล้ววันนึง ถ้าจะมีใครมาร่วมชีวิต ก็พิจารณาให้ลงตัว แต่ถ้าไม่ลงตัว ก็ไม่กลัวที่จะอยู่คนเดียว
เพราะรู้วิธีอยู่คนเดียวได้ อะไรประมาณนั้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เคยหมด passion กับแฟนไหม แล้วแก้ได้รึป่าว
ปล. เราอายุยี่สิบปลายๆ แฟนสามสิบต้นๆ