(นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบกระดูกของสายพันธุ์โบราณ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของลิงและเรา ในหลุมฝังกลบ Can Mata ที่ขยายตัวขึ้นในแคว้นคาตาโลเนีย)
ในบางกรณี การค้นพบฟอสซิลก็มาจากการสร้างถนนที่ต้องมีการขุดรากฐานใหม่ หรือขุดดินด้วยเหตุผลอื่นๆ มากมาย แม้ความล่าช้าอาจจะทำให้เสียเวลาและรายได้ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้การค้นพบโดยบังเอิญเหล่านี้ไม่ถูกละเลย หลายสถานที่ในโลกจึงกำหนดให้มีนักบรรพชีวินวิทยาหรือนักโบราณคดีอยู่ที่สถานที่ก่อสร้าง สิ่งนี้นำไปสู่สถานการณ์ที่พิเศษสำหรับสถานที่ทิ้งขยะที่ใกล้จะปิดตัวเร็ว ๆ นี้ และนักบรรพชีวินวิทยาที่เกี่ยวข้องในสเปน
หลุมฝังกลบ Abocador de Can Mata ใน Catalonia ประเทศสเปน เป็นหลุมขุดขนาดใหญ่ในดินทราย ซึ่งชาวบ้านบอกว่าจะมีการนำขยะที่เหม็นมากมาเติมที่หลุมเหล่านี้ทุกวัน ดังนั้น การขุดค้นจึงเกิดขึ้นทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างนั้น นักวิจัยจากสถาบันบรรพชีวินวิทยา Miquel Crusafont Catalan จะเฝ้าสังเกตเศษของแข็งในดินหลวมๆเหล่านี้ และหยุดการขุดชั่วคราวเป็นประจำเพื่อเก็บเศษกระดูก ซึ่งบางครั้งอาจเป็นโครงกระดูกขนาดใหญ่ที่อยู่ในกองขยะเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม การขุดซึ่งเป็นส่วนที่จำเป็นในการจัดเก็บขยะ ก็ทำให้นักวิจัยสามารถเก็บตัวอย่างฟอสซิลเก่าแก่ในอดีตได้ จนถึงขณะนี้ มีการค้นพบฟอสซิลมากกว่า 70,000 ตัวอย่าง ซึ่งรวมถึงตัวอย่างบางส่วนหรือตัวอย่างที่สมบูรณ์ที่สุดของไพรเมตยุคแรกๆ ต่างๆ
แม้ว่าจะค่อนข้างน่ากลัวหากจะนึกถึงว่ามีจำนวนฟอสซิลมากมายอาจถูกทำลายในการขุดอย่างรวดเร็วในที่ทิ้งขยะแห่งนี้ แต่อีกสิ่งที่น่ากลัวกว่าเล็กน้อยสำหรับนักวิจัย คือความรู้ความเข้าใจที่เจ้าของสถานที่พยายามให้ที่ทิ้งขยะปิดตัวลง เพื่อยุติความสามารถในการกู้คืนฟอสซิล
Abocador de Can Mata เป็นหนึ่งในพื้นที่ฝังกลบขยะที่ใหญ่ที่สุดของสเปน
นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ทีมงานนักบรรพชีวินวิทยาจากสถาบันบรรพชีวินวิทยา Miquel Crusafont Catalan ในบาร์เซโลนา
ค้นพบฟอสซิลกว่า 70,000 ชิ้น ภาพถ่ายโดย PAOLO VERZONE, NATIONAL GEOGRAPHIC
ที่ตั้งกองขยะซึ่งอยู่ใกล้บาร์เซโลนานี้เป็น พื้นที่ที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากกลิ่นของขยะที่มีกลิ่นเหม็น ชาวบ้านจึงเริ่มประท้วงและไม่อยากให้ใช้ที่นี่อีก และหากที่ทิ้งขยะไม่ถูกใช้งานแล้ว มันจะถูกปิดเพื่อความปลอดภัย นั่นจะทำให้นักบรรพชีวินวิทยาจะไม่สามารถเข้ามาขุดได้เพียงพอแม้จะมีงบประมาณสำหรับการขุดก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้การผลิตขยะของมนุษยชาตินั้นกว้างใหญ่และทำลายสิ่งแวดล้อม และก็ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้กองขยะ แต่วิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นพบและดำเนินการอยู่นั้นน่าทึ่งมาก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว ความลำบากที่ผู้คนนึกถึงมักจะมาจากว่าจะมีเงินทุนเพิ่มเติมในการขุดเพื่อสร้างบ้าน ถนน และที่ทิ้งขยะหรือไม่ มากกว่าการขุดค้นเพื่อวิทยาศาสตร์
Can Mata นั้นเริ่มเป็นแผนที่ฟอสซิลในช่วงต้นทศวรรษ 1940 เมื่อ Miquel Crusafont ผู้ตั้งสถาบัน ICP ค้นพบขากรรไกรบางส่วนและฟันของลิงใหญ่ Miocene ที่ไซต์ การค้นพบครั้งต่อมาช่วยสร้าง Can Mata ให้เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ได้รับการจัดทำให้มีสถานภาพ และทำการขุดค้นต่อเนื่องตั้งแต่นั้นมา
จนในเดือนธันวาคม 2019 Josep Robles หนึ่งในทีมนักบรรพชีวินวิทยาที่หมุนเวียนกัน และใช้เวลาหลายคืนต่อสัปดาห์ที่นี่ เพื่อจับตาดูสิ่งสกปรกจำนวนมากที่รถขุดเจาะทำงานอยู่ การขุดเจาะทำทุกวันทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างหลุมเก็บขยะอีกแห่งจากบาร์เซโลนาและบริเวณโดยรอบ
หากเป็นเวลากลางคืน เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นวัตถุที่แตกต่างซ่อนอยู่ เขาจะโบกมือให้พนักงานขุดค้นเพื่อหยุดชั่วคราวเพื่อตรวจสอบวัตถุนั้นให้ละเอียดยิ่งขึ้น ถ้ามันดูเหมือนสิ่งที่ค้นหา เขาก็คลุมมันด้วยฟอยล์สีเงินสะท้อนแสงเพื่อบอกตำแหน่งการขุด จากนั้นเขาก็กลับออกไปและจะมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น
ชนิดพันธุ์ที่ได้รับการค้นพบนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Pierolapithecus catalaunicus หรือ Pau มีชีวิตอยู่เมื่อ 12 ล้านปีที่แล้ว
ถือเป็นชิ้นส่วนกระโหลกสัตว์ไพรเมทจากยุคไมโอซีนที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา
โดยฟอสซิลนี้ได้เปลี่ยน Can Mata จากพื้นที่ทิ้งขยะให้กลายเป็นดังขุมทอง Cr.ภาพ flickr.com/
ซากดึกดำบรรพ์มากมายในดินทรายของ Abocador de Can Mata ที่ครอบคลุมอยู่กว่าล้านปีครึ่ง อยู่ในยุค Miocene ตั้งแต่ประมาณ 12.5 ล้านถึง 11 ล้านปีก่อน โดยตั้งแต่ปี 2002 นักบรรพชีวินวิทยาคนอื่นๆ รวมถึง Robles จากสถาบันบรรพชีวินวิทยา Miquel Crusafont Catalán (ICP) ซึ่งตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยอิสระแห่งบาร์เซโลนาซึ่งผลัดกันเข้ามาค้นหา ได้ค้นพบฟอสซิลมากกว่า 70,000 ตัวในช่วงเวลานี้
รวมถึงม้า แรด กวาง ญาติช้างที่เรียกว่า proboscideans ญาติแรกของแพนด้ายักษ์และกระรอกบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีซากโบราณมากมายจากสัตว์ฟันแทะ นก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศแบบเขตกึ่งร้อนกึ่งเขตร้อนของภูมิภาคนั้นแห้งแล้งมากขึ้น
และการสร้างวิวัฒนาการด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นใหม่ อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคนี้ในปัจจุบัน
การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือ ฟอสซิลของสายพันธุ์ไพรเมตซึ่งไม่มีที่ไหนเลย เหล่านี้เป็นบรรพบุรุษ hominoids บรรพบุรุษของลิงน้อย เช่น ชะนีและลิงสยาม (gibbons and siamangs) และลิงใหญ่ รวมทั้งอุรังอุตัง กอริลล่า ชิมแปนซี และเรา โดยในช่วงยุคกลาง มี hominoids หลายสิบชนิดที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา แต่เมื่อ 12.5 ล้านปีก่อน พวกมันก็ปรากฏตัวขึ้นในเอเชียและยุโรปด้วย
แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงในการค้นพบฟอสซิลจากสัตว์หลากหลายชนิดอันน่าสนใจบนพื้นที่แห่งนี้ แต่ฟอสซิลแต่ละชิ้นและกระดูกของไพรเมตที่พบใน Can Mata อาจช่วยเติมเต็มภาพช่วงเวลาในอดีตของเราที่ยังคงลึกลับในหลาย ๆ ด้าน ทั้งนี้ การขยายพื้นที่ฝังกลบได้หยุดลงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 แต่บริษัทจัดการขยะตั้งใจที่จะดำเนินการขุดต่อในฤดูใบไม้ผลิปี 2021 ซึ่งนักบรรพชีวินวิทยาจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงไซต์ได้เมื่อหลุมฝังกลบเปิดเท่านั้น
การสร้างโครงกระดูกใหม่ของฟอสซิลกระรอกบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
สายพันธุ์ Miopetaurista neogrivensis ซึ่งเป็นการค้นพบที่พิเศษที่ Abocador de Can Mata ในบาร์เซโลนา แคว้นคาตาโลเนีย ประเทศสเปน
สิบกว่าปีของงานภาคสนามบรรพชีวินวิทยาในไซต์ฝังกลบ Can Mata เป็นไซต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสเปน
เหมืองทองคำฟอสซิลในกองขยะนี้ได้ให้ผลผลิตมากกว่า 85 สายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ก่อนประวัติศาสตร์
โดย JENNIFER PINKOWSKI
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
ฟอสซิลสุดมหัศจรรย์ถูกค้นพบในกองขยะ
อย่างไรก็ตาม แม้การผลิตขยะของมนุษยชาตินั้นกว้างใหญ่และทำลายสิ่งแวดล้อม และก็ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้กองขยะ แต่วิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นพบและดำเนินการอยู่นั้นน่าทึ่งมาก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว ความลำบากที่ผู้คนนึกถึงมักจะมาจากว่าจะมีเงินทุนเพิ่มเติมในการขุดเพื่อสร้างบ้าน ถนน และที่ทิ้งขยะหรือไม่ มากกว่าการขุดค้นเพื่อวิทยาศาสตร์
Can Mata นั้นเริ่มเป็นแผนที่ฟอสซิลในช่วงต้นทศวรรษ 1940 เมื่อ Miquel Crusafont ผู้ตั้งสถาบัน ICP ค้นพบขากรรไกรบางส่วนและฟันของลิงใหญ่ Miocene ที่ไซต์ การค้นพบครั้งต่อมาช่วยสร้าง Can Mata ให้เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ได้รับการจัดทำให้มีสถานภาพ และทำการขุดค้นต่อเนื่องตั้งแต่นั้นมา
จนในเดือนธันวาคม 2019 Josep Robles หนึ่งในทีมนักบรรพชีวินวิทยาที่หมุนเวียนกัน และใช้เวลาหลายคืนต่อสัปดาห์ที่นี่ เพื่อจับตาดูสิ่งสกปรกจำนวนมากที่รถขุดเจาะทำงานอยู่ การขุดเจาะทำทุกวันทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างหลุมเก็บขยะอีกแห่งจากบาร์เซโลนาและบริเวณโดยรอบ
หากเป็นเวลากลางคืน เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นวัตถุที่แตกต่างซ่อนอยู่ เขาจะโบกมือให้พนักงานขุดค้นเพื่อหยุดชั่วคราวเพื่อตรวจสอบวัตถุนั้นให้ละเอียดยิ่งขึ้น ถ้ามันดูเหมือนสิ่งที่ค้นหา เขาก็คลุมมันด้วยฟอยล์สีเงินสะท้อนแสงเพื่อบอกตำแหน่งการขุด จากนั้นเขาก็กลับออกไปและจะมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น
รวมถึงม้า แรด กวาง ญาติช้างที่เรียกว่า proboscideans ญาติแรกของแพนด้ายักษ์และกระรอกบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีซากโบราณมากมายจากสัตว์ฟันแทะ นก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศแบบเขตกึ่งร้อนกึ่งเขตร้อนของภูมิภาคนั้นแห้งแล้งมากขึ้น
และการสร้างวิวัฒนาการด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นใหม่ อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคนี้ในปัจจุบัน
การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือ ฟอสซิลของสายพันธุ์ไพรเมตซึ่งไม่มีที่ไหนเลย เหล่านี้เป็นบรรพบุรุษ hominoids บรรพบุรุษของลิงน้อย เช่น ชะนีและลิงสยาม (gibbons and siamangs) และลิงใหญ่ รวมทั้งอุรังอุตัง กอริลล่า ชิมแปนซี และเรา โดยในช่วงยุคกลาง มี hominoids หลายสิบชนิดที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา แต่เมื่อ 12.5 ล้านปีก่อน พวกมันก็ปรากฏตัวขึ้นในเอเชียและยุโรปด้วย
แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงในการค้นพบฟอสซิลจากสัตว์หลากหลายชนิดอันน่าสนใจบนพื้นที่แห่งนี้ แต่ฟอสซิลแต่ละชิ้นและกระดูกของไพรเมตที่พบใน Can Mata อาจช่วยเติมเต็มภาพช่วงเวลาในอดีตของเราที่ยังคงลึกลับในหลาย ๆ ด้าน ทั้งนี้ การขยายพื้นที่ฝังกลบได้หยุดลงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 แต่บริษัทจัดการขยะตั้งใจที่จะดำเนินการขุดต่อในฤดูใบไม้ผลิปี 2021 ซึ่งนักบรรพชีวินวิทยาจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงไซต์ได้เมื่อหลุมฝังกลบเปิดเท่านั้น