คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ไม่แน่ใจ แต่เริ่มมีตรรกะแบบ..
ได้วัคซีนแล้วออกเที่ยวได้ ไม่ต้องใส่หน้ากากด้วย
ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ผิด
ต่อให้ฉีดไฟเซอร์ 2เข็ม ก็มีโอกาสติดได้
แต่จะไม่ค่อยมีอาการ และหายเองได้เร็วเท่านั้น
คนที่รับวัคซีนไปแล้วมีแนวคิดผิดๆ
จะกลายเป็น super spreader แบบติดเชื้อไม่มีอาการ
และแน่นอนครับ เจ้าตัวจะไม่ค่อยเป็นอะไร
แต่จะมีคนที่ยังไม่ได้วัคซีนตายเพราะเขาเป็นเบือเลย
ได้วัคซีนแล้วออกเที่ยวได้ ไม่ต้องใส่หน้ากากด้วย
ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ผิด
ต่อให้ฉีดไฟเซอร์ 2เข็ม ก็มีโอกาสติดได้
แต่จะไม่ค่อยมีอาการ และหายเองได้เร็วเท่านั้น
คนที่รับวัคซีนไปแล้วมีแนวคิดผิดๆ
จะกลายเป็น super spreader แบบติดเชื้อไม่มีอาการ
และแน่นอนครับ เจ้าตัวจะไม่ค่อยเป็นอะไร
แต่จะมีคนที่ยังไม่ได้วัคซีนตายเพราะเขาเป็นเบือเลย
แสดงความคิดเห็น
จริงๆคนไทยตอนนี้คือ "ตั้งใจละหลวม" มาตรการกักตัวกันแล้วใช่ไหมครับ
เพราะถ้ายอดขึ้นเยอะมากๆ สิ่งที่ควรจะเป็นคือ คนจะต้องกลัวกันมากๆ ไม่ไปไหนกันโดยไม่จำเป็น เหมือนสมัยล็อคดาว์นแรกๆ (ตอนยอดยังแค่หลักร้อย)
แต่ภาพที่เห็นคือ....
เพื่อนสนิท จะมีสองกลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือเที่ยวทิพย์ ลงภาพในเฟสบุค ไอจี แบบย้อนหลัง กลุ่มนี้ไม่ค่อยไปไหนมาไหนสักเท่าไหร่ จะกินอะไรก็สั่งเดลิเวอรี่ หรือทำกินเอง
แต่อีกกลุ่มหนึ่งคือ เพื่อนชนชั้นกลาง ไปเที่ยวคาเฟ่ ไปกินข้าวข้างนอกแบบนั่งทานในร้าน (วันนี้วันสุดท้ายที่ยังทานได้) ไปเที่ยวนอกสถานที่ตามต่างจังหวัดกันจริงจัง บางคนก็โพสต์รูปว่าไปนั่งกินแอลกอฮอลล์บนร้านนั่งดื่มสักที่
ซึ่งการออกไปทานอาหารข้างนอก คือการออกไปรับเชื้อเต็มที่ เพราะตอนทานอาหารเราไม่สามารถสวมแมสก์ได้
ส่วนคนที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ก็มีทั้งชุมนุมกินเหล้าริมชายหาด ตามที่สาธารณะ หรือไปสังสรรค์ที่คอนโดเพื่อนเป็นหมู่คณะ บ้างก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด ออกทริปจริงจัง
ซึ่งพฤติกรรมการออกไปข้าง มันก็คือการไม่ปฎิบัติตามกฎของการหลีกเลี่ยงการรับเชื้อ ซึ่งรัฐพยายามรณรงค์โดยตลอดมา
ผมก็เลยสงสัยว่า มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราชี้นิ้วไปที่คนอื่นว่าทำให้การระบาดมันเพิ่มขึ้น แต่ตัวเองก็ทำพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงและเป็นส่วนนึงของการทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นทั่วประเทศเหมือนกัน