ถ้าช่วยผ่อนก็ต้องใส่ชื่อคุณเข้าไปค่ะ
ไม่ได้อะไรนะคะ จะเปย์ไม่ผิด แต่ดูกำลังตัวเองด้วยค่ะ
ฐานะไม่ได้เหลือๆทั้งคู่ ช่วยกันผ่อน ก็ควรมีสิทธิ์ทั้งคู่
เลิกไปตัวเปล่านะคะ

ขอยกตัวอย่างเคสเพื่อนเราคนนึง
ฐานะพอกัน ให้ผชมาอยู่ด้วยแบบคุณ
เขาใช้คำนี้นะคะ ‘คิดราคาฟีลแฟน’
12,000 เท่าคุณเป๊ะ คิดผช 4,000(รวมน้ำไฟ)
เพราะว่าคอนโด สุดท้ายผญก็ได้เป็นเจ้าของ -> ผญได้คนช่วยผ่อน
ผช ได้อยู่ห้องในราคาประหยัด -> ผชได้ประหยัด

รักกันจริงก็ต้องช่วยๆกัน
ในอนาคตฝ่ายชายอาจจะอยากเก็บเงินผ่อนบ้านเช่นกัน
ซึ่งมันก็ต้องเป็นบ้านให้ฝ่ายหญิงอยู่ร่วมด้วย
หรือก็คือ คอนโดผญออกมากกว่า บ้านผชออกมากกว่า

ส่วนคู่เรา ทางบ้านเราซื้อคอนโดให้ เราให้แฟนอยู่ฟรี
ส่วนแฟนเตรียมสร้างบ้านให้ครอบครัว เราก็ไปอยู่ฟรีค่ะ

เราว่าแฟนคุณก็น่าเกลียดเกิน
ใช้วิธีบังคับเลิก หาย บล็อก
เหมือนกดดันให้คุณง้อด้วยคำว่า ‘โอเค อย่าเลิกเลย ช่วยผ่อนก็ได้’
ถ้าไม่ได้มีเงินถุงถัง มีสตินะคะ ให้เท่าที่ให้ได้
ให้ กับ รับ ให้สมดุลกัน ไม่งั้นชีวิตคู่พังค่ะ

* คนที่บอกไม่แปลก งั้นให้ฝ่ายชายผ่อนชื่อตัวเอง
ให้ฝ่ายหญิงมาอยู่ด้วยแทน ให้จ่ายแบบนี้
แล้วบอกว่า ถ้าไม่อยู่กับผม คุณก็ต้องเสียเงินเช่าเองอยู่แล้ว
แบบนี้เหมือนกัน คุณจะยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม

ในความคิดเรา คุณลองไปหาที่พัก ที่รายละเอียดใกล้เคียงกับคอนโดแฟนดูค่ะ ว่าถ้าเช่าเท่าไหร่ หรือดูในที่แฟนคุณอยู่ว่าห้องอื่นเค้าปล่อยเช่ากันเท่าไหร่
   ยังไงคุณก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ คุณเช่าอยู่คุณก็ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ
   คุณช่วยแฟนจ่าย ก็จ่ายให้แฟนตัวเอง ความสัมพันธ์ระหว่างกันก็ไม่มีปัญหา
  ส่วนจ่ายแค่ไหน ก็ลองไปดูค่าเช่าที่แนะนำไปข้างต้นค่ะ บางทีที่ช่วยแฟน อาจจะน้อยกว่าก็ได้
   แต่เรื่องแบบนี้ ถ้าถึงพ่อแม่ต้องช่วยคิด เป็นเรา เราคงเซ็งค่ะ เหมือนมีแฟนยังไม่โต และอนาคตเรื่องนี้จะสร้างความร้าวฉานระหว่างแฟนกับแม่ ซึ่งเรื่องความรักถ้ามีคนในครอบครัวแคลงใจกัน ปัญหาจะแก้ยากกว่ามีปัญหากับคนรักกันเอง

รีบเลิกด่วนครับ ไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันด้วย ถ้าช่วยส่งคอนโดจนหมด ชื่อก็ยังเป็นของเธอ คุณเหลือแต่ กกน.ตัวเดียว เธอถีบหัวส่งคุณออกไปแล้วหาผัวใหม่ คุณจบเห่เลยนะ (คุณกับเธอไม่ใช่ผู้เช่าและผู้ให้เช่า ถ้าไม่มีสัญญาการเช่า คุณจะคิดไปเองว่าเป็นการเช่าไม่ได้) ถ้าคุณทำสัญญาการเช่าคุณต้องได้สิทธิ์คนเดียวในห้อง ส่วนเจ้าของคอนโดต้องออกไปอยู่ที่อื่น จะเช่าในราคาเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ ถ้าตีว่าเป็นการเช่า จขกท.ต้องได้สิทธิ์คนเดียว และเงินส่วนต่างเธอต้องไปหามาจ่ายค่าคอนโดเอา ถือว่าเงินค่าเช่าที่คุณจ่ายไปช่วยลดภาระให้เธอ แต่เธอไม่มีสิทธิ์มาอยู่ในคอนโดกับคุณ พอทำสัญญาเช่ากันแล้ว คุณจะอนุญาตให้เธอมาอยู่ด้วยก็แล้วแต่คุณ ถ้าจะเอาจริงๆมันก็ต้องทำแบบนี้ให้มีสัญญาการเช่าไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

มันไม่ใช่ปัญหาโลกแตกอะไรเลย อยู่ที่ว่าความรักจะทำให้คุณตาบอดได้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง ถึงจะเป็นคนรักก็หักหลังกันได้ เรื่องแบบนี้จะมาคิดทำเล่นๆไม่ได้ คุณควรเซฟตัวเองและรัดกุมในทุกขั้นตอนไว้ก่อนครับ

เลิกกันเพราะเรื่องแบบนี้ก็ไม่แปลกครับ ความจริงคุณไม่ควรคิดจะไปอยู่กับแฟนตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่ควรหาห้องอยู่เองก่อน ถ้าเธอเสนอมาค่อยคุยกันว่าจะช่วยเท่าไหร่ ไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าอีก เธอถามเรื่องเงินกับคุณก็ไม่แปลกอะไร แต่เธอถามเพราะไหนๆจะเข้ามาแล้วก็มาอยู่ด้วยกันซะเลยแล้วเอาเงินค่าหอที่ต้องจ่ายนั้นมาช่วยเธอจ่ายแทน แต่คุณกลับไปถามเค้าว่าคุณจะได้สิทธิ์อะไรในห้องด้วยรึเปล่าแบบนี้มันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณอยากได้ห้องของเค้าครับ และมองในมุมของผลประโยชน์มากกว่าความหวังดีของเค้าหนะสิ ถ้าผมเป็นคนรู้จักของฝ่ายหญิงผมก็ไม่สนับสนุนให้กลับมาคบกันต่อครับ

ปล. ลองหาราคาห้องเช่าตึกเดียวกับที่แฟนคุณอยู่ดูก็ได้ครับว่าเค้าปล่อยกันเดือนละเท่าไหร่จะได้รู้ว่าที่แฟนคุณเสนอตัวให้คุณมาอยู่ด้วยกันมันคุ้มหรือไม่คุ้มกันแน่