พ่อป่วยเป็นมะเร็งหลอดอาหาร ระยะลุกลามไปยังอวัยวะอื่น

ขอแชร์ประสบการณ์พ่อป่วยเป็นมะเร็งหลอดอาหาร เริ่มต้น เมื่อ เดือน ต.ค.62  พ่อมีอาการกลืนอาหารแล้วติดคอ ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด หมอแจ้งว่า เป็นอาการของผู้สูงอายุให้ทำการเคี้ยวอาหารให้ละเอียด หลังจากนั้น ผ่านมา 1 เดือน พ.ย.62 ภาวะการกลืนก็เริ่มไม่ดีขึ้น จนที่ว่าน้ำเปล่ายังกลืนไม่ค่อยลง จึงนำพ่อมาหาหมอที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร หมอได้ส่งไปสแกนคอดู เพื่อ หาสาเหตุที่แท้จริง จึงพบว่า มีก้อนมะเร็งโตในหลอดอาหารก้อนประมาณ 5 เซนติเมตร  หมอได้ส่งไปยังแผนกฉายแสง เพื่อกำหนดวันฉายแสง ทำอุปกรณ์ฉายแสง ซึ่งค่าฉายแสงค่อนข้างสูงมาก บวกกับทางบ้านไม่ค่อยมีฐานะ ซึ่งต้องหาเงินมาเพื่อสำรองจ่ายใช้สิทธิเบิกที่ทำงาน ซึ่งก็มีค่าส่วนต่างที่เราต้องรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอาเอง หลังจากผ่านการฉายแสง มาได้ 1 อาทิตย์ ภาวะการกลืนเริ่มไม่ดีขึ้น เริ่มทานน้ำเปล่าไม่ได้แล้ว หมอได้ลองใส่สายยางทางจมูกพ่อเพื่อจะให้พ่อได้รับอาหาร แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะก้อนมะเร็งขวางทาง ไม่สามารถใส่สายลงไป  จึงนัดวันผ่าตัดหน้าท้องให้อาหารทางสายยางผ่านหน้าท้องแทน อาหารที่ให้จะเป็นนมผู้ป่วย พ่อมีแรงมากขึ้นในการให้อาหารทางหน้าท้อง แต่ก็ไม่มีความสุขเท่าการลิ้มรับทางปาก ตอนนั้นทานน้ำไม่ได้เลย ทำได้แค่อมน้ำและบ้วนทิ้ง 
        หลังจากผ่าตัดเพื่อให้อาหารทางหน้าท้อง หมอก็ให้ฉายแสงสลับคีโม อาการพ่อ ก็เหมือนจะค่อยๆ ดีขึ้น เริ่มกลับมาทานอาหารเองได้ เป็นอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม ปลาต้ม พ่อมีความสุขมากในการกินอาหาร หมอจึงได้เอาสายยางหน้าท้องออก  ผลจากการฉายแสง และคีโม ดีขึ้น ตรวจหาเชื้อมะเร็ง ไม่พบเชื้อแล้ว พ่อดีใจมากที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านต่างจังหวัดแล้ว หมอให้พ่อมาทำการถ่างหลอดลม เพื่อใส่ท่อโลหะ เพื่อให้พ่อทานอาหารได้มากขึ้นกว่าเดิม พ่อก็มาทำตามนัด เสร็จแล้วจึงกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านต่างจังหวัดช่วง เดือน ต.ค.-ธ.ค. 63 
        โชคไม่ค่อยดีนัก ต้นปี 64 หมอคีโมตรวจพบ ปอดพ่อเป็นสายฝนสีขาว จึงได้นัดพ่อให้ไปทำ CT SCAN ช่วงเดือน มี.ค. ที่นัดนาน เพราะเป็นช่วงโควิดระบาด ผลออกมา ต้นเดือนเมษายน หมอแจ้งว่า มะเร็งได้ลุกลามไปที่ปอดเป็นก้อนเล็กทั่วปอดสองข้าง  เพราะจุดที่พ่อเป็นมะเร็งตอนแรกคือหลอดอาหาร ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณหลอดลม วันนั้นเราแทบทรุด หลังจากที่ฟังผลของหมอ เราไปร้องไห้ไม่ให้พ่อเห็น แต่พ่อเข้มแข็งมาก พ่อไม่พูดใดๆ หมอได้บอกว่า จุดที่พ่อเป็นไม่สามารถฉายแสงได้ ทำได้แค่การให้คีโมเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น รอบนี้พ่อจะไม่หายขาดแล้ว แต่โชคไม่ค่อยดี พ่อมีอาการปอดรั่วข้างซ้าย หมอให้พ่อเจาะปอดเพื่อระบายน้ำออกจากปอด ก่อนการให้คีโมครั้งแรก พอทำการเจาะปอดแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย พ่อ ไอ ทุกวัน ไอ จน พ่อไม่มีเวลานอน 
1 อาทิตย์หลังจากเจาะปอด หมอได้นัดให้คีโมรอบแรก สามวันแรก พ่อไม่มีแรงเลย รอบนี้พ่อโทรบอกญาติพี่น้องว่า  คงไม่ได้กลับไปแล้วนะ ครั้งนี้ไม่ไหวเลย ญาติก็บอกให้พ่อสู้ ถ้าไม่สู้พ่อจะแย่นะ อาการพ่อก็แย่ลงๆ หลังจากให้คีโม 1 อาทิตย์ มีผลข้างเคียงจากการให้คีโม คือเป็นไข้ และมีผื่นขึ้น รวมทั้งปอดรั่วทั้งสองข้าง หมอทำการเจาะปอดทั้งสองข้างเพื่อระบายน้ำ พ่อทนอาการเจ็บปวดไม่ไหว และพ่อก็จากไปอย่างสงบ เราจึงพาพ่อกลับบ้านตามความประสงค์ของพ่อที่อยากให้พากลับบ้าน 

          มันค่อนข้างเจ็บปวดมากกับการสูญเสีย แต่ก็เชื่อว่าสักวันเราจะผ่านจุดที่เจ็บปวดที่สุดไปได้ ตลอด 1 ปี 10 เดือนที่ผ่านมา เราไม่เคยเสียใจเลย เราทำเต็มที่มากเพื่อพ่อ ในการพาไปโรงพยาบาล ดูแลตอนเจ็บป่วย หาของดีๆให้ทาน ภาพของพ่อในทุกๆวันจะมีเราอยู่ในนั้นเสมอ วันนี้พ่อจากไปแล้ว ก็ยังคิดถึงทุกวัน ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าท่านไปไหน แต่เราก็ยังเชื่อว่า ท่านไปสบายและไม่ต้องเจ็บปวดแล้ว  
         สาเหตุส่วนนึงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง มาจากการสูบบุหรี่และดื่มแอลกฮออล์ แต่เราก็ไม่โทษท่านเพราะอดีตมันผ่านมาแล้ว เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือการยอมรับกับปัญหา และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด 
          เป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่าน ที่กำลังเผชิญกับโรคนี้ กำลังใจสำคัญที่สุด ดูแลคนที่อยู่ข้างๆ เราในตอนนี้ให้ดีที่สุด ได้ไม่เสียใจทีหลัง เวลามีค่า ใช้ชีวิตให้มีความสุขค่ะ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่