.
“สเต็มเซลล์” ของขวัญล้ำค่าจากคุณแม่สู่ลูก
“สเต็มเซลล์” คืออะไร?
ในยุคปัจจุบันสังคมตื่นตัวกันเพิ่มขึ้นกับความก้าวหน้าของวิทยาการการแพทย์ ที่ทำให้ “สเต็มเซลล์” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
“สเต็มเซลล์” คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถแบ่งตัวและเปลี่ยนไปเป็นเซลล์อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ จึงเป็นที่มาของการวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะเสียหายหรือเสื่อมสภาพไปจากวัยที่เพิ่มขึ้น
การวิจัยและความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันทำให้ค้นพบว่า สเต็มเซลล์สามารถรักษาโรคหลายกลุ่มได้มากกว่า 85 โรค รวมถึงการช่วยฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายทั้งต่อตนเองและทุกคนในครอบครัวเมื่ออายุมากขึ้นได้
*เพราะโอกาสสำคัญมีเพียงครั้งเดียว
เมื่อเร็วๆ นี้คุณเลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม เจ้าของ “เพจคุณแม่เลอค่า” ได้ร่วมพูดคุยกับ คุณกมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัทไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด ไขข้อข้องใจให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์และครอบครัวที่สนใจเกี่ยวกับการเก็บสเต็มเซลล์ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณแม่ตัดสินใจและเตรียมพร้อมมอบของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยและครอบครัว
คุณกมลรัตน์ เปิดเผยว่า “สเต็มเซลล์” สามารถเก็บได้จากหลายแหล่ง โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ถือเป็นโอกาสทองสำหรับคุณแม่ ที่จะได้เก็บสเต็มเซลล์ ทั้งจากเลือดจากสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือและเนื้อเยื่อหุ้มรก รวมทั้งจากไขมันร่างกายของคุณแม่ สำหรับใช้รักษาฟื้นฟูสุขภาพให้กับตัวเอง ลูกน้อยและสมาชิกในครอบครัวในอนาคต ซึ่งมีโรคที่ไม่สามารถพึ่งยาในการรักษาเพิ่มขึ้นในสังคม
*สเต็มเซลล์แหล่งใดเหมาะกับใคร-ใช้บำบัดฟื้นฟูโรคอะไร?
1. สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ (Cord Blood) (HSCs)
- มีประโยชน์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเลือดและอื่นๆ ได้มากกว่า 85 โรค แบ่งเป็น กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด, กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญอาหารและโรคจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือด เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคโลหิตจางและโรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น
- เป็นสเต็มเซลล์ที่ต้องเก็บทันทีหลังคลอดโดยสูติแพทย์
- ผู้ที่สามารถใช้ประโยชน์จากสเต็มเซลล์ชนิดนี้ได้คือ ลูก (กรณีไม่ใช่โรคพันธุกรรม) ,และพี่น้องร่วมสายเลือด(ที่มีสเต็มเซลล์เข้ากันได้)
- มีตัวอย่าง "ครอบครัวศุกร์วิไล” ในโครงการน้องช่วยพี่ (Help Best) ได้ใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือของน้องรักษาพี่ชายที่ป่วยเป็นธาลัสซีเมียมานานกว่า 5 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ยารักษาไม่ได้ ต้องรับการถ่ายเลือดอยู่เป็นประจำ
จนเวลานี้น้องเบสได้ชีวิตใหม่สามารถใช้เหมือนเด็กปกติทั่วไป น้องไม่ต้องไปคอยให้เลือดอีกแล้ว หลังจากธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ทำให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้น เปราะ แตก ถูกทำลายง่ายให้ ทำให้น้องต้องทุกข์ทรมานจากการต้องไปให้เลือดทุกเดือน เพื่อลดอาการซีดและเหนื่อย
2. สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ (Cord Tissue)(MSCs)
- สามารถทำการเก็บ คัดแยก เพาะเลี้ยง และแช่แข็งไว้หลังคลอดเช่นกัน สามารถแบ่งตัวทดแทนเซลล์ต่างๆ ที่เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูอวัยวะในร่างกายให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น
- สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว เพื่อใช้รักษากลุ่มโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคอัลไซเมอร์, โรคเบาหวาน, โรคภูมิแพ้ตัวเอง, โรคกระดูกและข้อ, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, โรคเสื่อมสมรรถภาพและเสริมความงามลดเรือนริ้วรอย เป็นต้น
- ตัวอย่างครอบครัวที่ได้เล็งเห็นประโยชน์จากสเต็มเซลล์ชนิดนี้ ได้แก่ ครอบครัวของคุณ ลิเดีย-ศรัณรัชต์ ดีน นักร้องนักแสดงชื่อดัง ที่สนใจเก็บสเต็มเซลล์ของลูกน้อยทั้ง 2 คน ไว้เพื่อจะได้ใช้ฟื้นฟูข้อเข่าให้กับคุณพ่อของเธอ หรือคุณตาน้องดีแลนท์ให้มีอาการดีขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัด
3. สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรก (Amniotic Membrane)(MSCs)
- เป็นอีกสเต็มเซลล์ที่สามารถเก็บได้หลังการคลอดบุตรของคุณแม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมให้แก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง โรคอัลไซเมอร์ และ ภาวะเส้นเลือดในสมองแตก เป็นต้น
4. สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose MSCs)
- นวัตกรรมสเต็มเซลล์ใหม่ที่เป็นโอกาสอันดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่จะได้มีสเต็มเซลล์เป็นของตัวเองเก็บจากไขมันบริเวณหน้าท้องหลังการคลอด เอาไว้ใช้สำหรับฟื้นฟูสุขภาพและความงามหลังคลอด รวมถึงใช้รักษากลุ่มโรคจากความเสื่อมต่างๆ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ตัวเอง, โรคกระดูกและข้อ, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, โรคเสื่อมของระบบสืบพันธุ์และใช้เสริมความงามลดเรือนริ้วรอย
*จะเลือกใช้บริการที่ไหนดี? ปัจจัยอะไรในการเลือกธนาคารจัดเก็บ?
คุณกมลรัตน์ แนะหลักในการเลือกใช้หน่วยงานบริการเก็บรักษาสเต็มเซลล์ว่า
1. ต้องดูเรื่องความมั่นคงของธนาคารสเต็มเซลล์เป็นเรื่องสำคัญมาก : ต้องดูว่า อยู่มานานแล้วหรือไม่รวมถึงระบบ Backup ต่างๆ ซึ่งไครโอวิวา นั้น ดำเนินงานด้านนี้มากกว่า 14 ปี โดยไม่เคยต้องย้ายที่ตั้งห้องปฎิบัติการหรือประสบปัญหาต่างๆ เช่น ช่วงน้ำท่วม, การจลาจลหรือโรคติดต่อ จัดว่าเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงสูง
2. ต้องดูเรื่องความพร้อมในการรองรับระยะยาว เมื่อต้องการสเต็มเซลล์ไปใช้ : ต้องเลือกบริษัทที่มีความพร้อม เช่น กรณีเกิดปัญหาในประเทศและธนาคารสเต็มเซลล์ต้องปิดตัว จะสามารถนำสเต็มเซลล์มาใช้ได้อย่างไร
สำหรับไครโอวิวา
ไม่มีอุปสรรคในเรื่องนี้เนื่องจากมีเครือข่ายธนาคารสเต็มเซลล์ที่มีมาตรฐานเดียวกันอยู่ในประเทศสิงคโปร์และที่อื่นๆ เป็นหน่วยงานสนับสนุน
รวมทั้งมีเครือข่ายที่ให้บริการอยู่ทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง และทวีปอื่นๆ
3. ตรวจสอบระบบคุณภาพของธนาคารสเต็มเซลล์แต่ละแห่ง :
- การใช้สเต็มเซลล์ต้องมองหาธนาคารที่มีมาตรฐานเฉพาะด้านตรงกับที่ต้องการนำไปใช้
- สำหรับไครโอวิวาเป็นธนาคารสเต็มเซลล์ในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสมาคมธนาคารเลือดสหรัฐอเมริกา AABB ทั้งสาขาการจัดเก็บสเต็มเซลล์และการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ นั่นคือมาตรฐานสำหรับสเต็มเซลล์ที่ใช้รักษาโรคกลุ่มเลือดรวมถึงกลุ่มฟื้นฟูต่างๆ
- นอกจากนี้ไครโอวิวายังยึดมั่นใน "คุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส" ยึดมั่นในการเป็นธนาคารสเต็มเซลล์ของครอบครัวเท่านั้น โดยจะไม่นำสเต็มเซลล์ของลูกค้าไปใช้ในกิจการอื่นๆ ได้รับรางวัลด้านจริยธรรมจากยุโรป ที่มอบให้ว่า เป็นหน่วยงานคุณภาพในเรื่องของจริยธรรม ซึ่งเรื่องนี้จนถึงขณะนี้ ไครโอวิวาฯ เป็นบริษัทเดียวที่มีข้อพิสูจน์
- นอกเหนือจากนี้ไครโอวิวายังขึ้นทะเบียนสถานประกอบการไว้กับองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (US FDA) ซึ่งเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือจากหลายประเทศทั่วโลกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับครอบครัวของไครโอวิวา
- ก่อนหน้านี้ยังร่วมมือจัดตั้งห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัด ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELL เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่า สเต็มเซลล์ที่ใช้จะเป็นสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
*หลายครอบครัวที่ไว้วางใจและให้ความสำคัญในการจัดเก็บสเต็มเซลล์เพื่อลูกน้อยและคนในครอบครัว
ที่ผ่านมามีคุณแม่คนดังหลายคนมอบของขวัญล้ำค่าแก่ลูกน้อย มอบความไว้วางใจไครโอวิวาเก็บสเต็มเซลล์จากคุณแม่หลังคลอด เพื่อความไม่ประมาทกับชีวิตในอนาคต และเป็นเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเองและคนที่รักในครอบครัว
นอกจากคุณลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน แล้วยังมีครอบครัวคุณกรณ์ และคุณศรีริต้า, คุณโอซา แวง, คุณโอ๋-ภัคจีรา วรรณสุทธิ์, คุณเปิ้ล-จริยดี สเปนเซอร์, นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์, ครอบครัวคุณกิก-ดนัย จารุจินดา, ครอบครัวคุณ ชาคริต แย้มนาม, คุณซี ฉัตรปวีณ์ รวมถึงคุณเลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม เจ้าของ “เพจคุณแม่เลอค่า” อีกเช่นกัน
*คุณแม่เก็บสเต็มเซลล์เป็นของตัวเองไว้ ดีกว่าต้องไปรอบริจาค
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะนวัตกรรมสเต็มเซลล์ไมใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะโอกาสที่จะค้นพบสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่เป็นคนนอก ที่จะสามารถเข้ากันได้กับสมาชิกในครอบครัวของเรามีเพียง 1 ใน 50,000 เท่านั้น เมื่อเทียบกับโอกาส 1 ใน 4 ของสเต็มเซลล์ที่ได้จากพี่น้องสายตรงในครอบครัว
*วิทยาการล่าสุด สเต็มเซลล์ก้าวไกล ถูกนำใช้ต่อสู้โรคโควิด-19
- ที่สำคัญเวลานี้วิทยาการ “สเต็มเซลล์” ยังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่ง นอกจากใช้บำบัดฟื้นฟูหลายโรคแล้ว ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดในปัจจุบัน สเต็มเซลล์ยังมีบทบาทในการรักษาฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้อีกด้วย โดยมีรายงานการวิจัยกว่า 45 จาก 597 การทดลองทางคลินิกทั่วโลก ที่มีการรักษาโรคโควิด-19 ด้วยวิธี Cell gene therapy โดยกลไกในการทำงานของ MSCs ที่ช่วยในการรักษาโรคโควิด-19 เช่น สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อปอด ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์เยื่อบุถุงลม ยับยั้งการเกิดพังผืดที่ปอดและรักษาความผิดปกติที่ปอด
- การศึกษาในจีนยังพบว่า การใช้ MSCs ควบคู่กับการรักษามาตรฐาน มีผลการรักษาดีขึ้น คนไข้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น โดยพบว่า MSCs สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อปอด, ป้องกันหารทำลายเซลส์เยื่อบุถุงลม, ยับยั้งการเกิดผังผืดที่ปอดและรักษาความผิดปกติ
เห็นความมหัศจรรย์ของ “สเต็มเซลล์” อย่างนี้แล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ อย่าปล่อยให้โอกาสทองผ่านไป เก็บสเต็มเซลล์ในช่วงเวลาสำคัญนี้ไว้ เพราะเราไม่รู้ว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น...
#ธนาคารสเต็มเซลล์
#สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ
#สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ
# สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน
#ไขข้อข้องใจในการจัดเก็บสเต็มเซลล์ของคุณแม่ตั้งครรภ์
#ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด
กว่า 14 ปีที่ได้รับการไว้วางใจ เชื่อมั่นด้านคุณภาพ และไม่หยุดที่จะพัฒนาของ “โครไอวิวาฯ” ไม่ใช่เพียงแค่คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เก็บสเต็มเซลล์เพื่อบุตรอีกต่อไป แต่เรายังสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ด้วยสเต็มเซลล์ที่จะช่วยดูแลสุขภาพและช่วยชะลอวัย มาร่วมดูแลสุขภาพและอนาคตของท่านและคนที่เรารักไปด้วยกัน สอบถามข้อมลเพิ่มเติมได้ที่ 02 203 6982, 094 449 9445
https://www.facebook.com/cryoviva,
https://www.cryoviva.com/
[Advertorial]
[BR] [สเต็มเซลล์] ไขข้อข้องใจการเก็บ สเต็มเซลล์ ในคุณแม่ตั้งครรภ์
ในยุคปัจจุบันสังคมตื่นตัวกันเพิ่มขึ้นกับความก้าวหน้าของวิทยาการการแพทย์ ที่ทำให้ “สเต็มเซลล์” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
“สเต็มเซลล์” คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถแบ่งตัวและเปลี่ยนไปเป็นเซลล์อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ จึงเป็นที่มาของการวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะเสียหายหรือเสื่อมสภาพไปจากวัยที่เพิ่มขึ้น
การวิจัยและความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันทำให้ค้นพบว่า สเต็มเซลล์สามารถรักษาโรคหลายกลุ่มได้มากกว่า 85 โรค รวมถึงการช่วยฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายทั้งต่อตนเองและทุกคนในครอบครัวเมื่ออายุมากขึ้นได้
เมื่อเร็วๆ นี้คุณเลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม เจ้าของ “เพจคุณแม่เลอค่า” ได้ร่วมพูดคุยกับ คุณกมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัทไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด ไขข้อข้องใจให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์และครอบครัวที่สนใจเกี่ยวกับการเก็บสเต็มเซลล์ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณแม่ตัดสินใจและเตรียมพร้อมมอบของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยและครอบครัว
*สเต็มเซลล์แหล่งใดเหมาะกับใคร-ใช้บำบัดฟื้นฟูโรคอะไร?
- มีประโยชน์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเลือดและอื่นๆ ได้มากกว่า 85 โรค แบ่งเป็น กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด, กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญอาหารและโรคจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือด เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคโลหิตจางและโรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น
- เป็นสเต็มเซลล์ที่ต้องเก็บทันทีหลังคลอดโดยสูติแพทย์
- ผู้ที่สามารถใช้ประโยชน์จากสเต็มเซลล์ชนิดนี้ได้คือ ลูก (กรณีไม่ใช่โรคพันธุกรรม) ,และพี่น้องร่วมสายเลือด(ที่มีสเต็มเซลล์เข้ากันได้)
- มีตัวอย่าง "ครอบครัวศุกร์วิไล” ในโครงการน้องช่วยพี่ (Help Best) ได้ใช้สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือของน้องรักษาพี่ชายที่ป่วยเป็นธาลัสซีเมียมานานกว่า 5 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ยารักษาไม่ได้ ต้องรับการถ่ายเลือดอยู่เป็นประจำ
จนเวลานี้น้องเบสได้ชีวิตใหม่สามารถใช้เหมือนเด็กปกติทั่วไป น้องไม่ต้องไปคอยให้เลือดอีกแล้ว หลังจากธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ทำให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้น เปราะ แตก ถูกทำลายง่ายให้ ทำให้น้องต้องทุกข์ทรมานจากการต้องไปให้เลือดทุกเดือน เพื่อลดอาการซีดและเหนื่อย
2. สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ (Cord Tissue)(MSCs)
- สามารถทำการเก็บ คัดแยก เพาะเลี้ยง และแช่แข็งไว้หลังคลอดเช่นกัน สามารถแบ่งตัวทดแทนเซลล์ต่างๆ ที่เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูอวัยวะในร่างกายให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น
- สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว เพื่อใช้รักษากลุ่มโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคอัลไซเมอร์, โรคเบาหวาน, โรคภูมิแพ้ตัวเอง, โรคกระดูกและข้อ, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, โรคเสื่อมสมรรถภาพและเสริมความงามลดเรือนริ้วรอย เป็นต้น
- ตัวอย่างครอบครัวที่ได้เล็งเห็นประโยชน์จากสเต็มเซลล์ชนิดนี้ ได้แก่ ครอบครัวของคุณ ลิเดีย-ศรัณรัชต์ ดีน นักร้องนักแสดงชื่อดัง ที่สนใจเก็บสเต็มเซลล์ของลูกน้อยทั้ง 2 คน ไว้เพื่อจะได้ใช้ฟื้นฟูข้อเข่าให้กับคุณพ่อของเธอ หรือคุณตาน้องดีแลนท์ให้มีอาการดีขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัด
3. สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรก (Amniotic Membrane)(MSCs)
- เป็นอีกสเต็มเซลล์ที่สามารถเก็บได้หลังการคลอดบุตรของคุณแม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมให้แก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง โรคอัลไซเมอร์ และ ภาวะเส้นเลือดในสมองแตก เป็นต้น
4. สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose MSCs)
- นวัตกรรมสเต็มเซลล์ใหม่ที่เป็นโอกาสอันดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่จะได้มีสเต็มเซลล์เป็นของตัวเองเก็บจากไขมันบริเวณหน้าท้องหลังการคลอด เอาไว้ใช้สำหรับฟื้นฟูสุขภาพและความงามหลังคลอด รวมถึงใช้รักษากลุ่มโรคจากความเสื่อมต่างๆ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ตัวเอง, โรคกระดูกและข้อ, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, โรคเสื่อมของระบบสืบพันธุ์และใช้เสริมความงามลดเรือนริ้วรอย
คุณกมลรัตน์ แนะหลักในการเลือกใช้หน่วยงานบริการเก็บรักษาสเต็มเซลล์ว่า
1. ต้องดูเรื่องความมั่นคงของธนาคารสเต็มเซลล์เป็นเรื่องสำคัญมาก : ต้องดูว่า อยู่มานานแล้วหรือไม่รวมถึงระบบ Backup ต่างๆ ซึ่งไครโอวิวา นั้น ดำเนินงานด้านนี้มากกว่า 14 ปี โดยไม่เคยต้องย้ายที่ตั้งห้องปฎิบัติการหรือประสบปัญหาต่างๆ เช่น ช่วงน้ำท่วม, การจลาจลหรือโรคติดต่อ จัดว่าเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงสูง
2. ต้องดูเรื่องความพร้อมในการรองรับระยะยาว เมื่อต้องการสเต็มเซลล์ไปใช้ : ต้องเลือกบริษัทที่มีความพร้อม เช่น กรณีเกิดปัญหาในประเทศและธนาคารสเต็มเซลล์ต้องปิดตัว จะสามารถนำสเต็มเซลล์มาใช้ได้อย่างไร
สำหรับไครโอวิวา
ไม่มีอุปสรรคในเรื่องนี้เนื่องจากมีเครือข่ายธนาคารสเต็มเซลล์ที่มีมาตรฐานเดียวกันอยู่ในประเทศสิงคโปร์และที่อื่นๆ เป็นหน่วยงานสนับสนุน
รวมทั้งมีเครือข่ายที่ให้บริการอยู่ทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง และทวีปอื่นๆ
3. ตรวจสอบระบบคุณภาพของธนาคารสเต็มเซลล์แต่ละแห่ง :
- การใช้สเต็มเซลล์ต้องมองหาธนาคารที่มีมาตรฐานเฉพาะด้านตรงกับที่ต้องการนำไปใช้
- สำหรับไครโอวิวาเป็นธนาคารสเต็มเซลล์ในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสมาคมธนาคารเลือดสหรัฐอเมริกา AABB ทั้งสาขาการจัดเก็บสเต็มเซลล์และการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ นั่นคือมาตรฐานสำหรับสเต็มเซลล์ที่ใช้รักษาโรคกลุ่มเลือดรวมถึงกลุ่มฟื้นฟูต่างๆ
- นอกจากนี้ไครโอวิวายังยึดมั่นใน "คุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส" ยึดมั่นในการเป็นธนาคารสเต็มเซลล์ของครอบครัวเท่านั้น โดยจะไม่นำสเต็มเซลล์ของลูกค้าไปใช้ในกิจการอื่นๆ ได้รับรางวัลด้านจริยธรรมจากยุโรป ที่มอบให้ว่า เป็นหน่วยงานคุณภาพในเรื่องของจริยธรรม ซึ่งเรื่องนี้จนถึงขณะนี้ ไครโอวิวาฯ เป็นบริษัทเดียวที่มีข้อพิสูจน์
- นอกเหนือจากนี้ไครโอวิวายังขึ้นทะเบียนสถานประกอบการไว้กับองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (US FDA) ซึ่งเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือจากหลายประเทศทั่วโลกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับครอบครัวของไครโอวิวา
- ก่อนหน้านี้ยังร่วมมือจัดตั้งห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัด ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELL เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่า สเต็มเซลล์ที่ใช้จะเป็นสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
ที่ผ่านมามีคุณแม่คนดังหลายคนมอบของขวัญล้ำค่าแก่ลูกน้อย มอบความไว้วางใจไครโอวิวาเก็บสเต็มเซลล์จากคุณแม่หลังคลอด เพื่อความไม่ประมาทกับชีวิตในอนาคต และเป็นเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเองและคนที่รักในครอบครัว
นอกจากคุณลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน แล้วยังมีครอบครัวคุณกรณ์ และคุณศรีริต้า, คุณโอซา แวง, คุณโอ๋-ภัคจีรา วรรณสุทธิ์, คุณเปิ้ล-จริยดี สเปนเซอร์, นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์, ครอบครัวคุณกิก-ดนัย จารุจินดา, ครอบครัวคุณ ชาคริต แย้มนาม, คุณซี ฉัตรปวีณ์ รวมถึงคุณเลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม เจ้าของ “เพจคุณแม่เลอค่า” อีกเช่นกัน
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะนวัตกรรมสเต็มเซลล์ไมใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะโอกาสที่จะค้นพบสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่เป็นคนนอก ที่จะสามารถเข้ากันได้กับสมาชิกในครอบครัวของเรามีเพียง 1 ใน 50,000 เท่านั้น เมื่อเทียบกับโอกาส 1 ใน 4 ของสเต็มเซลล์ที่ได้จากพี่น้องสายตรงในครอบครัว
*วิทยาการล่าสุด สเต็มเซลล์ก้าวไกล ถูกนำใช้ต่อสู้โรคโควิด-19
- การศึกษาในจีนยังพบว่า การใช้ MSCs ควบคู่กับการรักษามาตรฐาน มีผลการรักษาดีขึ้น คนไข้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น โดยพบว่า MSCs สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อปอด, ป้องกันหารทำลายเซลส์เยื่อบุถุงลม, ยับยั้งการเกิดผังผืดที่ปอดและรักษาความผิดปกติ
#ธนาคารสเต็มเซลล์
#สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ
#สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ
# สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน
#ไขข้อข้องใจในการจัดเก็บสเต็มเซลล์ของคุณแม่ตั้งครรภ์
#ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด
กว่า 14 ปีที่ได้รับการไว้วางใจ เชื่อมั่นด้านคุณภาพ และไม่หยุดที่จะพัฒนาของ “โครไอวิวาฯ” ไม่ใช่เพียงแค่คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เก็บสเต็มเซลล์เพื่อบุตรอีกต่อไป แต่เรายังสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ด้วยสเต็มเซลล์ที่จะช่วยดูแลสุขภาพและช่วยชะลอวัย มาร่วมดูแลสุขภาพและอนาคตของท่านและคนที่เรารักไปด้วยกัน สอบถามข้อมลเพิ่มเติมได้ที่ 02 203 6982, 094 449 9445 https://www.facebook.com/cryoviva, https://www.cryoviva.com/
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน