เพื่อนๆท่านไหนเป็นเหมือนกันบ้างคะ... ว่าคุณพ่อหรือคุณแม่ไม่อยากเป็นภาระเรา ทั้งเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องใหญ่ๆอย่างผ่าตัด
เราอยู่กับแม่มาตลอดคะ เหมือนทั้งชีวิตเราก็รู้สึกว่ามีแต่เขา แต่ตั้งแต่เราเรียนมหาลัยเราก็กลับบ้านน้อยลง ที่บ้านมีปัญหา พ่อกับแม่แยกทางกันคะ
ตอนนั้น เราเป็นคนบอกให้เขาแยกทางกันเอง แต่เราไม่รู้ว่าเขาสองคน ต่างคนต่างก็มีคนอื่นไว้คุยนอกบ้าน
หลังเรื่องราวต่างๆผ่านไป แม่เราแกล้งคุยโทรศัพท์กับคนนั้นให้เราได้ยิน (คงอยากบอกเราแหละคะ ว่ามีคนนั้นอยู่) แต่เรารู้ และเรารับไม่ได้ (ตอนนั้น)
เรารู้สึกเสียใจ เหมือนว่า เราสัญญาว่าเราจะมีกัน ยังไงแม่ก็มีเรา เราก็มีแม่ แต่ความจริงมันไม่ใช่
และพอเราเริ่มมีปัญหา แม่ก็บอกให้เราไปหาแฟนของตัวเอง จะได้เลิกยุ่งกับเขา และ... ให้เรามาทำงานไกลบ้าน
หลายปีผ่านไป ความสัมพันธ์แม่กับคนนั้นยุติลง
แต่แม่ก็มาบอกเราว่า แม่ไปบริจาคร่างมา (คือแบบมาบอกให้ทราบ) เขาบอกว่า เขาไม่อยากเป็นภาระเรา
และแม่ก็มีความคิดที่อยากจะทำอะไรดีๆ ชดเชยเรื่องราวในอดีตบางอย่าง... เราเสียใจคะ เสียใจที่เขาไม่บอกเราก่อน รู้สึกเหมือนเราไม่มีความหมายอะไรกับเขา (ซึ่งเขาก็พูดบ่อยๆเหมือนกันว่า ไม่ต้องเอาอะไรมาให้เขา แค่ไม่มาเป็นภาระเขาก็พอ เขาดูแลตัวเองได้)
....
..
.
สองสามปีก่อน เรากับแฟนตกลงจะแต่งงานกัน เลยไปนองบ้านคะ... พอเรามาเล่าให้แม่ฟัง เขาก็ดูเงียบๆ เราก็เลยคิดไปเองว่า เขาคงรู้สึกว่า บ้านนั้นไม่เกี่ยวกับเขา แบบ เหมือนตอนที่เรารู้ว่าเขามีคนอื่นล่ะมั้ง
เราเลยชวนเขาไปซื้อบ้านอีกหลังคะ ซึ่งก็เลือกจังหวัดที่เราสองคนชอบ (นอกเหนือจากเหตุผลที่จะเก็บเงินไว้เอง เพราะเราไม่มั่นใจแฟนเราน่ะนะคะ)
ซึ่งก็ดูเหมือนเขาจะสนใจมากขึ้น เขาไปดูกับเรา และเลือกขนาดใหญ่ (ทั้งที่ตอนแรกเราตั้งใจซื้อหลังเล็กเพราะใช้เงินไม่มาก) คิดว่าเขาจะพาเพื่อนไปนอนพักได้ และก็หาซื้อบ้านของตัวเขาเองแถวนั้นอีก (เราไม่เข้าใจนะคะว่าจะซื้อทำไม แต่ก็ช่วยเขาดู ... แล้วแผนนั้นก็พับไปเมื่อเวลาผ่านไป) ในช่วงที่เราไม่มีนักท่องเที่ยวรายวันไปพัก
...
..
มาถึงตอนนี้ (เรายังไม่ได้แต่งงาน ตามแผนที่เคยคิด เพราะมีปัญหาบางอย่าง) แต่เราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านที่ซื้อไว้ และกำลังคิดที่จะผ่อนบ้านหลังนี้เอง (ซึ่งเท่ากับเราแบกบ้านสองหลังพร้อมกัน มันหนักมากเลยคะ)
เราคิดว่าจะเอาบ้านต่างจังหวัดไปให้คนเช่า แบบรายเดือน (เพราะโควิทมา ทำให้รายได้เราลดลง เราไม่มีเงินไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม) แต่แม่เราก็แบบไม่อยากให้คนเช่า เพราะบ้านยังใหม่ ใหม่แบบที่เรายังไม่เคยได้ไปพักกันเลย
แต่... ที่เราสงสัยมาตลอด คือ
ทำไมเขาไม่เคยมาดูบ้านหลังที่เราอยู่ตอนนี้เลย
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่ไหน นอกจากรูปถ่ายที่เราพยายามเอาให้เขาดู เขาก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย
และตั้งแต่โควิทมา เราก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้กลับบ้านคะ
ยังไม่รวมที่หมอนัดผ่าตัด เขาบอกเราแค่ชื่อโรงพยาบาล แล้วเราโทรไป เขาไม่รับสาย โทรหาพยาบาลจนสุดท้ายโดนดุมาว่า แม่ลูกกันทำไมไม่รู้
เรารู้สึกเสียใจคะ ที่ตอนนี้เหมือนเราไม่เหลือใครเลย
เราสงสัยว่า เขาคิดอย่างที่เขาพูดบ่อยๆจริงหรือเปล่า ว่าแค่เราไม่เป็นภาระเขาก็พอ
ตอนนี้เขายังส่งไลน์หาเราทุกวันคะ แบบสวัสดีตอนเช้าเป็นรูปที่คลิกส่งได้หลายๆคน แต่ไม่เคยถามว่าเราเป็นไงบ้าง มีที่เป็นประโยคก็คือให้เราไปเก็บของออกจากคอนโดของเขา เพราะเขาจะปล่อยให้คนอื่นเช่า
(ซึ่งมันก็ต้องมีค่าขนย้าย ค่าทำความสะอาด ซึ่งเดี๋ยวเราก็คงรับผิดชอบเอง)
มีเพื่อนๆคนไหน เจอสถานการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ
ทำยังไงกัน ควรจะปล่อยมันผ่านไป แล้วไม่ใส่ใจกับอะไรเลยหรือเปล่า
วันที่พ่อแม่บอกไม่อยากเป็นภาระเรา ดีจริงๆเหรอ?
เราอยู่กับแม่มาตลอดคะ เหมือนทั้งชีวิตเราก็รู้สึกว่ามีแต่เขา แต่ตั้งแต่เราเรียนมหาลัยเราก็กลับบ้านน้อยลง ที่บ้านมีปัญหา พ่อกับแม่แยกทางกันคะ
ตอนนั้น เราเป็นคนบอกให้เขาแยกทางกันเอง แต่เราไม่รู้ว่าเขาสองคน ต่างคนต่างก็มีคนอื่นไว้คุยนอกบ้าน
หลังเรื่องราวต่างๆผ่านไป แม่เราแกล้งคุยโทรศัพท์กับคนนั้นให้เราได้ยิน (คงอยากบอกเราแหละคะ ว่ามีคนนั้นอยู่) แต่เรารู้ และเรารับไม่ได้ (ตอนนั้น)
เรารู้สึกเสียใจ เหมือนว่า เราสัญญาว่าเราจะมีกัน ยังไงแม่ก็มีเรา เราก็มีแม่ แต่ความจริงมันไม่ใช่
และพอเราเริ่มมีปัญหา แม่ก็บอกให้เราไปหาแฟนของตัวเอง จะได้เลิกยุ่งกับเขา และ... ให้เรามาทำงานไกลบ้าน
หลายปีผ่านไป ความสัมพันธ์แม่กับคนนั้นยุติลง
แต่แม่ก็มาบอกเราว่า แม่ไปบริจาคร่างมา (คือแบบมาบอกให้ทราบ) เขาบอกว่า เขาไม่อยากเป็นภาระเรา
และแม่ก็มีความคิดที่อยากจะทำอะไรดีๆ ชดเชยเรื่องราวในอดีตบางอย่าง... เราเสียใจคะ เสียใจที่เขาไม่บอกเราก่อน รู้สึกเหมือนเราไม่มีความหมายอะไรกับเขา (ซึ่งเขาก็พูดบ่อยๆเหมือนกันว่า ไม่ต้องเอาอะไรมาให้เขา แค่ไม่มาเป็นภาระเขาก็พอ เขาดูแลตัวเองได้)
....
..
.
สองสามปีก่อน เรากับแฟนตกลงจะแต่งงานกัน เลยไปนองบ้านคะ... พอเรามาเล่าให้แม่ฟัง เขาก็ดูเงียบๆ เราก็เลยคิดไปเองว่า เขาคงรู้สึกว่า บ้านนั้นไม่เกี่ยวกับเขา แบบ เหมือนตอนที่เรารู้ว่าเขามีคนอื่นล่ะมั้ง
เราเลยชวนเขาไปซื้อบ้านอีกหลังคะ ซึ่งก็เลือกจังหวัดที่เราสองคนชอบ (นอกเหนือจากเหตุผลที่จะเก็บเงินไว้เอง เพราะเราไม่มั่นใจแฟนเราน่ะนะคะ)
ซึ่งก็ดูเหมือนเขาจะสนใจมากขึ้น เขาไปดูกับเรา และเลือกขนาดใหญ่ (ทั้งที่ตอนแรกเราตั้งใจซื้อหลังเล็กเพราะใช้เงินไม่มาก) คิดว่าเขาจะพาเพื่อนไปนอนพักได้ และก็หาซื้อบ้านของตัวเขาเองแถวนั้นอีก (เราไม่เข้าใจนะคะว่าจะซื้อทำไม แต่ก็ช่วยเขาดู ... แล้วแผนนั้นก็พับไปเมื่อเวลาผ่านไป) ในช่วงที่เราไม่มีนักท่องเที่ยวรายวันไปพัก
...
..
มาถึงตอนนี้ (เรายังไม่ได้แต่งงาน ตามแผนที่เคยคิด เพราะมีปัญหาบางอย่าง) แต่เราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านที่ซื้อไว้ และกำลังคิดที่จะผ่อนบ้านหลังนี้เอง (ซึ่งเท่ากับเราแบกบ้านสองหลังพร้อมกัน มันหนักมากเลยคะ)
เราคิดว่าจะเอาบ้านต่างจังหวัดไปให้คนเช่า แบบรายเดือน (เพราะโควิทมา ทำให้รายได้เราลดลง เราไม่มีเงินไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม) แต่แม่เราก็แบบไม่อยากให้คนเช่า เพราะบ้านยังใหม่ ใหม่แบบที่เรายังไม่เคยได้ไปพักกันเลย
แต่... ที่เราสงสัยมาตลอด คือ
ทำไมเขาไม่เคยมาดูบ้านหลังที่เราอยู่ตอนนี้เลย
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่ไหน นอกจากรูปถ่ายที่เราพยายามเอาให้เขาดู เขาก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย
และตั้งแต่โควิทมา เราก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้กลับบ้านคะ
ยังไม่รวมที่หมอนัดผ่าตัด เขาบอกเราแค่ชื่อโรงพยาบาล แล้วเราโทรไป เขาไม่รับสาย โทรหาพยาบาลจนสุดท้ายโดนดุมาว่า แม่ลูกกันทำไมไม่รู้
เรารู้สึกเสียใจคะ ที่ตอนนี้เหมือนเราไม่เหลือใครเลย
เราสงสัยว่า เขาคิดอย่างที่เขาพูดบ่อยๆจริงหรือเปล่า ว่าแค่เราไม่เป็นภาระเขาก็พอ
ตอนนี้เขายังส่งไลน์หาเราทุกวันคะ แบบสวัสดีตอนเช้าเป็นรูปที่คลิกส่งได้หลายๆคน แต่ไม่เคยถามว่าเราเป็นไงบ้าง มีที่เป็นประโยคก็คือให้เราไปเก็บของออกจากคอนโดของเขา เพราะเขาจะปล่อยให้คนอื่นเช่า
(ซึ่งมันก็ต้องมีค่าขนย้าย ค่าทำความสะอาด ซึ่งเดี๋ยวเราก็คงรับผิดชอบเอง)
มีเพื่อนๆคนไหน เจอสถานการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ
ทำยังไงกัน ควรจะปล่อยมันผ่านไป แล้วไม่ใส่ใจกับอะไรเลยหรือเปล่า