vivo ประเทศไทยเองก็ได้เปิดตัว vivo Y12A น้องเล็กรุ่นล่าสุดต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้พร้อมกับยังคงเน้นๆในเรื่องของแบต 5,000 mAh และ หน้าจอขนาดใหญ่รวมถึงเป็นราคาที่ไม่ถึง 4500 บาท ทำให้การจับต้องในระดับเริ่มต้นสำหรับสาวก หรือคนที่สนใจนั้นใช้งานได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆ และสเปกภาพรวมก็เน้นใช้งานแบตอึดกล้องหน้าดีได้เช่นเดิม รวมถึงงานออกแบบนั้นยังคงมีความหรูหรากว่ารุ่นแรกๆเยอะมากเรียกได้ว่าพัฒนามากขึ้น และในรุ่นล่าสุดนี้เองปรับมาใช้งาน Snapdragon แล้วด้วยนะทำให้ไว้ใจได้และหลายๆคนนั้นชอบค่ายนี้ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
vivo Y12A มาพร้อมกับ หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว (720 x 1600 พิกเซล) HD+, 270 ppi ชิปประมวลผล Snapdragon 439 (12 nm) การ์ดจอ Adreno 505 RAM 3GB + ความจำ 32GB สามารถใส่เมมโมรี่การ์ดเพิ่มได้ ซิมคู่ Android 10 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11 กล้องมุมกว้าง 13MP (f/2.2) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), LED flash, รองรับ HDR กล้องหน้ามุมกว้าง 8MP (f/1.8) เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง พอร์ต micro USB 2.0, รูแจ็คหูฟัง 3.5mm ขนาดตัวเครื่อง: 164.4 x 76.3 x 8.4 mm ; น้ำหนัก: 191 กรัม รองรับเครือข่าย 4G แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10W ถือว่าสเปกที่ให้มานั้นรองรับการเรทราคาได้ค่อนข้างดี แต่ที่เด่นๆนั้นจะเป็นการให้แบตมามาถึง 5,000 mAh และในเรื่องของสแกนนิ้วในขอบข้างเครื่อง
vivo Y12A RAM 3GB STORAGE 32GB วางจำหน่ายในราคา 4,499 บาท
โดยมีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Phantom Black และ Mint Green
UNBOX
- ตัวเครื่อง vivo Y12A
- ที่ชาร์จ 10W
- สายชาร์จ MICRO-USB
- เคสใส TPU
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
เคสที่เเถมมาของ Vivo Y12A ถือว่ามีความหนาอยู่พอประมาณ วัสดุงานเหมือนกับเคสที่เเถมมากับรุ่นก่อนๆ กันกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จอะไรต่างๆนั้นมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ Vivo ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อน
ด้วยตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ
DESIGN
งานออกแบบนั้นดีไซน์นั้นอิงจากรุ่น Y12S ก่อนหน้านี้ชัดเจนในการวางกล้องและยังคงมีความ พรีเมี่ยมด้วยฝาหลังเรียบๆเพราะได้ย้ายสแกนนิ้วไปในด้านข้างแล้วทำให้รองรับการใช้งานได้ดีขึ้น และ ดีไซน์สวยขึ้น ฝาหลังเล่นแสงสีสวยงาม แม้จะเป็นสีเข้มแต่ก็สะท้อนแสงอะไรได้สวยงามอยู่ ออกฟ้าๆได้ในบางมุมครับ ส่วนฝาหลังนั้นยังคงเรียบๆพร้อมกับขอบ 2.5D เหมือนเดิมครับตามสไตล์ของค่ายนี้ มาพร้อมกับ หน้าจอ Halo FullView™ Display ขนาด 6.51นิ้ว และ น้ำหนักตัวเครื่อง น้ำหนัก 191 กรัมถือว่ากำลังดีเมื่อเทียบกับแบตขนาดใหญ่มากถึง 5,000 mAh
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบอิงแบบเดิมที่ใช้งาน หน้าจอ Halo FullView™ Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำแต่ที่ชอบคือมีการสู้แสงที่ทำได้ดีเลยทีเดียว และมุมมองการใช้งานถือว่าโอเคอย่างมากเมื่อเทียบกับราคาของรุ่นนี้
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 8MP พร้อมกับการแทรกเซนเซอร์อะไรต่างๆไว้ข้างบนรวมถึงลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ ส่วนขอบอะไรนั้นก็มีความหนาใกล้ๆกันทั้งหมด ตามในเรทราคาของมันถือว่าพอรับได้ในจุดนี้
แต่ขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะค่อนข้างหนาพอสมควร ถ้ามองในแง่เรทราคาประมาณนี้ก็จะได้ประมาณนี้ในหลายๆตัวส่วนการควบคุมนั้นต้องบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแปลงได้เยอะ สลับปุ่ม หรือใช้งานแบบท่าทางได้ด้วยเช่นกัน
ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็น การใช้งานสแกนนิ้วด้านข้าง เป็นไม่กี่รุ่นในเรทราคา หรือรุ่นเริ่มต้นของค่ายจะใส่เข้ามาให้ในด้านข้าง ทำให้ด้านหลังเรียบดูดีขึ้นเยอะมาก และเป็นปุ่ม Power ในตัว รวมถึงปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง ให้มาฝั่งนี้
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นเราจะเห็น รู 3.5มม. พร้อมกับ รูไมค์ รวมถึง Micro-USB ครับยังคงใส่เข้ามาให้ในมือถือเรทราคาถูก แต่ปีหน้านั้นน่าจะไม่เห็นพอร์ตแบบนี้แล้ว ส่วนลำโพงหลักอะไรใส่มาให้ในส่วนล่างเป็นมาตรฐานครับ
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิม ซึ่งเป็นถาดซิมแบบ Triple Slot รองรับการใช้งานอิสระ 2 ซิม และ 1 Micro-SD พร้อมใช้งาน ก็เป็นมาตรฐานสำหรับ มือถือในเรทราคาประมาณนี้
ขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเป็นงานออกแบบที่คุ้นๆกับ Y ก่อนหน้าครับเน้นความเรียบๆฝาหลังตัดเรียบปกติ และ เป็นวัสดุพลาสติกตามเรทราคาทั้งหมด รวมถึงไม่มีไมค์ตัดเสียงอะไรใส่เข้ามาให้ เล่นสีสันแบบเดียวกับฝาหลังเครื่องเช่นเดิม
กล้องหลังนั้นยังคงให้มา2 ตัวครับมาพร้อมกับเลนส์หลัก 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF และมาพร้อมกับ เลนส์สำหรับการทำละลายหลังจับระยะต่างๆที่ 2MP F2.4 จะไม่มีเลนส์มุมกว้าง มาโครอะไรใส่เข้ามา รวมถึงไม่มีโหมดกลางคืน แน่นอนว่าเป็นตัวเริ่มต้น จึงพอเข้าใจได้ในเรื่องของสเปกและฟีเจอร์การถ่ายทั้งหมดของรุ่นนี้
ฝาหลังสีน้ำเงินเข้ม เล่นแสงสีสะท้อนได้สวยงาม แบบเงาแม้จะเป็นพลาสติกก็ตาม งานออกแบบต่างๆจะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า รวมถึงการวางกล้องอะไรนั้นเป็นแนวเดียวกับรุ่นอื่นๆของตระกูล Y แต่รุ่นนี้จะให้มาแค่ 2 กล้องเท่านั้นนะ และการวางกล้องนั้นเราจะเห็นว่าในมุมซ้ายด้านบนเหมือนเดิมแต่ยังคงเรียงกัน 2 กล้องเรียงลงมาเหมือนเดิมเลย พร้อมกับโลโก้ที่เขียนในแนวนอนมุมซ้ายล่างของตัวเครื่องนั้นเอง ถือว่าดีไซน์คล้ายๆกับรุ่น Y12S ก่อนหน้านี้มากๆ
SPEC
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว (720 x 1600 พิกเซล) HD+, 270 ppi
- CPU Snapdragon 439 (12 nm)
- การ์ดจอ Adreno 505
- RAM 3GB + ความจำ 32GB สามารถใส่เมมโมรี่การ์ดเพิ่มได้
- ซิมคู่ + Micro-Sd
- Android 10 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11
- กล้องมุมกว้าง 13MP (f/2.2) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), LED flash, รองรับ HDR
- กล้องหน้ามุมกว้าง 8MP (f/1.8)
- เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง
- พอร์ต micro USB 2.0
- รูแจ็คหูฟัง 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.4 x 76.3 x 8.4 mm ;
- น้ำหนัก: 191 กรัม
- Bluetooth 4.2
- รองรับเครือข่าย 4G
- รองรับ Wifi 2.4 Ghz เท่านั้น
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10W
- ตัวเครื่อง สีดำ Phantom Black , เขียว Mint Green
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน SNAPDRAGON 439 พร้อมกับ Storage 32GB RAM 3GB ส่วนทางด้านคะแนน eMMC5.1 นั้นอ่านไปได้ที่ 287 MB/s – เขียนไปได้ที่ 83 MB/s ส่วน DRL L3 ในแอป Netflix รองรับ SD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 119358 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และแรงกว่า Y12s นิดหน่อย และ Geekbench นั้นทำไปได้ 171/830 คะแนน ครับ กลางๆไม่ได้หนีจากเดิมมากนัก แค่เป็นการเปลี่ยนค่ายเล็กน้อย
SYSTEM UI
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นใช้ Funtouch OS 11 บนตัว Android 10 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง ทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็น แล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 10 นั้นเอง
การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นอื่นๆแล้วเหมือนคนอื่นซะทีครับถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS10 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ
Storage 32GB จะว่างให้ใช้งาน 25 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 3 GB นั้นใช้งานไป 2GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง
อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animation เปลี่ยนได้แต่ในรุ่นนี้จะเปลี่ยนได้แค่หน้าจอตอน สแกนใบหน้าเท่านั้น ส่วนหน้าตาอื่นๆนั้นปรับไม่ได้เลย คนละแบบกับรุ่น Y20 ครับ ส่วน หน้าตา ธีมอะไรนั้นเปลี่ยนแปลงได้ตามปกติ รวมถึงการเปิดหน้าจอ อัจฉริยะ หรือ การโทรแนบหูต่างๆ
Gesture แน่นอนว่ารองรับเหมือนกันทั้งแคปหน้าจอรวมถึงการเตือนเวลายกหรือจะเป็น Smart Feature ทั้งหมดและปุ่มการนำทางนั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยทั้งรูปแบบ และ การจัดวางหรือเต็มจอครับ รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆนั้นก็ดูแล้วปรับได้ว่าแจ้งอะไรอย่างไร หน้าจอล็อกแจ้งแบบไหนบ้าง เป็นแบบเดียวกับ Android 10 หลายๆตัวนั้นเอง
[SR] รีวิว VIVO Y12A น้องเล็ก Snapdragon 439 แบต 5,000 mAh ในราคา 4,499 บาท !
vivo ประเทศไทยเองก็ได้เปิดตัว vivo Y12A น้องเล็กรุ่นล่าสุดต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้พร้อมกับยังคงเน้นๆในเรื่องของแบต 5,000 mAh และ หน้าจอขนาดใหญ่รวมถึงเป็นราคาที่ไม่ถึง 4500 บาท ทำให้การจับต้องในระดับเริ่มต้นสำหรับสาวก หรือคนที่สนใจนั้นใช้งานได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆ และสเปกภาพรวมก็เน้นใช้งานแบตอึดกล้องหน้าดีได้เช่นเดิม รวมถึงงานออกแบบนั้นยังคงมีความหรูหรากว่ารุ่นแรกๆเยอะมากเรียกได้ว่าพัฒนามากขึ้น และในรุ่นล่าสุดนี้เองปรับมาใช้งาน Snapdragon แล้วด้วยนะทำให้ไว้ใจได้และหลายๆคนนั้นชอบค่ายนี้ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
vivo Y12A มาพร้อมกับ หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว (720 x 1600 พิกเซล) HD+, 270 ppi ชิปประมวลผล Snapdragon 439 (12 nm) การ์ดจอ Adreno 505 RAM 3GB + ความจำ 32GB สามารถใส่เมมโมรี่การ์ดเพิ่มได้ ซิมคู่ Android 10 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11 กล้องมุมกว้าง 13MP (f/2.2) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), LED flash, รองรับ HDR กล้องหน้ามุมกว้าง 8MP (f/1.8) เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง พอร์ต micro USB 2.0, รูแจ็คหูฟัง 3.5mm ขนาดตัวเครื่อง: 164.4 x 76.3 x 8.4 mm ; น้ำหนัก: 191 กรัม รองรับเครือข่าย 4G แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10W ถือว่าสเปกที่ให้มานั้นรองรับการเรทราคาได้ค่อนข้างดี แต่ที่เด่นๆนั้นจะเป็นการให้แบตมามาถึง 5,000 mAh และในเรื่องของสแกนนิ้วในขอบข้างเครื่อง
vivo Y12A RAM 3GB STORAGE 32GB วางจำหน่ายในราคา 4,499 บาท
โดยมีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Phantom Black และ Mint Green
UNBOX
- ตัวเครื่อง vivo Y12A
- ที่ชาร์จ 10W
- สายชาร์จ MICRO-USB
- เคสใส TPU
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
เคสที่เเถมมาของ Vivo Y12A ถือว่ามีความหนาอยู่พอประมาณ วัสดุงานเหมือนกับเคสที่เเถมมากับรุ่นก่อนๆ กันกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จอะไรต่างๆนั้นมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ Vivo ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อน
ด้วยตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ
DESIGN
งานออกแบบนั้นดีไซน์นั้นอิงจากรุ่น Y12S ก่อนหน้านี้ชัดเจนในการวางกล้องและยังคงมีความ พรีเมี่ยมด้วยฝาหลังเรียบๆเพราะได้ย้ายสแกนนิ้วไปในด้านข้างแล้วทำให้รองรับการใช้งานได้ดีขึ้น และ ดีไซน์สวยขึ้น ฝาหลังเล่นแสงสีสวยงาม แม้จะเป็นสีเข้มแต่ก็สะท้อนแสงอะไรได้สวยงามอยู่ ออกฟ้าๆได้ในบางมุมครับ ส่วนฝาหลังนั้นยังคงเรียบๆพร้อมกับขอบ 2.5D เหมือนเดิมครับตามสไตล์ของค่ายนี้ มาพร้อมกับ หน้าจอ Halo FullView™ Display ขนาด 6.51นิ้ว และ น้ำหนักตัวเครื่อง น้ำหนัก 191 กรัมถือว่ากำลังดีเมื่อเทียบกับแบตขนาดใหญ่มากถึง 5,000 mAh
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบอิงแบบเดิมที่ใช้งาน หน้าจอ Halo FullView™ Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำแต่ที่ชอบคือมีการสู้แสงที่ทำได้ดีเลยทีเดียว และมุมมองการใช้งานถือว่าโอเคอย่างมากเมื่อเทียบกับราคาของรุ่นนี้
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 8MP พร้อมกับการแทรกเซนเซอร์อะไรต่างๆไว้ข้างบนรวมถึงลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ ส่วนขอบอะไรนั้นก็มีความหนาใกล้ๆกันทั้งหมด ตามในเรทราคาของมันถือว่าพอรับได้ในจุดนี้
แต่ขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะค่อนข้างหนาพอสมควร ถ้ามองในแง่เรทราคาประมาณนี้ก็จะได้ประมาณนี้ในหลายๆตัวส่วนการควบคุมนั้นต้องบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแปลงได้เยอะ สลับปุ่ม หรือใช้งานแบบท่าทางได้ด้วยเช่นกัน
ขอบเครื่องด้านขวาเราจะเห็น การใช้งานสแกนนิ้วด้านข้าง เป็นไม่กี่รุ่นในเรทราคา หรือรุ่นเริ่มต้นของค่ายจะใส่เข้ามาให้ในด้านข้าง ทำให้ด้านหลังเรียบดูดีขึ้นเยอะมาก และเป็นปุ่ม Power ในตัว รวมถึงปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง ให้มาฝั่งนี้
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นเราจะเห็น รู 3.5มม. พร้อมกับ รูไมค์ รวมถึง Micro-USB ครับยังคงใส่เข้ามาให้ในมือถือเรทราคาถูก แต่ปีหน้านั้นน่าจะไม่เห็นพอร์ตแบบนี้แล้ว ส่วนลำโพงหลักอะไรใส่มาให้ในส่วนล่างเป็นมาตรฐานครับ
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิม ซึ่งเป็นถาดซิมแบบ Triple Slot รองรับการใช้งานอิสระ 2 ซิม และ 1 Micro-SD พร้อมใช้งาน ก็เป็นมาตรฐานสำหรับ มือถือในเรทราคาประมาณนี้
ขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเป็นงานออกแบบที่คุ้นๆกับ Y ก่อนหน้าครับเน้นความเรียบๆฝาหลังตัดเรียบปกติ และ เป็นวัสดุพลาสติกตามเรทราคาทั้งหมด รวมถึงไม่มีไมค์ตัดเสียงอะไรใส่เข้ามาให้ เล่นสีสันแบบเดียวกับฝาหลังเครื่องเช่นเดิม
กล้องหลังนั้นยังคงให้มา2 ตัวครับมาพร้อมกับเลนส์หลัก 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF และมาพร้อมกับ เลนส์สำหรับการทำละลายหลังจับระยะต่างๆที่ 2MP F2.4 จะไม่มีเลนส์มุมกว้าง มาโครอะไรใส่เข้ามา รวมถึงไม่มีโหมดกลางคืน แน่นอนว่าเป็นตัวเริ่มต้น จึงพอเข้าใจได้ในเรื่องของสเปกและฟีเจอร์การถ่ายทั้งหมดของรุ่นนี้
ฝาหลังสีน้ำเงินเข้ม เล่นแสงสีสะท้อนได้สวยงาม แบบเงาแม้จะเป็นพลาสติกก็ตาม งานออกแบบต่างๆจะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า รวมถึงการวางกล้องอะไรนั้นเป็นแนวเดียวกับรุ่นอื่นๆของตระกูล Y แต่รุ่นนี้จะให้มาแค่ 2 กล้องเท่านั้นนะ และการวางกล้องนั้นเราจะเห็นว่าในมุมซ้ายด้านบนเหมือนเดิมแต่ยังคงเรียงกัน 2 กล้องเรียงลงมาเหมือนเดิมเลย พร้อมกับโลโก้ที่เขียนในแนวนอนมุมซ้ายล่างของตัวเครื่องนั้นเอง ถือว่าดีไซน์คล้ายๆกับรุ่น Y12S ก่อนหน้านี้มากๆ
SPEC
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว (720 x 1600 พิกเซล) HD+, 270 ppi
- CPU Snapdragon 439 (12 nm)
- การ์ดจอ Adreno 505
- RAM 3GB + ความจำ 32GB สามารถใส่เมมโมรี่การ์ดเพิ่มได้
- ซิมคู่ + Micro-Sd
- Android 10 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11
- กล้องมุมกว้าง 13MP (f/2.2) + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4), LED flash, รองรับ HDR
- กล้องหน้ามุมกว้าง 8MP (f/1.8)
- เซนเซอร์สแกนนิ้วด้านข้าง
- พอร์ต micro USB 2.0
- รูแจ็คหูฟัง 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.4 x 76.3 x 8.4 mm ;
- น้ำหนัก: 191 กรัม
- Bluetooth 4.2
- รองรับเครือข่าย 4G
- รองรับ Wifi 2.4 Ghz เท่านั้น
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10W
- ตัวเครื่อง สีดำ Phantom Black , เขียว Mint Green
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน SNAPDRAGON 439 พร้อมกับ Storage 32GB RAM 3GB ส่วนทางด้านคะแนน eMMC5.1 นั้นอ่านไปได้ที่ 287 MB/s – เขียนไปได้ที่ 83 MB/s ส่วน DRL L3 ในแอป Netflix รองรับ SD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 119358 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และแรงกว่า Y12s นิดหน่อย และ Geekbench นั้นทำไปได้ 171/830 คะแนน ครับ กลางๆไม่ได้หนีจากเดิมมากนัก แค่เป็นการเปลี่ยนค่ายเล็กน้อย
SYSTEM UI
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นใช้ Funtouch OS 11 บนตัว Android 10 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง ทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็น แล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 10 นั้นเอง
การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นอื่นๆแล้วเหมือนคนอื่นซะทีครับถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS10 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ
Storage 32GB จะว่างให้ใช้งาน 25 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 3 GB นั้นใช้งานไป 2GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง
อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animation เปลี่ยนได้แต่ในรุ่นนี้จะเปลี่ยนได้แค่หน้าจอตอน สแกนใบหน้าเท่านั้น ส่วนหน้าตาอื่นๆนั้นปรับไม่ได้เลย คนละแบบกับรุ่น Y20 ครับ ส่วน หน้าตา ธีมอะไรนั้นเปลี่ยนแปลงได้ตามปกติ รวมถึงการเปิดหน้าจอ อัจฉริยะ หรือ การโทรแนบหูต่างๆ
Gesture แน่นอนว่ารองรับเหมือนกันทั้งแคปหน้าจอรวมถึงการเตือนเวลายกหรือจะเป็น Smart Feature ทั้งหมดและปุ่มการนำทางนั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยทั้งรูปแบบ และ การจัดวางหรือเต็มจอครับ รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆนั้นก็ดูแล้วปรับได้ว่าแจ้งอะไรอย่างไร หน้าจอล็อกแจ้งแบบไหนบ้าง เป็นแบบเดียวกับ Android 10 หลายๆตัวนั้นเอง
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้