ถึงโควิดจะทำให้เราห่างหายจากการท่องเที่ยวไปสักพัก แต่เชื่อว่าหลายคนคงถวิลหาการเดินทางท่องเที่ยวใจจะขาด เที่ยวชุมชนไปกับคนอพท. จะพาทุกคนมารีเฟรชร่างกายใกล้ๆ กรุง บุกถิ่นมะพร้าวที่ใหญ่ที่สุดแหล่งสุดท้ายของภาคตะวันออกกันที่ "ชุมชนตะเคียนเตี้ย" ชุมชนท่องเที่ยววิถีมะพร้าว ซึ่งทุกคนที่มาเยือนจะได้สัมผัสเรื่องราวและวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ผ่านกิจกรรมสนุกๆ อาหารสุดอร่อย และของฝากที่พลาดไม่ได้
เริ่มต้นวันอย่างช้าๆ ด้วยการปั่นจักรยานชมสวนมะพร้าวของชาวบ้าน ซึ่งเป็นมะพร้าวพันธุ์หมูสี พันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกง่าย กินกะลาอ่อนได้และให้ผลผลิตไว แถมยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด ระหว่างปั่นไปตามทางในชุมชนนักสื่อความหมาย จะคอยเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ในชุมชน เป็นการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักท่องเที่ยวและชาวชุมชน
ปั่นจักรยานเหนื่อยๆ แล้วมาเติมพลังกันด้วยมะพร้าวสดๆ ที่กินได้อย่างปลอดภัย หายห่วง เพราะที่นี่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี แต่ได้มะพร้าวที่หอม หวาน เนื้อนุ่ม ชวนให้คุณมาลิ้มลองด้วยตัวเอง
ตามมาทำผ้ามัดย้อมด้วยสีจากกะลามะพร้าวกัน ขอบอกว่าสีสวยละมุนมาก ค่าบริการแค่ 50 บาทเท่านั้น แต่ต้องเตรียมผ้ากันมาเองน้า
ออกจากสวนไปนิดก็จะเจอคนในชุมชนสาธิตการปอกมะพร้าวแบบดั้งเดิม ซึ่งวันนึงปอกได้เป็นร้อยๆ ลูก แถมทุกส่วนที่ปอกก็ถูกนำไปจัดการอย่างคุ้มค่า เช่น เปลือกกะลามะพร้าว ถูกทำเป็นถ่านอุตสาหกรรมขายส่งที่ต่างประเทศ
แถมมะพร้าวกองโตก็สามารถถ่ายรูปเท่ๆ สร้างคอนเทนต์อัปลงโซเชียลได้อีกด้วย
สำหรับคอกาแฟห้ามพลาดกับกาแฟมะพร้าวชงสดๆ ที่ใช้น้ำกะทิคั้นสดไม่เกิน 4 ชั่วโมง รสชาติกลมกล่อม ดีต่อสุขภาพ ยิ่งจิบพร้อมกับขนมไทยใส่มะพร้าวฝีมือชาวบ้าน ยิ่งเข้ากันสุดๆ
“มาตะเคียนเตี้ยต้องกินแกงไก่กะลา ไม่เช่นนั้นถือว่ามาไม่ถึงตะเคียนเตี้ย”
“แกงไก่กะลา” เป็นเมนูที่นำส่วนเนื้อกะลามะพร้าวสัมผัสกรุบๆ มาผัดกับไก่บ้านนุ่มๆ เคล้าเครื่องแกงสูตรเฉพาะ และใส่กะเพรา 100 ปี สร้างความเผ็ดร้อน เพิ่มความอร่อยครบรสให้เมนูจานนี้ เสิร์ฟคู่กับอาหารพื้นบ้านอย่างน้ำพริกกุ้งสดไข่เค็ม ต้มหมูใบชะมวง และหากใครอยากได้สูตรแกงไก่กะลา ก็ไม่อยาก สวมผ้ากันเปื้อนมาลงมือทำคู่กับเชฟชุมชนได้เลย ไม่มีหวงสูตร หรือถ้าใครอยากกินอะไรเป็นพิเศษลองแจ้งทางเชฟดูก่อนได้น้า พูดได้คำเดียวว่าที่นี่อร่อยทุกอย่าง จนอยากจะกินทุกวันเลย
เมื่ออิ่มท้องแล้วก็มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านร้อยเสา บ้านแฝดโบราณที่มีเสากว่าร้อยต้นอยู่ภายในบ้าน โดยในปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ที่อยู่ข้ามกาลเวลาสะท้อนวิถีชีวิตของคนตะเคียนเตี้ยได้อย่างชัดเจน และยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมของชุมชน ที่ให้ผู้มาเยือนได้มาร่วมเรียนรู้กับกลุ่มแม่บ้าน ที่ใช้เวลาว่างจากงานสวนไร่นา มาทำการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อให้เกิดรายได้เสริมและกระจายรายได้สู่ประโยชน์ส่วนรวม
ซึ่งในศูนย์วัฒนธรรมมีกิจกรรมสนุกๆ รออยู่อีกเพียบ ทั้งทำกระเป๋าผ้าปังปังที่ปังสมชื่อ เพราะทุกคนจะได้เก็บดอกไม้ มาดีไซน์เป็นลายในสไตล์ของตัวเอง แล้วใช้ไม้ตีให้สีของดอกไม้ติดที่ตัวกระเป๋า ถ้าไม่ได้ซักล้าง สีก็จะติดทนได้นานหลายเดือน กิจกรรมนี้มีอุปกรณ์ให้ครบจบที่คนละ 50 บาทเท่านั้น
ต่อด้วยกิจกรรมทำพวงมโหตร เครื่องแขวนที่ทำมากจากกระดาษสีสันสดใส นำมาพับและตัดเป็นรูปต่างๆ นิยมใช้ตกแต่งวัด บ้านเรือน หรือใช้ในงานมงคล
มาโชว์ฝีมือประดิดประดอยอีกกิจกรรม กับการทำดอกกุหลาบใบเตย ที่สามารถนำไปไหว้พระ ตกแต่งบ้าน แต่งจานอาหาร หรือดับกลิ่นในรถ ในห้องน้ำก็ได้น้า
ใครปวดเมื่อยตัวต้องนี่เลย กัวซาภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้าน ที่บำบัดด้วยการขูดผิวหนัง เพื่อขับพิษในร่างกาย ทำให้รู้สึกสบายตัว
มาเปิดประสบการณ์เที่ยวชลบุรีที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่มาให้ธรรมชาติของมะพร้าวได้โอบกอดจนคุณรู้สึกสบายใจ และสำหรับใครที่สนใจอยากมาสัมผัสเสน่ห์ชุมชนตะเคียนเตี้ย แนะนำให้ติดต่อทางชุมชนล่วงหน้าซักนิดที่ คุณวันดี ประกอบธรรม โทร 098-412-1712 รับรองว่าวันหยุดนี้ของคุณจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน
แม้ช่วงนี้จะยังเที่ยวไม่ได้ แต่เก็บข้อมูลไว้ก่อน สถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไร เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วไปเที่ยวชุมชนกัน ชาวชุมชนรออยู่น้า
อย่าให้การไปเที่ยวจบลงแค่ภาพถ่าย ร่วมเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวไปกับเรา ได้ที่
https://www.facebook.com/CBT.DASTA
ท่องเที่ยววิถีมะพร้าว สัมผัสเรื่องราวและวิถีชีวิตชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี
เริ่มต้นวันอย่างช้าๆ ด้วยการปั่นจักรยานชมสวนมะพร้าวของชาวบ้าน ซึ่งเป็นมะพร้าวพันธุ์หมูสี พันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกง่าย กินกะลาอ่อนได้และให้ผลผลิตไว แถมยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด ระหว่างปั่นไปตามทางในชุมชนนักสื่อความหมาย จะคอยเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ในชุมชน เป็นการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักท่องเที่ยวและชาวชุมชน
ปั่นจักรยานเหนื่อยๆ แล้วมาเติมพลังกันด้วยมะพร้าวสดๆ ที่กินได้อย่างปลอดภัย หายห่วง เพราะที่นี่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี แต่ได้มะพร้าวที่หอม หวาน เนื้อนุ่ม ชวนให้คุณมาลิ้มลองด้วยตัวเอง
ตามมาทำผ้ามัดย้อมด้วยสีจากกะลามะพร้าวกัน ขอบอกว่าสีสวยละมุนมาก ค่าบริการแค่ 50 บาทเท่านั้น แต่ต้องเตรียมผ้ากันมาเองน้า
ออกจากสวนไปนิดก็จะเจอคนในชุมชนสาธิตการปอกมะพร้าวแบบดั้งเดิม ซึ่งวันนึงปอกได้เป็นร้อยๆ ลูก แถมทุกส่วนที่ปอกก็ถูกนำไปจัดการอย่างคุ้มค่า เช่น เปลือกกะลามะพร้าว ถูกทำเป็นถ่านอุตสาหกรรมขายส่งที่ต่างประเทศ
แถมมะพร้าวกองโตก็สามารถถ่ายรูปเท่ๆ สร้างคอนเทนต์อัปลงโซเชียลได้อีกด้วย
สำหรับคอกาแฟห้ามพลาดกับกาแฟมะพร้าวชงสดๆ ที่ใช้น้ำกะทิคั้นสดไม่เกิน 4 ชั่วโมง รสชาติกลมกล่อม ดีต่อสุขภาพ ยิ่งจิบพร้อมกับขนมไทยใส่มะพร้าวฝีมือชาวบ้าน ยิ่งเข้ากันสุดๆ
“มาตะเคียนเตี้ยต้องกินแกงไก่กะลา ไม่เช่นนั้นถือว่ามาไม่ถึงตะเคียนเตี้ย”
“แกงไก่กะลา” เป็นเมนูที่นำส่วนเนื้อกะลามะพร้าวสัมผัสกรุบๆ มาผัดกับไก่บ้านนุ่มๆ เคล้าเครื่องแกงสูตรเฉพาะ และใส่กะเพรา 100 ปี สร้างความเผ็ดร้อน เพิ่มความอร่อยครบรสให้เมนูจานนี้ เสิร์ฟคู่กับอาหารพื้นบ้านอย่างน้ำพริกกุ้งสดไข่เค็ม ต้มหมูใบชะมวง และหากใครอยากได้สูตรแกงไก่กะลา ก็ไม่อยาก สวมผ้ากันเปื้อนมาลงมือทำคู่กับเชฟชุมชนได้เลย ไม่มีหวงสูตร หรือถ้าใครอยากกินอะไรเป็นพิเศษลองแจ้งทางเชฟดูก่อนได้น้า พูดได้คำเดียวว่าที่นี่อร่อยทุกอย่าง จนอยากจะกินทุกวันเลย
เมื่ออิ่มท้องแล้วก็มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านร้อยเสา บ้านแฝดโบราณที่มีเสากว่าร้อยต้นอยู่ภายในบ้าน โดยในปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ที่อยู่ข้ามกาลเวลาสะท้อนวิถีชีวิตของคนตะเคียนเตี้ยได้อย่างชัดเจน และยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมของชุมชน ที่ให้ผู้มาเยือนได้มาร่วมเรียนรู้กับกลุ่มแม่บ้าน ที่ใช้เวลาว่างจากงานสวนไร่นา มาทำการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อให้เกิดรายได้เสริมและกระจายรายได้สู่ประโยชน์ส่วนรวม
ซึ่งในศูนย์วัฒนธรรมมีกิจกรรมสนุกๆ รออยู่อีกเพียบ ทั้งทำกระเป๋าผ้าปังปังที่ปังสมชื่อ เพราะทุกคนจะได้เก็บดอกไม้ มาดีไซน์เป็นลายในสไตล์ของตัวเอง แล้วใช้ไม้ตีให้สีของดอกไม้ติดที่ตัวกระเป๋า ถ้าไม่ได้ซักล้าง สีก็จะติดทนได้นานหลายเดือน กิจกรรมนี้มีอุปกรณ์ให้ครบจบที่คนละ 50 บาทเท่านั้น
ต่อด้วยกิจกรรมทำพวงมโหตร เครื่องแขวนที่ทำมากจากกระดาษสีสันสดใส นำมาพับและตัดเป็นรูปต่างๆ นิยมใช้ตกแต่งวัด บ้านเรือน หรือใช้ในงานมงคล
มาโชว์ฝีมือประดิดประดอยอีกกิจกรรม กับการทำดอกกุหลาบใบเตย ที่สามารถนำไปไหว้พระ ตกแต่งบ้าน แต่งจานอาหาร หรือดับกลิ่นในรถ ในห้องน้ำก็ได้น้า
ใครปวดเมื่อยตัวต้องนี่เลย กัวซาภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้าน ที่บำบัดด้วยการขูดผิวหนัง เพื่อขับพิษในร่างกาย ทำให้รู้สึกสบายตัว
มาเปิดประสบการณ์เที่ยวชลบุรีที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่มาให้ธรรมชาติของมะพร้าวได้โอบกอดจนคุณรู้สึกสบายใจ และสำหรับใครที่สนใจอยากมาสัมผัสเสน่ห์ชุมชนตะเคียนเตี้ย แนะนำให้ติดต่อทางชุมชนล่วงหน้าซักนิดที่ คุณวันดี ประกอบธรรม โทร 098-412-1712 รับรองว่าวันหยุดนี้ของคุณจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน
แม้ช่วงนี้จะยังเที่ยวไม่ได้ แต่เก็บข้อมูลไว้ก่อน สถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไร เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วไปเที่ยวชุมชนกัน ชาวชุมชนรออยู่น้า
อย่าให้การไปเที่ยวจบลงแค่ภาพถ่าย ร่วมเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวไปกับเรา ได้ที่
https://www.facebook.com/CBT.DASTA