เชือดไม่เงียบ....เสียดาย
ล. วิลิศมาหรา
ฉันมองผู้ชายบนพื้นด้วยอารมณ์ขื่น ๆ
มันบอกไม่ถูกระหว่างอาลัยอาวรณ์หรือแค่กลัวความเหงา แค่กลัวที่จะต้องกลับมาโดดเดี่ยวอีกครั้ง...หรือทั้งสองอย่างนั่นแหละ แต่ช่างศีรษะมารดามันเถอะ ฉันชินเสียแล้ว!
ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ชั่วแล่นมันมักจะไม่ยืนยาว เราสองคนพบกันบนเส้นทางสายเปลี่ยว ฉันเหงา เขาก็เหงา เมื่อคนเหงามาเจอกัน
ความสัมพันธ์ของสองเราจึงรุดหน้าอย่างรวดเร็ว
เขารับอุปการะฉันไว้ในความดูแล ที่บ้านของเขาเอง จะในฐานะคู่ขาหรือคู่รัก ฉันเองก็ไม่แน่ใจนัก แต่อย่างที่บอก ฉันไม่ได้แคร์อะไรมากมาย กับคำว่ารัก แค่เขาทำให้ฉันหายเหงาได้ เท่านี้ก็เพียงพอ
และแล้วเขาก็กำลังจะจากฉันไป ทิ้งฉันไว้ตามสถานการณ์อันยากจะประเมิน เป็นเพราะโชคชะตา พระเจ้าหรือซาตานก็ตาม ที่ทำให้เหตุการณ์มันเกิดพลิกไปในด้านที่ฉันเองก็ไม่ทันจะคาดคิด แต่ก่อนจากกันไป เขายังอุตส่าห์ฝากความหวานทิ้งไว้...รสเสน่หาของเขายังคงซาบซ่านตราตรึง ติดอยู่ที่ริมฝีปากและผิวกาย ทุกซอกทุกมุมที่ฉันยอมให้เขาสัมผัส
...ลาก่อนพ่อยอดขมองอิ่ม...
มีเสียดายติดปลายอารมณ์นิดหน่อย เขาก็เข้าทีดีทีเดียว รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึนกำยำ หน้าตาหล่อเหลาพอใช้ได้ ฐานะไม่ถึงขั้นร่ำรวยแต่ก็มีกินมีใช้ ยอมช่วยเหลือฉันตอนลำบากเมื่อออกปากขอร้อง คุยสนุกตามสเปก ข้อเสียอย่างเดียวของเขาทำให้เราต้องจากกัน
เราจากกันง่ายดายเหมือนเมื่อตอนเราแรกเจอกัน ลืมไปเลยว่าตอนนั้นเราต่างตะลึงมองหน้ากัน ราวกับระลึกชาติได้ว่าเคยรักกันมาก่อน ต่อมาก็เกาะเกี่ยวกอดกระหวัดแนบชิด เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาล มาดึงมาดูดเราเข้าหากัน คล้ายชาตินี้จะไม่มีวันพรากจากกันไปไหนอีกเลย
ฉากรักระหว่างเราวันนี้ มันเร่าร้อน รุนแรง หักโหม กระแทกกระทั้น เมามัน ตามจังหวะเสียงเพลงเมทัลร็อคอันดุเดือด ที่ฉันโปรดปราน จนฉันเผลอกัดปากเขาเข้าไปทีหนึ่ง...และได้กลิ่นคาวเลือด
ยามนี้นัยน์ตาเบิกค้างของเขา จ้องมองมาที่ฉันเหมือนมีคำถาม เขาคงแปลกใจว่าฉันเปลี่ยนเป็นตัวอะไร แต่ฉันไม่มีคำตอบจะให้หรอก เพราะไม่มีประโยขน์จะอธิบายให้คนที่ตายไปแล้วฟัง เหตุผลข้อเดียวง่าย ๆ ก็คือ...เขาทำให้ฉันหิว
เขี้ยวแหลมยาวขาววับ ที่งอกออกจากมุมปากเวลาฉันหิว กัดริมฝีปากล่างขณะครุ่นคิด...ช่างประไร ในที่สุดฉันก็สรุป!
ผู้ชายคนที่กำลังจากไปเป็นคนที่เท่าไหร่แล้วในชีวิต ฉันกางมือออก คงเกินสิบ อาจมีตกหล่นบ้างที่ฉันลืมจดจำ นิ้วมืออาจไม่พอนับเลยทีเดียว ก็แล้วจะสนทำไม ไม่ได้จะเอาไปลงบันทึกในกินเนสบุคสักหน่อย
พรุ่งนี้ฉันก็จะมีคนใหม่ สะบัดหน้าไปเสียจากร่างไร้วิญญาณของเขา แสยะยิ้ม แลบลิ้นเลียรสหวานของเลือดสด ๆ ติดมุมปาก ที่รัก...ฉันประทับใจคุณไม่รู้ลืม
แวมไพร์สาวสวยอย่างฉันหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนได้ไม่ยากหรอก คนเดี๋ยวนี้ขี้เหงาจะตาย ถึงมีคู่แล้วก็ยังเหงา ไม่ได้ปลอบใจตัวเอง แต่ฉันมั่นใจ
ให้ถึงคืนพรุ่งนี้ก่อนเถอะ...
ค่ำคืน ผู้หญิงนั่งลำพังกับแก้วน้ำส้ม ก้มลงดูดโดยไม่จับหลอด แก้วต่อไปถึงค่อยสั่งเบียร์ สักพักเมื่อเก้าอี้ข้างกายฉันว่างอยู่นาน ใครบางคนจะเข้ามาทักทาย ถามคำถามเดิม ๆ ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า
ฉันจะตอบเขาไปว่าเรารู้จักกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว และหากเขาสนใจจะรับอุปการะฉันไว้ ฉันก็จะขอคำสัญญาจากเขาก่อนว่า ฉันมันคนขี้เหงา ชอบเสียงดนตรีดัง ๆ เวลาเรามีอะไรกัน!!
จบ.
ชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง เชือดไม่เงียบ....เสียดาย
ฉันมองผู้ชายบนพื้นด้วยอารมณ์ขื่น ๆ
มันบอกไม่ถูกระหว่างอาลัยอาวรณ์หรือแค่กลัวความเหงา แค่กลัวที่จะต้องกลับมาโดดเดี่ยวอีกครั้ง...หรือทั้งสองอย่างนั่นแหละ แต่ช่างศีรษะมารดามันเถอะ ฉันชินเสียแล้ว!
ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ชั่วแล่นมันมักจะไม่ยืนยาว เราสองคนพบกันบนเส้นทางสายเปลี่ยว ฉันเหงา เขาก็เหงา เมื่อคนเหงามาเจอกัน
ความสัมพันธ์ของสองเราจึงรุดหน้าอย่างรวดเร็ว
เขารับอุปการะฉันไว้ในความดูแล ที่บ้านของเขาเอง จะในฐานะคู่ขาหรือคู่รัก ฉันเองก็ไม่แน่ใจนัก แต่อย่างที่บอก ฉันไม่ได้แคร์อะไรมากมาย กับคำว่ารัก แค่เขาทำให้ฉันหายเหงาได้ เท่านี้ก็เพียงพอ
และแล้วเขาก็กำลังจะจากฉันไป ทิ้งฉันไว้ตามสถานการณ์อันยากจะประเมิน เป็นเพราะโชคชะตา พระเจ้าหรือซาตานก็ตาม ที่ทำให้เหตุการณ์มันเกิดพลิกไปในด้านที่ฉันเองก็ไม่ทันจะคาดคิด แต่ก่อนจากกันไป เขายังอุตส่าห์ฝากความหวานทิ้งไว้...รสเสน่หาของเขายังคงซาบซ่านตราตรึง ติดอยู่ที่ริมฝีปากและผิวกาย ทุกซอกทุกมุมที่ฉันยอมให้เขาสัมผัส
...ลาก่อนพ่อยอดขมองอิ่ม...
มีเสียดายติดปลายอารมณ์นิดหน่อย เขาก็เข้าทีดีทีเดียว รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึนกำยำ หน้าตาหล่อเหลาพอใช้ได้ ฐานะไม่ถึงขั้นร่ำรวยแต่ก็มีกินมีใช้ ยอมช่วยเหลือฉันตอนลำบากเมื่อออกปากขอร้อง คุยสนุกตามสเปก ข้อเสียอย่างเดียวของเขาทำให้เราต้องจากกัน
เราจากกันง่ายดายเหมือนเมื่อตอนเราแรกเจอกัน ลืมไปเลยว่าตอนนั้นเราต่างตะลึงมองหน้ากัน ราวกับระลึกชาติได้ว่าเคยรักกันมาก่อน ต่อมาก็เกาะเกี่ยวกอดกระหวัดแนบชิด เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาล มาดึงมาดูดเราเข้าหากัน คล้ายชาตินี้จะไม่มีวันพรากจากกันไปไหนอีกเลย
ฉากรักระหว่างเราวันนี้ มันเร่าร้อน รุนแรง หักโหม กระแทกกระทั้น เมามัน ตามจังหวะเสียงเพลงเมทัลร็อคอันดุเดือด ที่ฉันโปรดปราน จนฉันเผลอกัดปากเขาเข้าไปทีหนึ่ง...และได้กลิ่นคาวเลือด
ยามนี้นัยน์ตาเบิกค้างของเขา จ้องมองมาที่ฉันเหมือนมีคำถาม เขาคงแปลกใจว่าฉันเปลี่ยนเป็นตัวอะไร แต่ฉันไม่มีคำตอบจะให้หรอก เพราะไม่มีประโยขน์จะอธิบายให้คนที่ตายไปแล้วฟัง เหตุผลข้อเดียวง่าย ๆ ก็คือ...เขาทำให้ฉันหิว
เขี้ยวแหลมยาวขาววับ ที่งอกออกจากมุมปากเวลาฉันหิว กัดริมฝีปากล่างขณะครุ่นคิด...ช่างประไร ในที่สุดฉันก็สรุป!
ผู้ชายคนที่กำลังจากไปเป็นคนที่เท่าไหร่แล้วในชีวิต ฉันกางมือออก คงเกินสิบ อาจมีตกหล่นบ้างที่ฉันลืมจดจำ นิ้วมืออาจไม่พอนับเลยทีเดียว ก็แล้วจะสนทำไม ไม่ได้จะเอาไปลงบันทึกในกินเนสบุคสักหน่อย
พรุ่งนี้ฉันก็จะมีคนใหม่ สะบัดหน้าไปเสียจากร่างไร้วิญญาณของเขา แสยะยิ้ม แลบลิ้นเลียรสหวานของเลือดสด ๆ ติดมุมปาก ที่รัก...ฉันประทับใจคุณไม่รู้ลืม
แวมไพร์สาวสวยอย่างฉันหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนได้ไม่ยากหรอก คนเดี๋ยวนี้ขี้เหงาจะตาย ถึงมีคู่แล้วก็ยังเหงา ไม่ได้ปลอบใจตัวเอง แต่ฉันมั่นใจ
ให้ถึงคืนพรุ่งนี้ก่อนเถอะ...
ค่ำคืน ผู้หญิงนั่งลำพังกับแก้วน้ำส้ม ก้มลงดูดโดยไม่จับหลอด แก้วต่อไปถึงค่อยสั่งเบียร์ สักพักเมื่อเก้าอี้ข้างกายฉันว่างอยู่นาน ใครบางคนจะเข้ามาทักทาย ถามคำถามเดิม ๆ ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า
ฉันจะตอบเขาไปว่าเรารู้จักกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว และหากเขาสนใจจะรับอุปการะฉันไว้ ฉันก็จะขอคำสัญญาจากเขาก่อนว่า ฉันมันคนขี้เหงา ชอบเสียงดนตรีดัง ๆ เวลาเรามีอะไรกัน!!
จบ.