And they live happily everafter
ถ้าเป็นเทพนิยายนี่คือบทจบ แต่สำหรับคุณพระกับอนงค์ นี่คือบทเริ่มสู่การเดินทางครั้งใหม่ของชีวิต ที่ตรังมันคือความรักของคนสองคน ที่ผ่านบททดสอบ ผ่านความเข้าใจจนกระทั่งสุกงอม คุณพระและอนงค์ต่างตระหนักว่าความรักที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หาใช่สิ่งฉาบฉวย กว่าจะสนิทสนมไม่ใช่เพียงคนรู้จักก็ราวครึ่งปี กว่าจะรู้ใจก็หลายจากนั้นอีกหลายเดือน และ กว่าจะรับรัก กว่าความรู้สึกจะมั่นคงจนเอ่ยปากขอแต่งงาน เป็นระยะเวลาที่ใช้กระบวนการ ผ่านสุข เศร้า ร้อนหนาวทุกข์ใจเสียใจ ตกผลึกซึ่งกันและกัน .... สองคน
หากในสายตาคุณพระหากความรักครั้งนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวมันย่อมไม่ลึกซึ้งบริบูรณ์อย่างที่ตัวเองตั้งใจ จึงอยากจะทำให้เห็นว่าอนงค์เลือกผู้ขายไม่ผิดคน ดังนั้นด่านต่อไปก็เป็นครอบครัว ทั้งบ้านฉัน และ บ้านเธอ
เริ่มกันที่ "บ้านเธอ" ดูเหมือนจะยากแต่ก็ไม่เชิงยาก พี่ชายทุกคนล้วนกลุ้มรุม ว่าทำไมอนงค์ถึงไปเลือกคนอย่างวิชัยเข้าได้ เหล่าพี่ชายวัยหนุ่ม แต่ละคนดูพร้อมจะฉีกเนื้อคุณพระอรรถคดีวิชัยให้เป็นชิ้น ๆ แต่สำหรับพี่ ๆ อะไรก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับน้องสาว โทรเลขที่ส่งมา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้รู้ไว้ว่ารัก ราวกับหนังสือสั่งลา เท่านั้นเองที่อนงค์แปลบไปทั้งหัวใจ คนเป็นพี่ต่อให้รี ๆ ขวาง ๆ อย่างไร แต่กับน้องสาวคนเล็ก แม้แต่ดาวแต่เดือนก็พร้อมจะสอยมาให้ แค่ผู้ชายคนเดียว ทำไมถึงจะเกี่ยวกลับมาไม่ได้ คำสั่งของพี่ชายคนโดคือลงใต้ไปเอาตัวมาไม่ว่าเป็นหรือตาย
ต่อมาเพื่อพบว่าคุณพระรอด รอดกลับมาก็เปล่าไม่เข้าบ้านตัวเอง เข้าบ้านผู้หญิง (นะ) ความรักที่แสดงออกล้นจากจิตจากใจ ไม่เคลือบแตลง ไม่ตั้งแง่ ไม่มี self doubt เหล่าพี่ชายก็ตีรวน ก็แน่ละ ไม่เชือดเนื้อเถือหนัง แหกอกเขาไว้แยะ จะผุกใจเจ็บก็ไม่แปลก แต่เรื่องมันจบลงง่าย ผู้ชายไม่ได้คิดมาก ความแค้นจะกว่าหนักเท่าขุนเขา หรือ เบากว่าปุยนุ่นก็ใช่ เริ่มแรกมันก็แค้นทลายอีโก้เขาไว้ แต่ก็ขอแค่เอาคืนแสบ ๆ คัน ๆ เพราะ สุดท้ายมันก็เพื่อนเรา ถอดอีโก้ลงก็รู้แต่ใจจะมีใครเอาน้องสาวเราอยู่ มองทั่วพระนครเห็นจะมีแค่คนเดียว
ที่แกล้งให้ไปเอาที่ในร้าน แต่ก็พลอยเปิดตัวว่าน้องเขย ต่อให้หน้างานเคยขวาง ๆ ยังไง เหล้าเข้าปากสุดท้ายก็คนกันเอง (แต่อย่าเผลอทำให้น้องเสียใจแล้วกัน บ้านสุนทรพงศ์พร้อมดีดตัวปัญหาออกไปแต่แรกอยู่แล้ว) ตัวคุณพระไม่ได้ซื่อแต่เป็นคนตรง ก็เป็นสมพงศ์ที่รู้จักเพื่อนดิบดี ปัญหางูกินหาง สะมะลิงกิงกอง สะมะลองกองแกง ไม่ว่าจะหมากฝรั่งในร้องเท้า กระบอกเพชร กระทั่งนกของท่านนายพลที่พูดคำหยาบ ทุกอย่างล้วนพุ่งมาที่คุณพระอรรถคดีวิชัย ที่นั่งอยู่บนภูรับเงินคนละแสนสองแสน รวมกันอาจจะเท่าสินสอดพอดีไม่ต้องเสียเองซักบาทนี่งะ ไม่ได้ซื่อ แค่ตรงเฉย ๆ สุดท้ายด้วยความฉลาดไม่วายก็ได้พวกอยู่ดีนั่นแหละ
บ้านสุนทรพงศ์ไม่ต้องเล่นท่ายาก ที่ยากจริง คือ บ้านฉัน บ้านตัวเองนี่แหละ คุณนายชื่นแก่พรรษาไม่ได้แก่กระโหลกกะลา แถมเป็นไทป์แก้วมังกร red หนึ่ง เม็ดอีกหนึ่ง เจอกับว่าที่ลูกสะใภ้ใหญ่ก็สมน้ำสมเนื้อ เครื่องด่าแห่งพระนคร ปะทะ สาวน้อยปากแซ่บ ที่จันทรนึกชมว่าเป็นคู่ตุนาหงันโดยแท้ มีอนงค์อยู่ช่วยต่อกรไม่ให้คุณพระต้องเสียเปรียบ อาจจะแถมเครื่องด่าฝ่ายชายอย่างสมพงศ์มาปราบแม่ย่าพันธุ์แก้วมังกรด้วยอีกคน แต่ก็อย่างที่บอกแก่พรรษาไม่ได้แก่กระโหลกกะลา ดังนั้นแม่ย่าเองก็คงต้องมีแผนอะไรอยู่ข้างใน ด้วยเลนส์ที่มองอนงค์ไม่ชอบใจ และ กลัวจับจิตว่าเคสนี้จะเป็น เมีย before แม่
ไม่มีใครยอมลงให้กันได้ตลอด แม่ย่าว่า แต่ใครจะรู้ดีเท่าสองคนนั้น ในเมื่อแม่มองด้วยเลนส์แห่งความไม่ยอมรับ แม่ชื่นถึงไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งที่คู่นี้ตกลงกันอยู่ตลอด คือ ความสบายใจของกันและกัน ไม่เคยมีใครยอมลงให้ใครเพียงฝ่ายเดียว มีแต่การพร้อมจะยอมลงให้กัน และ มองกันอย่างรอบทิศรอบด้าน รวบเอาทุกอย่างแม้กระทั่งครอบครัวมาร่วมคิด และ หาทางออกซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีเยี่ยมในการมีชีวิตคู่
สิ่งที่แทงใจดำแม่ของ "บ้านฉัน"
คือ คำที่ลูกชายคนโต คนที่ไม่เคยพูดหรือขออะไรบอกว่า
มีอะไรให้พูดกันตรง ๆ อย่าเสี้ยม อย่าลับหลัง
ชีวิตแต่งงานครั้งแรกล้มเหลว และ ผมไม่อยากล้มเหลวอีกครั้ง
ดวงตาสดใสในระยะหลัง ๆ รอยยิ้มการแสดงออกที่เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ
ไม่มีแม่คนไหนไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือความสุขของลูก
คุณนายชื่นจะตัดสินใจอย่างไร .... ใคร่ติดตาม
หนึ่งในร้อย ตอนที่ 16 (รีวิว) : Everafter