สวัสดีครับ กระทู้นี้ถือว่าเป็นกระทู้แรกของผมในการรีวิว เพราะด้วยตัวผมเองเคยอ่านรีวิวจากพี่คนนึ่งที่รีวิวเรื่องห้องพักของโรงพยาบาลกรุงเทพมานานแล้ว
และคิดว่าอยากเห็นรัวิวห้องพักระดับอื่นๆด้วย แต่หาไม่เจอเลย พอผมมีโอกาสเลยอยากจะขอมาแชร์ประสบการณ์ด้วยคนนะครับ
ถ้าเขียนไม่ดีต้องขออภัยมา ณ ตรงนี้ด้วยนะครับ (ผมย่อรูปไม่เป็นนะครับ ขอโทษด้วยจริงๆ)
การไปนอนรักษาตัวในครั้งนี้เกิดจากมีอาการปวดเมื่อยตามตัวมากๆ แถมตัวร้อนมีไข้อีก 38.7 องศา และมีอาการหนาวสั่นมือเท้าเย็นมาก ทำให้คนคุณสั่ง
แอดมิทในทันที แต่กว่าจะได้ขึ้นห้องคุณหมอต้องสั่งตรวจโควิทก่อน เจาะเลือดเยอะแยะไปหมด (อันนี้ดีนะครับ) พอตรวจเสร็จก็นอนรอห้อง
พอได้ห้องแล้ว ทางโรงพยาบาลเอารถตู้สำหรับกันโควิทมารับให้ไปตึก BIH ชั้น 5 ชั้นสำหรับรอผลโควิท 1 คืน เห็นคุณพยาบาลบอกว่าเป็นห้อง Standard
แต่ไม่รู้จริงหรือเปล่านะครับ ห้องสวยดี เข้าไปในห้องนึกว่ามาพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว ป่วยแบบฟิน ^_^
ถึงจะป่วย ก็ไม่ลืมถ่ายรูปมาเพื่อส่งให้แฟนดู และเผื่อจะมารีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ
อาหารสำหรับห้องนี้ทางโรงพยาบาลบริหารจัดการค่อนข้างดีครับ ให้แบบ TakeAway เพื่อที่ใช้แล้วทิ้งได้ง่าย กันเชื้อโควิทแพร่กระจาย
พอวันรุ่งขึ้นผลออกมาว่าไม่ได้เป็นโควิท คุณหมอก็ให้ผมออกจากชั้นนี้ ไปห้องปกติที่มีญาติมาเยี่ยมได้เพราะห้องนี้ห้ามมีคนมาเยี่ยมเลยครับ (เหงา)
ผมคุณหมอบอกว่าให้ย้ายห้อง ผมก็มีรีรอรีบขอห้องในระดับ Elite ทันที แต่ด้วยผมเพิ่งใช้ประกันของ FWD ครั้งแรกเลยไม่กล้าออกตัวแรงไปห้องระดับ
120,000 -150,000 บาทต่อคืน เอาแค่ห้อง Elite Rajavadee ตกคืนล่ะ 70,000 บาท เพราะตอนนั้นคิดว่าถ้าพลาดท่ายังไง เราก็พอจ่ายเองได้
**** สำหรับคนที่จะมาพักชั้น Elite จำเป็นที่ต้องแจ้งทางเจ้าหน้าที่แอดมิทดีๆนะครับ เพราะตอนที่ผมแจ้งน้องเค้า ดูน้องเค้า งงๆ ไม่รู้จักนะครับ
ผมต้องโทรไปหาแอดมิทของ BIH เองว่าจะอยู่ห้องนี้เค้าถึงจะดำเนินการประสานต่อให้ได้ เพราะถ้าโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ไม่ใช่ Bangkok International Hospital (BIH) เค้าจะดู งงๆ ไม่เข้าใจที่เราพูดเลยครับ ****
ซึ่งพอผมได้ย้ายไปห้อง Elite Rajavadee ผมก็ฟินเต็มที่ครับ ห้องใหญ่มาก เตียงผู้ป่วยก็นิ่มพอดีสบายตัว พยาบาลก็ดูแลดีมากๆครับ และที่สำคัญ
ห้องนี้ก็มี Butler ให้ด้วยนะครับ ดูแลเราดีมากๆ ดีจนผมเกรงใจน้องๆเค้าเลย อยากได้อะไร อยากทานอะไรน้องเค้าช่วยดูช่วยประสานให้ แถมยังมาช่วย
ปลอกผลไม้ให้ด้วย
รูปนี้ถ่ายตรงประตูทางเข้านะครับ จะเจอโซฟาให้นั่งเล่นตัวเล็ก ๆ 1 ตัว นิ่มมากนั่งสบาย แล้วเตียงผู้ป่วยที่นิ่มกำลังดีและมีหมอนและผ้าห่มที่นุ่มสบาย
แถมห้องสะอาดมากๆครับ
ส่วนตรงนี้จะเป็นบาร์หลังทีวีครับ มีกาแฟ ชา และน้ำที่ให้แบบเยอะมากๆ เยอะแบบจุกๆ แถมมีขนมจากโครงการหลวงด้วยขอได้ไม่อั้นเลยครับ
แฟนผมชอบมากๆเลย มาเฝ้าไข้รอบนี้เพลินเลย
มาดูในห้องน้ำกันบ้างนะครับ ในห้องนี้จะมี 2 ห้องน้ำนะครับ
ห้องน้ำใหญ่ กว้างมากๆเลย ใหญ่กว่าห้องที่นอนคืนแรกพอสมควรเลย แถมมีชุดให้เปลี่ยนได้เรื่อยๆ แถมชุดผู้ป่วยก็นิ่มใส่สบายตัว
สรุปไม่รู้ว่ามาเที่ยวหรือมารักษาตัวนะครับเนี่ย แปลกใจตัวเองที่ป่วยแท้ๆ แต่ร่าเริงได้
รูปนี้คือ ผมถ่ายตอนที่ผมให้ทางโรงพยาบาล Set เตียงเสริมให้แฟน คิดคืนล่ะ 300 บาท ได้ที่นอนนิ่มสบาย หมอน ผ้าห่ม หมอนข้างที่นิ่มกำลังดีมาให้ด้วย
มาทางห้องรับแขกกันบ้างนะครับ ห้องค่อนข้างกว้างกำลังดี และมีประตูกั้นสำหรับกันรบกวนผู้ป่วยด้วยนะครับ กันเสียงดีมากๆเลยครับ
ห้องรับแขกเองก็จะมีชุดชา กาแฟ และน้ำให้ด้วยนะครับ เยอะแบบจุกๆ ขอได้ไม่อั้น และมีไมโครเวฟให้ทั้ง 2 ห้องเลย สะดวกสบายมากๆ
ห้องน้ำห้องที่ 2 ในห้องรับแขกนะครับ สามารถอาบน้ำได้ด้วย
ของใช้ของห้องนี้ เค้าใช้ของ PANPURI นะครับ ห้อมดีชอบมากๆ ขอได้ไม่อั้นอีกเช่นกัน ของที่นี่เติมได้เรื่อยๆเลยนะครับ
มาต่อกันที่อาหาร ผมขอใส่รูปมารัวๆนะครับ ถ่ายมาไม่ครบทุกมื้อนะครับ แต่บอกได้คำเดียวว่าทุกมื้อจัดเต็มมากครับ อื่มมากๆ
น่ารับประทานมากเลย แถมรสชาตก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ แถมยังมี Afternoon Tea ด้วย ทำให้ทั้งวันไม่รู้จักคำว่าหิวเลย
อ้อ ลืมบอกไป อาหารที่นี่ก็จัดมาให้คนเฝ้าด้วยนะครับ มีเมนูให้เลือก ไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น ได้เต็มที่ครับทั้งของผู้ป่วยและคนเฝ้าคนล่ะ set เลยครับ
สุดท้ายนี้ส่วนตัวผม ตอนที่รักษาตัวอยู่นั้นก็มีอาการเบื่ออาหารนะครับ สั่งๆไปงั้น แต่พออาหารมาทานหมดทุกจานครับ แหะๆ ทานเก่งเป็นทุนเดิมครับ
สุดท้ายนี้ผมต้องขออภัยอีกครั้งถ้าการรีวิวครั้งนี้เรื่องเล่าไม่ดีนะครับ ไม่เคยรีวิวจริงๆ แถมลดขนาดรูปไม่เป็นด้วยขอโทษด้วยครับ
และขอสรุปสำหรับการเบิกประกันนะครับ ผมใช้ประกัน 2 ที่นะครับ แต่ตัวแรกมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายนิดหน่อยจ่ายให้ไม่ทุกวันที่ทำการรักษาใช้เวลา
ในการอนุมัตินานมากตั้งแต่ 9:00 โมงเช้าถึง 13:34 น. แต่ตัวที่สองของ FWD การอนุมัติง่ายและเร็วมาก 20 นาทีเอง แถมจ่ายเยอะกว่าด้วยเพราะของ
FWD ผมใช้แบบเหมาจ่าย แบบไม่จำกัดค่าห้อง (ผมใช้ประกันเหมาจ่ายทั้ง 2 อันนะครับ)
ส่วนอันแรกผมขอไม่บอกบริษัทนะครับ เดี๋ยวงานจะเข้าผม ^_^ แต่ว่าเดี๋ยวเร็วๆนี้ผมจะยกเลิกอันแรกแล้ว ไม่ไหวจะเคลียร์
update นะครับ สำหรับคนที่อยากจะลองคุยกับตัวแทนของผม หลังไมค์นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/vrfwd อันนี้เฟสเค้านะ
[CR] รีวิว ห้องพักโรงพยาบาลกรุงเทพ ห้อง Elite Rajavadee
และคิดว่าอยากเห็นรัวิวห้องพักระดับอื่นๆด้วย แต่หาไม่เจอเลย พอผมมีโอกาสเลยอยากจะขอมาแชร์ประสบการณ์ด้วยคนนะครับ
ถ้าเขียนไม่ดีต้องขออภัยมา ณ ตรงนี้ด้วยนะครับ (ผมย่อรูปไม่เป็นนะครับ ขอโทษด้วยจริงๆ)
การไปนอนรักษาตัวในครั้งนี้เกิดจากมีอาการปวดเมื่อยตามตัวมากๆ แถมตัวร้อนมีไข้อีก 38.7 องศา และมีอาการหนาวสั่นมือเท้าเย็นมาก ทำให้คนคุณสั่ง
แอดมิทในทันที แต่กว่าจะได้ขึ้นห้องคุณหมอต้องสั่งตรวจโควิทก่อน เจาะเลือดเยอะแยะไปหมด (อันนี้ดีนะครับ) พอตรวจเสร็จก็นอนรอห้อง
พอได้ห้องแล้ว ทางโรงพยาบาลเอารถตู้สำหรับกันโควิทมารับให้ไปตึก BIH ชั้น 5 ชั้นสำหรับรอผลโควิท 1 คืน เห็นคุณพยาบาลบอกว่าเป็นห้อง Standard
แต่ไม่รู้จริงหรือเปล่านะครับ ห้องสวยดี เข้าไปในห้องนึกว่ามาพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว ป่วยแบบฟิน ^_^
ถึงจะป่วย ก็ไม่ลืมถ่ายรูปมาเพื่อส่งให้แฟนดู และเผื่อจะมารีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ
อาหารสำหรับห้องนี้ทางโรงพยาบาลบริหารจัดการค่อนข้างดีครับ ให้แบบ TakeAway เพื่อที่ใช้แล้วทิ้งได้ง่าย กันเชื้อโควิทแพร่กระจาย
พอวันรุ่งขึ้นผลออกมาว่าไม่ได้เป็นโควิท คุณหมอก็ให้ผมออกจากชั้นนี้ ไปห้องปกติที่มีญาติมาเยี่ยมได้เพราะห้องนี้ห้ามมีคนมาเยี่ยมเลยครับ (เหงา)
ผมคุณหมอบอกว่าให้ย้ายห้อง ผมก็มีรีรอรีบขอห้องในระดับ Elite ทันที แต่ด้วยผมเพิ่งใช้ประกันของ FWD ครั้งแรกเลยไม่กล้าออกตัวแรงไปห้องระดับ
120,000 -150,000 บาทต่อคืน เอาแค่ห้อง Elite Rajavadee ตกคืนล่ะ 70,000 บาท เพราะตอนนั้นคิดว่าถ้าพลาดท่ายังไง เราก็พอจ่ายเองได้
**** สำหรับคนที่จะมาพักชั้น Elite จำเป็นที่ต้องแจ้งทางเจ้าหน้าที่แอดมิทดีๆนะครับ เพราะตอนที่ผมแจ้งน้องเค้า ดูน้องเค้า งงๆ ไม่รู้จักนะครับ
ผมต้องโทรไปหาแอดมิทของ BIH เองว่าจะอยู่ห้องนี้เค้าถึงจะดำเนินการประสานต่อให้ได้ เพราะถ้าโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ไม่ใช่ Bangkok International Hospital (BIH) เค้าจะดู งงๆ ไม่เข้าใจที่เราพูดเลยครับ ****
ซึ่งพอผมได้ย้ายไปห้อง Elite Rajavadee ผมก็ฟินเต็มที่ครับ ห้องใหญ่มาก เตียงผู้ป่วยก็นิ่มพอดีสบายตัว พยาบาลก็ดูแลดีมากๆครับ และที่สำคัญ
ห้องนี้ก็มี Butler ให้ด้วยนะครับ ดูแลเราดีมากๆ ดีจนผมเกรงใจน้องๆเค้าเลย อยากได้อะไร อยากทานอะไรน้องเค้าช่วยดูช่วยประสานให้ แถมยังมาช่วย
ปลอกผลไม้ให้ด้วย
รูปนี้ถ่ายตรงประตูทางเข้านะครับ จะเจอโซฟาให้นั่งเล่นตัวเล็ก ๆ 1 ตัว นิ่มมากนั่งสบาย แล้วเตียงผู้ป่วยที่นิ่มกำลังดีและมีหมอนและผ้าห่มที่นุ่มสบาย
แถมห้องสะอาดมากๆครับ
ส่วนตรงนี้จะเป็นบาร์หลังทีวีครับ มีกาแฟ ชา และน้ำที่ให้แบบเยอะมากๆ เยอะแบบจุกๆ แถมมีขนมจากโครงการหลวงด้วยขอได้ไม่อั้นเลยครับ
แฟนผมชอบมากๆเลย มาเฝ้าไข้รอบนี้เพลินเลย
มาดูในห้องน้ำกันบ้างนะครับ ในห้องนี้จะมี 2 ห้องน้ำนะครับ
ห้องน้ำใหญ่ กว้างมากๆเลย ใหญ่กว่าห้องที่นอนคืนแรกพอสมควรเลย แถมมีชุดให้เปลี่ยนได้เรื่อยๆ แถมชุดผู้ป่วยก็นิ่มใส่สบายตัว
สรุปไม่รู้ว่ามาเที่ยวหรือมารักษาตัวนะครับเนี่ย แปลกใจตัวเองที่ป่วยแท้ๆ แต่ร่าเริงได้
รูปนี้คือ ผมถ่ายตอนที่ผมให้ทางโรงพยาบาล Set เตียงเสริมให้แฟน คิดคืนล่ะ 300 บาท ได้ที่นอนนิ่มสบาย หมอน ผ้าห่ม หมอนข้างที่นิ่มกำลังดีมาให้ด้วย
มาทางห้องรับแขกกันบ้างนะครับ ห้องค่อนข้างกว้างกำลังดี และมีประตูกั้นสำหรับกันรบกวนผู้ป่วยด้วยนะครับ กันเสียงดีมากๆเลยครับ
ห้องรับแขกเองก็จะมีชุดชา กาแฟ และน้ำให้ด้วยนะครับ เยอะแบบจุกๆ ขอได้ไม่อั้น และมีไมโครเวฟให้ทั้ง 2 ห้องเลย สะดวกสบายมากๆ
ห้องน้ำห้องที่ 2 ในห้องรับแขกนะครับ สามารถอาบน้ำได้ด้วย
ของใช้ของห้องนี้ เค้าใช้ของ PANPURI นะครับ ห้อมดีชอบมากๆ ขอได้ไม่อั้นอีกเช่นกัน ของที่นี่เติมได้เรื่อยๆเลยนะครับ
มาต่อกันที่อาหาร ผมขอใส่รูปมารัวๆนะครับ ถ่ายมาไม่ครบทุกมื้อนะครับ แต่บอกได้คำเดียวว่าทุกมื้อจัดเต็มมากครับ อื่มมากๆ
น่ารับประทานมากเลย แถมรสชาตก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ แถมยังมี Afternoon Tea ด้วย ทำให้ทั้งวันไม่รู้จักคำว่าหิวเลย
อ้อ ลืมบอกไป อาหารที่นี่ก็จัดมาให้คนเฝ้าด้วยนะครับ มีเมนูให้เลือก ไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น ได้เต็มที่ครับทั้งของผู้ป่วยและคนเฝ้าคนล่ะ set เลยครับ
สุดท้ายนี้ส่วนตัวผม ตอนที่รักษาตัวอยู่นั้นก็มีอาการเบื่ออาหารนะครับ สั่งๆไปงั้น แต่พออาหารมาทานหมดทุกจานครับ แหะๆ ทานเก่งเป็นทุนเดิมครับ
สุดท้ายนี้ผมต้องขออภัยอีกครั้งถ้าการรีวิวครั้งนี้เรื่องเล่าไม่ดีนะครับ ไม่เคยรีวิวจริงๆ แถมลดขนาดรูปไม่เป็นด้วยขอโทษด้วยครับ
และขอสรุปสำหรับการเบิกประกันนะครับ ผมใช้ประกัน 2 ที่นะครับ แต่ตัวแรกมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายนิดหน่อยจ่ายให้ไม่ทุกวันที่ทำการรักษาใช้เวลา
ในการอนุมัตินานมากตั้งแต่ 9:00 โมงเช้าถึง 13:34 น. แต่ตัวที่สองของ FWD การอนุมัติง่ายและเร็วมาก 20 นาทีเอง แถมจ่ายเยอะกว่าด้วยเพราะของ
FWD ผมใช้แบบเหมาจ่าย แบบไม่จำกัดค่าห้อง (ผมใช้ประกันเหมาจ่ายทั้ง 2 อันนะครับ)
ส่วนอันแรกผมขอไม่บอกบริษัทนะครับ เดี๋ยวงานจะเข้าผม ^_^ แต่ว่าเดี๋ยวเร็วๆนี้ผมจะยกเลิกอันแรกแล้ว ไม่ไหวจะเคลียร์
update นะครับ สำหรับคนที่อยากจะลองคุยกับตัวแทนของผม หลังไมค์นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้