อรุณสวสัดิ์ เช้าวันที่ 05/12/2563 วันที่ 8 และ วันสุดท้ายของทริป แต่ยังไม่ท้ายสุดของการเดินทางทริปนี้
ตื่นกันเช้านิดนึง ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ “สะพานรัษฎาภิเศก” หรือ “สะพานขาว” แลนด์มาร์กของเมืองลำปาง



รอจนสายได้เวลาไปเดินตลาด หาเสบียงมื้อเช้า เหตุเพราะร้านอาหารที่วางแผนไปทานมื้อเช้า (เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน) ปิด
ระหว่างเดินหันไปเห็นปีที่กำกับเสาสะพาน อายุสะพานก็เกือบ 104 ปีแล้วหรือนี้
 


เดินตลาดได้เสบียงมื้อเช้ามาไม่มาก เพราะทางที่พัก มีมื้อเช้าให้ทานอีกนิดหน่อย ก็อิ่มกันไปได้ 1 มื้อ



หลังมื้อเช้า เก็บของ เช็คเอาท์ เป็นอีก 1 ที่พักของทริป ที่จัดสถานที่ได้น่ารักมาก ชอบๆ



ออกจากที่พัก น้องตูน พามาแวะ วัดไชยมงคล(จองคา) วัดที่ 16 ของทริป
วัดที่ไม่เหมือนวัด วิหารหรือจองเป็นอาคาร 2 ชั้น หลังคาเป็นเครื่องไม้ทรงจั่วซ้อนชั้นแบบพม่า
อาคารบ่งบอกถึงความเก่า จากข้อมูล กล่าวไว้ว่า
เมื่อปีพ.ศ. 2420 คหบดีชาวพม่าก่อตั้งศาสนสถานขึ้นในที่ดินรกร้างที่มีหญ้าคาขึ้นอยู่มาก จึงเรียกชื่อว่า สำนักสงฆ์จองคา




ด้านในวิหาร มี เทพทันใจ และ องค์พระประธาน งดงามแปลกตา
พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย เนื้อสำริด นำมาจากเมืองมัณฑะเลย์เมื่อพ.ศ. 2450
พระประธาน มีนามว่า พระพุทธไชยมงคล ประดิษฐานบนฐานชุกชี รายล้อมด้วยรูปพระสาวก



มาต่อกันที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดที่ 17 ของทริป
บริเวณวัดกว้างมาก มีหลายอาคาร หลายวิหารให้เยี่ยมชม
มีคนนำไม้ง่ามมาค้ำยันกิ่งต้นโพธิ์ เรียกว่า“ไม้ค้ำโพธิ์” หรือ “ไม้ค้ำสะหลี” ซึ่งเป็นการค้ำยันกิ่งไม่ให้ล้ม และ 
ยังมีความหมายไปถึงการค้ำชูพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว อีกทั้งเชื่อกันว่ากุศลในการถวายไม้ค้ำโพธิ์จะช่วยคุ้มครองดวงชะตาให้เจริญขึ้น 
ไม่ตกต่ำ มีคนช่วยเหลือค้ำชูไปตลอด
ขอบคุณข้อมูลจาก FB วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง



องค์พระธาตุเจดีย์ งดงาม



มาแล้วต้องหาจุดชมเงาพระธาตุกลับหัว
สอบถามเจ้าหน้าที่วัด จะชม เงาพระธาตุหัวกลับได้ที่ไหน
พี่เขาบอกให้เข้าไปใน “มณฑปพระพุทธบาท” หรือ “ซุ้มพระพุทธบาท” หลังนี้ แล้วปิดประตู
เข้าไปคนเดียวก็กลัวๆ นิดๆ คุณภรรยาเข้าไม่ได้ ห้ามผู้หญิงขึ้น เหตุเพราะมณฑปได้สร้างครอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านล่างไว้
เมื่อปิดประตู ก็จะได้พบกับภาพพระธาตุกลับหัว ประมาณนี้ ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก สำหรับคนที่พบคนแรก



แวะวิหารหลวง วิหารโล่ง แบบล้านนายุคแรก หลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ภายในวิหารบรรจุมณฑปพระเจ้าล้านทอง




แวะกุฏิพระแก้ว เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต



ไปต่อกันที่ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน วัดที่ 18 ของทริป
วัดนี้สามารถขับรถ หรือ เดินขึ้นบันไดนาค 469 ขั้น มาบนยอดเขาได้
พระเจดีย์ เป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย



เข้าไปในองค์พระเจดีย์
พระธาตุสี่ครูบา อนุสรณ์ที่สร้างให้ 4 ครูบา ที่เป็นพี่น้องกัน 
คือ ครูบาพ่อเป็ง โพธิโก ครูบาอินทจักรรักษา ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก และ ครูบาคัมภีระ
ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ



ออกจากวัดมาทานมื้อเที่ยง ร้านป่าซางคอฟฟี่ ร้านร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ร้านเล็กๆ คนเยอะ แต่อาหารไว รสชาติใช้ได้



หลังมื้อกลางวัน แวะวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร วัดที่ 19 ของทริป
ลวดลายหน้าโบสถ์สวยมากๆ ภายในวิหาร องค์พระประธานงดงาม



มาต่อกันที่ วัดสันป่ายางหลวง วัดที่ 20 ของทริป
อีกวัดที่น้องตูนแนะนำให้แวะ วัดนี้เด่นเรื่องลวดลายปูนปั้นแบบนูน งดงามมาก



ออกจากวัด เราก็ตรงเข้าที่พัก เดอ ลานนา ที่เชียงใหม่ อีก 1 โรงแรมสวย เข้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
คุยกันว่าขอตัดโปรแกรม วัดเจ็ดยอด วัดอุโมงค์ ออก เนื่องจากข่าว โควิด
มานั่งพัก คุยกัน กินขนมที่ซื้อมากัน ให้เพื่อนแซมและภรรยา อาบน้ำ เตรียมตัว บินกลับกทม. คืนนี้



ตกเย็นแวะวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดที่ 21 ของทริป
วัดนี้เป็นวัดประจำคนเกิด ปีมะโรง
สมาชิกในทริปหลายคนเกิดปีมะโรง เลยขอแวะ แม้จะกลัวๆ โควิด
วันที่ไปมีพิธีใหญ่ ได้เข้าไปร่วมพิธี ในโบสถ์ที่ประดิษฐาน พระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) ครู่หนึ่ง




ออกจากวัดตรงเข้าสนามบิน ส่งเพื่อนแซมกับภรรยา กลับกทม.



ส่งเพื่อนเสร็จก็กลับเข้าโรงแรม วันนี้งดมื้อเย็น เพราะอิ่มขนม ที่ช่วยกันเคลียร์เมื่อตอนเย็น



พรุ่งนี้สบายๆ ไม่ต้องตื่นเช้ามาก มีเวลาอีกครึ่งวันก่อนบินกลับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ