ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบจังหวัดเชียงใหม่มาก ไม่มีจังหวัดใดที่ธรรมชาติและความเจริญ อยู่ห่างกันไม่ถึง 10 กม.ด้วยภูมิประเทศสวยงาม คนสุภาพ อากาศที่เย็นสบายกว่ากรุงเทพ ต้นไม้มาก ฤดูร้อน ในเวียงอากาศเกือบ 40 องศา แต่บนดอยปุยยังเย็นเหมือนติดแอร์
ถึงแม้จะมีปัญหา PM 2.5 แต่ก็แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ค่าครองชีพที่ต่ำกว่า และไม่น่าเชื่อว่า ผมได้เสื้อผ้าเท่ๆ กระเป๋าหล่อ ที่กาดหน้า มช.
ในทุกครั้งที่ขึ้นไป เพราะเหมือนคัดมาให้แล้ว ใส่แล้วพอดีหุ่น เสื้อสวยกว่าที่กรุงเทพ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สวนสาธารณะออกกำลังกาย
เต็มเมืองไปหมด
ร้าน iberry ผมไปครั้งแรกจำได้เลย มีต้นลิ้นจี่ต้นใหญ่อยู่หน้าร้าน ไปกินไอติมกับเซท เบอร์เกอร์ เฟรนฟราย 250 บาท
นั่งได้ทั้งวัน อากาศช่วง ธันวาคมที่เชียงใหม่ ทั้งเย็น และสดชื่น ไม่ได้แห้งแสบจมูกเหมือนหน้าหนาวที่กรุงเทพ แดดอ่อนๆ รำไรใต้ต้นลิ้นจี่
อยู่กรุงเทพ ด้วยพื้นฐานที่มีผู้คนอาศัย เข้ามามาก แม้ว่าในภาวะโควิด ก็ยังพอทำเนาไปได้ ยังพอหากินได้ แต่เชียงใหม่เมืองอันดับ 2
ที่ประชากรน้อยกว่า และพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก เลยได้รับผลกระทบเต็มๆ ถึงแม้จะเปิดประเทศได้ในอนาคต ก็ไม่แน่ใจว่ายังมี นทท.
กลับมาเหมือนเดิมไหม ได้ข่าวว่าหลังจากนี้ จีนคงไม่ปล่อยให้ประชากรในประเทศออกมามากเหมือนแต่ก่อน นทท.ยุโรป ก็ลงใต้ มากกว่า
ผมพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง แอบคิดว่าถ้าอายุ 40 ก็เตรียม ค่าลู่ทาง เริ่มจากย้ายไปประจำภาคเหนือ ซื้อบ้าน ทำกิจการค้าขายที่ตัวเองถนัด
แต่เห็นข่าวพี่โน้ตแล้วคงไม่ง่าย ความฝัน แต่ในความจริงย่อมต่างกัน
เป็นกำลังใจ ให้พี่โน้ตและชาวเชียงใหม่ผ่านพ้นวิกฤต ภาวะเศรษฐกิจครั้งนี้นะครับ
เห็นข่าวพี่โน้ตอุดม ปิดร้าน iberry ที่เชียงใหม่ ทำให้กลับมาคิดว่าการย้ายถิ่นฐาน หาโชค ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบจังหวัดเชียงใหม่มาก ไม่มีจังหวัดใดที่ธรรมชาติและความเจริญ อยู่ห่างกันไม่ถึง 10 กม.ด้วยภูมิประเทศสวยงาม คนสุภาพ อากาศที่เย็นสบายกว่ากรุงเทพ ต้นไม้มาก ฤดูร้อน ในเวียงอากาศเกือบ 40 องศา แต่บนดอยปุยยังเย็นเหมือนติดแอร์
ถึงแม้จะมีปัญหา PM 2.5 แต่ก็แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ค่าครองชีพที่ต่ำกว่า และไม่น่าเชื่อว่า ผมได้เสื้อผ้าเท่ๆ กระเป๋าหล่อ ที่กาดหน้า มช.
ในทุกครั้งที่ขึ้นไป เพราะเหมือนคัดมาให้แล้ว ใส่แล้วพอดีหุ่น เสื้อสวยกว่าที่กรุงเทพ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สวนสาธารณะออกกำลังกาย
เต็มเมืองไปหมด
ร้าน iberry ผมไปครั้งแรกจำได้เลย มีต้นลิ้นจี่ต้นใหญ่อยู่หน้าร้าน ไปกินไอติมกับเซท เบอร์เกอร์ เฟรนฟราย 250 บาท
นั่งได้ทั้งวัน อากาศช่วง ธันวาคมที่เชียงใหม่ ทั้งเย็น และสดชื่น ไม่ได้แห้งแสบจมูกเหมือนหน้าหนาวที่กรุงเทพ แดดอ่อนๆ รำไรใต้ต้นลิ้นจี่
อยู่กรุงเทพ ด้วยพื้นฐานที่มีผู้คนอาศัย เข้ามามาก แม้ว่าในภาวะโควิด ก็ยังพอทำเนาไปได้ ยังพอหากินได้ แต่เชียงใหม่เมืองอันดับ 2
ที่ประชากรน้อยกว่า และพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก เลยได้รับผลกระทบเต็มๆ ถึงแม้จะเปิดประเทศได้ในอนาคต ก็ไม่แน่ใจว่ายังมี นทท.
กลับมาเหมือนเดิมไหม ได้ข่าวว่าหลังจากนี้ จีนคงไม่ปล่อยให้ประชากรในประเทศออกมามากเหมือนแต่ก่อน นทท.ยุโรป ก็ลงใต้ มากกว่า
ผมพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง แอบคิดว่าถ้าอายุ 40 ก็เตรียม ค่าลู่ทาง เริ่มจากย้ายไปประจำภาคเหนือ ซื้อบ้าน ทำกิจการค้าขายที่ตัวเองถนัด
แต่เห็นข่าวพี่โน้ตแล้วคงไม่ง่าย ความฝัน แต่ในความจริงย่อมต่างกัน
เป็นกำลังใจ ให้พี่โน้ตและชาวเชียงใหม่ผ่านพ้นวิกฤต ภาวะเศรษฐกิจครั้งนี้นะครับ