ออกตัวก่อนว่าไม่ได้หมายถึงใครเป็นพิเศษนะครับ ขออย่าดราม่าตำหนิใครรายบุคคลเลย คุยกันด้วยเหตุผลกับภาพใหญ่
สงสัยว่าในวันที่ลีกไทยจ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นไทยกันสูงมาก ระดับที่ให้ครอบครัวอยู่กันได้สบายๆไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้อีกต่อไป ในขณะที่การมาเล่นให้ทีมชาติ ผลประโยชน์ก็มีแค่เบี้ยเลี้ยง ส่วนแบ่งเงินรางวัล และชื่อเสียงเกียรติยศความภูมิใจที่วัดเป็นมูลค่าตัวเงินได้ยาก มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าที่นักเตะบางคนเลือกที่จะทุ่มเทกับสโมสรมากกว่า เพราะมันเป็นรายได้หลักเลี้ยงดูครอบครัวของเค้า
อย่างจังหวะปะทะ 50-50 เลยเลือกที่จะเลี่ยงเพื่อเซฟตัวเอง เพราะถ้าเจ็บยาวไปจากทีมชาติจะมีผลกระทบกับการงานในสโมสร อาจถึงขั้นตกงาน ยิ่งกับนักเตะที่เคยประสบความสำเร็จกับทีมชาติมาแล้ว เป็นไปได้มั้ยว่าแรงจูงใจยิ่งลดลงไปอีก เล่นกับทีมชาติต่อให้ฟอร์มสุดยอด ก็ติดเพดานเงินเดือนที่ไทยแล้ว
ในขณะที่อินโดชุดนี้ หรือเวียดนาม ผมว่าประเทศพวกนี้ยังมีความมุ่งมั่น ทุ่มเทให้กับทีมชาติอยู่มากและยังต้องการการยอมรับจากแฟนบอล แต่ของไทยเรา กับมาเลเซียที่มีสโมสรยะโฮร์เป็นเจ้าบุญทุ่ม ดูสถานการณ์เริ่มไปในทางเดียวกัน ส่วนตัวโอนของยูเออีเมื่อวาน ผมมองว่าเค้าก็ไม่ได้ทุ่มเทมาก ก็คือเล่นปรกติ แต่เก่งไงเลยไม่ต้องใช้ใจเพิ่มพลังมากมาย
คือถ้าที่คิดเป็นจริง เดียวจบทีมชาติก็มี ACL ของ 4 ทีมจากสโมสรไทย ที่ติดทีมชาติชุดนี้กันมาเพียบ ถ้านักเตะบางคนเลือกเซฟตัวเองซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเค้าที่ทำได้ แล้วดันมีชื่อในเกมสุดท้ายกับมาเลเซีย กลัวมันจะกลายเป็นว่าเป็นเราจะเห็นบางคนเล่นเพื่อสุขภาพไปแทนที่จะเป็นเกมเรียกศรัทธาแฟนบอลไทยกลับมา เพราะผลการแข่งขันมันไม่ได้เยอะมากระดับบอลโลกแล้ว ก็มีแค่อาเซี่ยนคัพที่จะไปเล่นรอบไหนก่อนเท่านั่นเอง
ทีมชาติระดับโลกปัจจุบันเค้ามองการได้เล่นทีมชาติว่ายังไงกัน ยังมองว่าเป็นเกียรติยศที่ต้องทุ่มเทเต็มที่เพราะเลือกมาเล่นฟุตบอลก็เพราะอยากติดทีมชาติ
หรือมองแค่ว่าทีมชาติเป็นบันไดเพื่อก้าวไปในอาชีพนักฟุตบอลที่สูงกว่า รายได้มากกว่าเพราะเลือกมาเล่นฟุตบอลเพราะอยากยกระดับชีวิตครอบครัว
หรือคุณค่าของการได้เป็นผู้เล่นทีมชาติไทยมันลดลง นักเตะเลือกทุ่มเทกับสโมสรที่เป็นนายจ้างหลักมากกว่า
สงสัยว่าในวันที่ลีกไทยจ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นไทยกันสูงมาก ระดับที่ให้ครอบครัวอยู่กันได้สบายๆไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้อีกต่อไป ในขณะที่การมาเล่นให้ทีมชาติ ผลประโยชน์ก็มีแค่เบี้ยเลี้ยง ส่วนแบ่งเงินรางวัล และชื่อเสียงเกียรติยศความภูมิใจที่วัดเป็นมูลค่าตัวเงินได้ยาก มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าที่นักเตะบางคนเลือกที่จะทุ่มเทกับสโมสรมากกว่า เพราะมันเป็นรายได้หลักเลี้ยงดูครอบครัวของเค้า
อย่างจังหวะปะทะ 50-50 เลยเลือกที่จะเลี่ยงเพื่อเซฟตัวเอง เพราะถ้าเจ็บยาวไปจากทีมชาติจะมีผลกระทบกับการงานในสโมสร อาจถึงขั้นตกงาน ยิ่งกับนักเตะที่เคยประสบความสำเร็จกับทีมชาติมาแล้ว เป็นไปได้มั้ยว่าแรงจูงใจยิ่งลดลงไปอีก เล่นกับทีมชาติต่อให้ฟอร์มสุดยอด ก็ติดเพดานเงินเดือนที่ไทยแล้ว
ในขณะที่อินโดชุดนี้ หรือเวียดนาม ผมว่าประเทศพวกนี้ยังมีความมุ่งมั่น ทุ่มเทให้กับทีมชาติอยู่มากและยังต้องการการยอมรับจากแฟนบอล แต่ของไทยเรา กับมาเลเซียที่มีสโมสรยะโฮร์เป็นเจ้าบุญทุ่ม ดูสถานการณ์เริ่มไปในทางเดียวกัน ส่วนตัวโอนของยูเออีเมื่อวาน ผมมองว่าเค้าก็ไม่ได้ทุ่มเทมาก ก็คือเล่นปรกติ แต่เก่งไงเลยไม่ต้องใช้ใจเพิ่มพลังมากมาย
คือถ้าที่คิดเป็นจริง เดียวจบทีมชาติก็มี ACL ของ 4 ทีมจากสโมสรไทย ที่ติดทีมชาติชุดนี้กันมาเพียบ ถ้านักเตะบางคนเลือกเซฟตัวเองซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเค้าที่ทำได้ แล้วดันมีชื่อในเกมสุดท้ายกับมาเลเซีย กลัวมันจะกลายเป็นว่าเป็นเราจะเห็นบางคนเล่นเพื่อสุขภาพไปแทนที่จะเป็นเกมเรียกศรัทธาแฟนบอลไทยกลับมา เพราะผลการแข่งขันมันไม่ได้เยอะมากระดับบอลโลกแล้ว ก็มีแค่อาเซี่ยนคัพที่จะไปเล่นรอบไหนก่อนเท่านั่นเอง
ทีมชาติระดับโลกปัจจุบันเค้ามองการได้เล่นทีมชาติว่ายังไงกัน ยังมองว่าเป็นเกียรติยศที่ต้องทุ่มเทเต็มที่เพราะเลือกมาเล่นฟุตบอลก็เพราะอยากติดทีมชาติ
หรือมองแค่ว่าทีมชาติเป็นบันไดเพื่อก้าวไปในอาชีพนักฟุตบอลที่สูงกว่า รายได้มากกว่าเพราะเลือกมาเล่นฟุตบอลเพราะอยากยกระดับชีวิตครอบครัว