[CR] รีวิว HOW TO ลดสิวและรอยสิว จากผิวแพ้ mask ยุคโควิด !

                        สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมารีวิว สกินแคร์ที่เราใช้แก้ปัญหาสิวและรอยสิวที่เกิดจากการใส่หน้ากาก ในยุคโควิด !!


           ต้องขอบอกเลยว่าเราไม่เคยมีปัญหาสิวมาก่อนจนกระทั่งมีโควิด ต้องใส่หน้ากากบ่อยๆ ผิวของเราก็เริ่มมีการแพ้หน้ากากจากการเสียดสี และความอับจากการใส่หน้ากากนานๆ จนเป็นสิวใต้หน้ากาก โดยเฉพาะมุมปาก เราก็เริ่มจิตตกเพราะไม่เคยเป็นสิวขนาดนี้มาก่อน จึงเริ่มหาวิธีรักษา

เราลองมาหลายวิธีมาก ทั้งศึกษาในเน็ต บางวิธีก็ทำให้สิวเห่อมากกว่าเดิม ปรึกษาหมอก็แล้ว จนท้อไม่หายสักที เสียเงินไปเยอะมาก
สุดท้ายเลยมาลองวิธีเบสิคสุดๆ คือ การกลับมาถนอมผิวตัวเอง เพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรง จนในที่สุดสิวเริ่มหยุด และผิวกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ

          โดยเราเลือกเน้นใช้ของสำหรับผิวแพ้ง่าย ถ้าถามว่าทำไม ก็เพราะพอผิวเราอ่อนแอเราก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่รบกวนผิว และทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม จนเริ่มหายดีและอยากจะมาแบ่งปันข้อมูลให้เพื่อนๆกัน

อันดับแรก หน้ากาก 
ควรเลือกเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากที่คิดว่าระบายอากาศได้ดีเราใช้หลัก 2 อัน


อันแรกซื้อจากเซเว่น ตัวนี้ราคาไม่ถึงร้อย ระบายอากาศดี แต่อาจจะไม่ค่อยป้องกันเท่าไหร่เราเลยใส่ทิชชู่บางๆด้านในอีกที
อันที่ 2 หน้ากาก dr.pong ตัวนี้เห็นรีวิวในเน็ตว่าช่วยเรื่องสิว เลยลองซื้อมาใช้ เนื้อผ้านิ่ม ไม่เสียดสีผิวเท่าไหร่ ระบายอากาศดี ซักแล้วแห้งไว
 เราใส่ 2 ตัวนี้สลับกัน ผลคือสิวเริ่มไม่ขึ้น เพราะไม่อับมีการระบายอากาศที่ดีให้กับผิว แต่ทั้งนี้ต้องหมั่นซักหน้ากากบ่อยๆด้วยนะ โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้า เพราะเครื่องสำอางค์จะไปติดที่หน้ากากทำให้เกิดการสะสมเชื้อโรค

อันดับสอง Cleansing

                     ถึงบางคนจะบอกว่าไม่ได้แต่งหน้าไม่จำเป็น แต่สำหรับเราคิดว่าจำเป็นเพราะเราทาครีมกันแดด (เคยดูคลิป ปอย ตรีชฎา เค้าบอกว่าทาครีมกันแดดเท่ากับแต่งหน้า) ที่เราใช้จะเป็นตัวที่อ่อนโยนกับผิว คือ Bioderma แต่ราคาค่อนข้างแรงช่วงหลังงบเริ่มไม่พอเลยเปลี่ยนมาใช้ GARNIER สีชมพู ถ้าคนไม่แพ้เราว่าโอเคพอใช้แทนกันได้ 


เทคนิคคือเช็ดจนสำลีเปนสีขาว ถ้ายังเหลืองๆให้เช็ดซ้ำอีกจนขาว 

อันดับสาม เจลล้างหน้า

เราใช้ Acne-Aid สีฟ้า ส่วนตัวคือแพ้สีแดง แต่บางคนถูกกับสีแดง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนเลย
อาจจะต้องซื้อไซส์เล็กมาลองใช้ก่อน แต่จากที่ศึกษามาทั้งสองสีเคลมว่าเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิวอยู่แล้ว


อันดับสี่ แต้มสิว

เราใช้เฉพาะตอนเป็นสิวอักเสบ แต้ม 2 ครั้งเช้า – เย็น แนะนำให้ใช้สองตัวสลับกัน
จากความรู้สึกถ้าใช้ตัวใดตัวหนึ่งนานเกินไปสิวจะดื้อยา ที่เราใช้จะมี Peurri กับ Tomei สองตัวนี้สำหรับเราใช้แล้วผิวไม่ลอก


อันดับห้า รอยสิว

ทริคให้รอยสิวหายไวสุดๆของเราคือ พอเอาหัวสิวออกให้รีบทาเลย 2-3 วัน ทั้งแผลทั้งรอยจะจางเร็วมาก
ถ้ารอยทิ้งไว้นานต้อง 2 อาทิตย์ถึงจะจาง เราใช้สองตัว คือ Dragon Blood Scar Gel กับ Manuka Honey Scar Gel ตัวแรกเราจะใช้กลางคืนเพราะแอบเหนียว อีกตัวใช้ทาตอนกลางวัน 


อันดับหก ครีมบำรุงผิว

เราใช้ Physiogel แค่ตัวเดียว สิ่งสำคัญ คือ เพื่อนๆสามารถเลือกตัวที่สร้างเกราะให้ผิวกลับมาแข็งแรงเป็นหลัก
อย่าเพิ่งใช้พวก Whitening หรือตัวที่มีสารระคายเคืองพวกน้ำหอม แอลกอฮอล์ เพราะผิวเรายังไม่แข็งแรง


อันดับเจ็ด ครีมกันแดด

เราก็ไม่อะไรมาก ต้องเลือกตัวที่อ่อนโยน บางเบา ไม่มีน้ำหอมหรือสารระคายเคืองก็พอ
ตอนนี้เราใช้ DDC ซึ่งถือว่าไม่แพ้ ไม่มีสารระคายเคือง แล้วก็อ่อนโยนพอสมควร พยายามอย่าเลือกตัวที่มีน้ำมัน เพราะอากาศที่อยู่ภายใต้หน้ากากค่อนข้างอับ หากหน้ามันอีกจะยิ่งอับและเกิดการอุดตันในที่สุด


หมดแล้วจ้า สกินแคร์ของเรา อันที่จริงเพื่อนๆสามารถ เลือกตามความเหมาะสมของผิวแต่ละคนได้เลย
 เพียงแต่ต้องมีวินัยในการรักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมหรือการใช้สกินแคร์ที่ไประคายเคืองผิวในช่วงนี้
 เพราะเรายังต้องใส่หน้ากากกันไปอีกพักใหญ่ๆๆ T^T

สุดท้ายขอให้ทุกคนที่ประสบปัญหาแพ้หน้ากาก หรือเป็นสิวจากการใส่หน้ากากแบบเรา ขอให้สิวและรอยหาย กลับมาหน้าใสกันไวๆ 
ขอบคุณน้าาาา miniheart

ชื่อสินค้า:   acne aid
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่