สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่ต้องให้ พ่อแม่เขาทำะไรคุณไม่ได้ อย่างเก่งก็ห้ามไม่ให้คบกัน จขกท ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
แต่ถ้าให้เงินไป รับรองว่าสักพักจะทะเลาะกับแฟน แล้วก็จะไม่ได้เงินคืน
กฏหมายก็ไม่รองรับเรื่องนี้ ยกเว้นจะหมั้นกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ยังไงก็เสี่ยงที่จะสูญเงินก้อนนี้มาก
เมื่อสองปีก่อน มีสมาชิกหลังไมค์มาปรึกษา กรณีเดียวกันเลย
พ่อตาแม่ยายหน้าเงินแบบนี้ เห็นลายแต่เนิ่น ๆ ก็ดี จะได้ไม่หลงติดกับ
รักสาวก็รัก แต่ต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย ไม่ใช่หลงจนหูหนวกตาบอด สมองตื้อ คิดอะไรไม่เป็น
บางเรื่อง กฏหมายก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนะ
แต่ถ้าให้เงินไป รับรองว่าสักพักจะทะเลาะกับแฟน แล้วก็จะไม่ได้เงินคืน
กฏหมายก็ไม่รองรับเรื่องนี้ ยกเว้นจะหมั้นกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ยังไงก็เสี่ยงที่จะสูญเงินก้อนนี้มาก
เมื่อสองปีก่อน มีสมาชิกหลังไมค์มาปรึกษา กรณีเดียวกันเลย
พ่อตาแม่ยายหน้าเงินแบบนี้ เห็นลายแต่เนิ่น ๆ ก็ดี จะได้ไม่หลงติดกับ
รักสาวก็รัก แต่ต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย ไม่ใช่หลงจนหูหนวกตาบอด สมองตื้อ คิดอะไรไม่เป็น
บางเรื่อง กฏหมายก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนะ
ความคิดเห็นที่ 9
ไร้สาระมากค่ะ
เราเป็นผญ ยังมองว่าไร้สาระ
งั้นผู้หญิงมีแฟน ต้องไปขอเงินเป็นหลักประกันทุกคนหรอ
แต่งงานแล้วยัง ‘หย่า’ ได้นะ เขาลืมไปหรอ
เราพูดตรงๆ ถ้าเราเป็นคุณเจอแบบนี้
แล้วผญจัดการพ่อแม่ตัวเองไม่ได้
ให้พ่อแม่มาบงการชีวิต มารีดไถเงินแฟนตัวเองแบบนี้
เราเลิกค่ะ
แต่คุณคงรัก อยากคบกันต่อ เราแนะนำตามนี้
เราว่าคุณต้องให้แฟนไปเจรจากับพ่อแม่ตัวเอง
สมมุติประกัน 1,000,000 บาท
ให้ลดจำนวนเงินลง ครึ่งนึง เป็น 500,000 บาท
แล้วคุยกับแฟนคุณส่วนตัวว่า แฟนคุณต้องออกเงินครึ่งนึง
เพราะว่าปัญหานี้เกิดจากพ่อแม่ฝ่ายหญิง
ดังนั้นฝ่ายหญิงก็ต้องร่วมรับผิดชอบ
คือ คนละ 250,000 บาท
ซึ่งถ้าเลิกกัน ก็ต้องปลงว่าคุณคงไม่ได้เงินก้อนนี้คืนมาแน่ๆ
ดังนั้นต้องคุมความเสียหาย ไม่ให้เยอะมากจนเกินไป
ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอม ลองเลิกกับผญดู
เดี๋ยวตอนนั้นก็ยอมเองค่ะ
อย่าให้เงินไปแล้วเขียนสัญญาเฉยๆ
กรณีเลวร้ายที่สุดคือ ‘แต่งแล้วไม่ได้เงินคืน’
แบบนั้น คุณกับแฟน แตกหักกันแน่
อย่าลืมว่าเงินที่เขาขอเป็นหลักประกัน พ่อแม่เก็บ
แล้วมีอะไรประกัน ว่าเขาแค่เก็บ ไม่ได้ใช้
ถึงเวลานั้นจะฟ้องกว่าจะได้เงินคืนเป็นปี
ขอเตือนเลยค่ะ
เราเป็นผญ ยังมองว่าไร้สาระ
งั้นผู้หญิงมีแฟน ต้องไปขอเงินเป็นหลักประกันทุกคนหรอ
แต่งงานแล้วยัง ‘หย่า’ ได้นะ เขาลืมไปหรอ
เราพูดตรงๆ ถ้าเราเป็นคุณเจอแบบนี้
แล้วผญจัดการพ่อแม่ตัวเองไม่ได้
ให้พ่อแม่มาบงการชีวิต มารีดไถเงินแฟนตัวเองแบบนี้
เราเลิกค่ะ
แต่คุณคงรัก อยากคบกันต่อ เราแนะนำตามนี้
เราว่าคุณต้องให้แฟนไปเจรจากับพ่อแม่ตัวเอง
สมมุติประกัน 1,000,000 บาท
ให้ลดจำนวนเงินลง ครึ่งนึง เป็น 500,000 บาท
แล้วคุยกับแฟนคุณส่วนตัวว่า แฟนคุณต้องออกเงินครึ่งนึง
เพราะว่าปัญหานี้เกิดจากพ่อแม่ฝ่ายหญิง
ดังนั้นฝ่ายหญิงก็ต้องร่วมรับผิดชอบ
คือ คนละ 250,000 บาท
ซึ่งถ้าเลิกกัน ก็ต้องปลงว่าคุณคงไม่ได้เงินก้อนนี้คืนมาแน่ๆ
ดังนั้นต้องคุมความเสียหาย ไม่ให้เยอะมากจนเกินไป
ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอม ลองเลิกกับผญดู
เดี๋ยวตอนนั้นก็ยอมเองค่ะ
อย่าให้เงินไปแล้วเขียนสัญญาเฉยๆ
กรณีเลวร้ายที่สุดคือ ‘แต่งแล้วไม่ได้เงินคืน’
แบบนั้น คุณกับแฟน แตกหักกันแน่
อย่าลืมว่าเงินที่เขาขอเป็นหลักประกัน พ่อแม่เก็บ
แล้วมีอะไรประกัน ว่าเขาแค่เก็บ ไม่ได้ใช้
ถึงเวลานั้นจะฟ้องกว่าจะได้เงินคืนเป็นปี
ขอเตือนเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
สอบถามเรื่องสัญญาเกี่ยวกับสินสอด
ทางครอบครัวฝ่ายสาวได้เรียกผมไปคุยอยากให้ผมวางเงินสินสอดล่วงหน้า
ทางญาติว่าขอเป็นประกันไว้สุดท้ายว่าจะแต่งงานกับแฟนจริงๆ ถ้าแต่งงานกันแล้วจะคืนให้ครอบครัวผม
ปัญหาคือ จำนวนเงินค่อนข้างมาก แทบจะเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่มีตอนนี้เลยถ
ผมกังวลว่า ถ้าสุดท้ายไม่ได้ก้อนนี้คืน อาจจะกระทบแผนการกู้ซื้อบ้านในอนาคตด้วย
เราสามารถเขียนลงเป็นสัญญาได้ไหมครับ
เช่น เราให้ญาติยืมเงิน ไม่มีระยะเวลากำหนดชำระ ไม่มีดอกเบี้ย แต่มีเงื่อนไขต้องคืนผมเมื่อแต่งงานหรือผมกับแฟนเลิกกัน
ป.ล.ทำงานแล้วทั้งคู่ครับ แต่อาจจะยังไม่แต่งในเร็วๆนี้ ผมต้องการเก็บเงินซื้อบ้านก่อน