.
ไดอารี่ความคิดถึง
“ปาว แป้ง บอส บีม อยู่มั้ย” สำเนียงเหน่อ ๆ ดังมาแต่ไกล ไม่ใช่เสียงของใครอื่น เป็นเสียงของพี่อะตอมนั่นเอง “ย่า เด็กน้อยอยู่บ้านกันมั้ย” พี่อะตอมถามยายระหว่างเดินมา ที่ต้องเรียกยายของเธอว่าย่าเพราะพี่อะตอมมาเป็นสะใภ้ของหมู่บ้านของเธออย่างไรล่ะ วัฒนธรรมให้เรียกผู้หลักผู้ใหญ่ว่าย่าหมด ส่วนฝั่งผู้ชายหากไปบ้านภรรยาก็เรียกตายายหรือพ่อใหญ่แม่ใหญ่หมดทุกคนนั่นเอง
พี่อะตอมเป็นคนจังหวัดอุดรธานี แต่งงานกับพี่ไก่พี่ชายของนิน ปัจจุบันก็อยู่อุดรธานีนั่นแหละ เดือนนี้ฤดูทำนาพี่อะตอมกับพี่ไก่จึงมาช่วยยายสวยทำนา ด้วยความที่เป็นคนช่างพูดช่างจาทำให้พี่อะตอมสนิทกับพวกเธอในเวลาเพียงไม่กี่วันในปีแรกที่มาเป็นสะใภ้กันเลย เพราะบ้านอยู่ใกล้กันคุ้มเดียวกัน ตอนนี้มารอบไหน ๆ ก็ไม่เขินแล้ว
“อยู่ ส่วนคู่ใหญ่เขาไปบ้านเขาแต่เช้าแล้ว อยู่แต่สองโตบอสบีมหนิล่ะ” ยายตอบพี่อะตอมคู่ใหญ่ที่ยายพูดหมายถึงพี่ปาวกับพี่แป้งนั่นแหละ ยายนั่งเคี้ยวหมากบนแคร่หน้าบ้าน ช่วงนี้ยังไม่ได้ไปนาเนื่องจากกล้าที่ตาหว่านยังไม่โตพอที่จะถอน พวกเธอจึงได้อยู่บ้านกันไปก่อนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์
พี่อะตอมเดินเข้ามานั่งบนแคร่กับยาย น้องบีมวิ่งออกมาหาพร้อมเสียงหัวเราะกรี๊ดกร๊าด “พี่อะตอม ฮา” เด็กตัวตัน ๆ ใส่กางเกงขาสั้นรัดก้นมีสายรูดด้านหน้า เสื้อยืดคอกลมที่ตอนนี้แน่นพุงไปหมด วิ่งออกมาหายายกับพี่อะตอมที่หน้าบ้าน
“ผู้สาวน้อย ทำไรอยู่ในบ้าน ดูทีวีบ่” พี่อะตอมถามน้องบีมพร้อมยิ้มให้
“ดูทีวีจ้า” น้องบีมตอบและนั่งลงบนแคร่ด้วยคน บอสเดินตามน้องบีมออกมาหาพี่อะตอมเช่นกัน
“พี่ปาวกับพี่แป้งไปบ้านคุ้มใต้ตั้วพี่อะตอม พี่อะตอมไม่ได้ไปนาเหรอวันนี้ หรือว่าเสร็จแล้ว” บอสเดินมานั่งที่แคร่ข้าง ๆ ยาย ถามเรื่องทำนา ถ้าเสร็จแล้วพี่อะตอมกับพี่ไก่ก็จะกลับอุดรธานีกัน ทุก ๆ ปีพี่ ๆ ทั้งสองคนจะมาช่วยยายสวยแบบนี้เสมอ
“เสร็จแล้ว วันนี้เลยไม่ได้ไป แล้วสองหนุ่มไปไหนล่ะ” ถามหาพี่บอมกับพี่บอลด้วย
“ดูทีวีอยู่ในบ้าน” น้องบีมชิ่งเธอตอบหน้าตาตื่นเต้นตลอดเวลา จะตื่นเต้นอะไรนักหนาแค่พี่อะตอมมาเล่นด้วย แค่มีเพื่อนใหม่แค่นี้ทำเป็นตื่นเต้น บอสกรอกตามองบนน้องสาว
“มืงสิเมือมื้อใดฮั่นกับบักไก่” ยายถามข่าวคราว เมื่อได้ยินว่านาเสร็จแล้วจึงถามเฉย ๆ
“อ้ายไก่ว่าวันจันทร์ว่าซั่นย่า เทิงโคกมีเห็ดบ่ย่า ตอมว่าสิไปเก็บมาซูแม่ใหญ่กิน” พี่อะตอมพูดถึงยายสวยยายของสามี พวกเธอนั่งคุยกันบนแคร่ พี่อะตอมคุ้นเคยกับครอบครัวของเธอมากพอสมควร เที่ยวมาเล่นด้วยทุกวันตั้งแต่มาถึงถ้ามีเวลาว่าง เป็นคนพูดเก่งอัธยาศัยดี ร่างกายอวบผมหยิกหน้าตาธรรมดาแต่มีเสน่ห์ เธอชอบในความไม่หยิ่งไม่ถือตัวของพี่อะตอมมาก ๆ
“มี ! มันหั่นบ่หลาย ตะกะพอได้กินอยู่ ไปเก็บกะไปถะแหมะ มันกะพอได้กินอยู่ล่ะ “ ยายตอบ “อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้สงสัยคืนนี้ฝนต้องตกแน่ ๆ และอากาศร้อนแบบนี้โบราณว่าเห็ดละโงกเกิดดีนัก “
“ไปเก็บเห็ดบ่เฮาบอสตอนบ่าย ชวนอานินไปนำ” พี่อะตอมเรียกนินว่าอาเพราะเป็นน้องของสามี เรียกเหมือนคนสมัยก่อนแบบไม่เคอะเขินเลย สำหรับเธออายมากที่จะเรียกพี่เขยว่า ‘พิอ้าย’ เรียกพี่สะใภ้ว่า ‘พินาง’ เรียกพี่เฉย ๆ ง่ายกว่าไม่อายที่จะเรียกด้วย
“ไปกะไป หาเทิงหัวนาบอสขึ้นไปหนิกะเกี้ยวลงมาหัวไฮ่” ไม่ปฏิเสธอยากไปอยู่แล้ว อยากไปหาเห็ด บอสวางแผนที่คร่าว ๆ ให้ฟัง ป่าเก็บเห็ดหรือป่าสาธารณะอยู่ติดกับนาของเธอ บอสเข้าป่าไปหาเห็ดกับยายตั้งแต่เด็ก ๆ จำได้ว่าเดินหาจากมุมไหนไปมุมไหนบ้าง วนมาตรงไหนแล้วจะโผล่ตรงไหน
ส่วนมากเคยหาบริเวณไหนบ้างก็จะหาอยู่เฉพาะบริเวณนั้น เป็นมุมของใครของมัน ป่าสาธารณะติดกับนาของหลาย ๆ คนในหมู่บ้าน ดังนั้นก็จะเป็นโซนของใครของมัน
ตอนประถมไปนากับตายายจำได้ว่าเคยเข้าป่ากันสองคนกับน้องบีม เพราะเป็นป่าที่เห็นมาตั้งแต่เกิด เข้าไปกับยายก็บ่อย ยายจึงไม่ห้าม ยอมให้เธอไปเก็บเห็ดเพียงลำพังกับน้องบีม ยายบอกว่าห้ามเดินไปไกล หาแถว ๆ ด้านนอกตามขอบชายป่าก็พอ เธอรับปากยาย เมื่อเข้าไปแล้วมัวแต่ก้มหน้าก้มตาหาจึงไม่รู้ว่าเดินมาลึกแค่ไหนกับน้องบีม ได้ยินเสียงยายตะโกนเรียกอยู่ไกล ๆ แสดงว่าก็ยังไม่ไกลพอสมควร เพราะยังได้ยินเสียงของยายอยู่นั่นเอง
เมื่อได้ยินเสียงยายเรียก เธอกับน้องบีมจึงพากันกลับเดินไปตามทางของเสียงเรียก ยายก็เรียกอยู่ไม่ขาดระยะ ด้วยความที่ยายสอนว่าใครเรียกก็ตามอย่าพึ่งตอบสุ่มสี่สุ่มห้า ให้พิจารณาดูก่อน เธอจึงไม่ขานตอบยายในทันทีแต่รีบเร่งเดินออกมาจากป่า เมื่อยายเรียกถี่ขึ้นเธอจึงขานตอบยายกลับไป จูงมือน้องสาวเดินมา
เธอนึกว่าพาน้องกลับทางเดิม ที่ไหนได้ออกมาโผล่ทางหัวไร่อ้อยของแม่ ได้เห็ดมาสามดอก ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่เข้าป่าไปเพียงลำพังอีก แต่เหตุการณ์นั้นมันทำให้เธอรู้ว่าในป่าโซนไหนเป็นโซนไหนบ้างนั่นเอง
“ตอนบ่ายไปน้อเฮา” พี่อะตอมย้ำ
“น้องบีมไปด้วย พี่อะตอมให้น้องบีมไปด้วยนะ น้องบีมเคยหาเห็ดอยู่ถามยายดู หาเป็น ตอนนั้นก็ไปกับยาย ยายน้องบีมเคยไปหาเห็ดกับยายน้อ” น้องสาวของเธอขอไปด้วยคน ยกยายขึ้นมาอ้างกลัวพี่อะตอมไม่ให้ไปด้วย คนนี้ก็เหลือเกิน ทว่าก็เรียกเสียงหัวเราะให้เธอกับยายและพี่อะตอมได้เป็นอย่างดี
“เอ้อ ! ไปนำกันนี่ล่ะบีมจะแมนน้อ” บอสเอ็ดน้องสาว นึกหมั่นไส้นักทำตัวเป็นเด็กตื่นเต้นไปเสียทุกเรื่อง ก่อนที่พี่อะตอมจะจ้างน้องบีมถอนผมหยิกให้ น้องบีมแทบจะไม่สนใจเธอเลยเมื่อได้เพื่อนใหม่
ระหว่างรอเวลาบ่ายพวกเธอคุยเล่นกันไปที่แคร่หน้าบ้าน ยายถอดเสื้อออกเหลือแค่เสื้อในตัวเดียว นอนลงกับพื้นแคร่ ใช้ใบพัดที่สานด้วยตอกพัดให้ความเย็นแก่ร่างกาย น้องบีมนั่งถอนผมหยิกให้พี่อะตอม เธอนอนเล่นเกมในโทรศัพท์ข้าง ๆ ยาย พี่ชายสองคนนอนดูทีวีในบ้านไม่สนใจใครจะไปใครจะมานัก วันนี้ไม่ไปเล่นกับสองฝาแฝด รู้สึกขี้เกียจจึงไม่ไป
ตะวันบ่ายคล้อยหลังทานข้าวเที่ยงเรียบร้อย บอสแต่งตัวเตรียมเข้าป่าล่าเห็ดกับพี่อะตอมกับน้องบีมและนิน บอสสวมกางเกงวอร์มสีดำตัวเก่า เสื้อแขนยาวตัวเก่า และสวมหมวกสวมถุงเท้าพร้อมเข้าป่ามาก ๆ นอกจากนั้นยังหาให้น้องบีมสวมใส่ด้วย ป้องกันหญ้าขีดข่วนร่างกายให้มากที่สุด
“พี่บอมพี่บอลเข้าป่ากันมั้ย หาเห็ด” บอสเพียงชวนพี่ชายเฉย ๆ ไม่คิดอยู่แล้วว่าพี่ชายสองคนจะไปด้วย พี่บอลดันตกลงไปด้วยเสียนี่
“ไป ๆ “ พี่บอลตอบ พร้อมเดินลุกหาแต่งตัวใหม่ บอสแอบมองเหน็บพี่ชายนิดหน่อย คิดว่าจะไปด้วยอยู่แล้วแต่ไม่รีบแต่งตัว พอคนอื่นพร้อมจะไปค่อยเดินไปแต่งตัว ถ่วงเวลาคนอื่นชะมัด
“เร็ว ๆ เลยพี่อะตอมรอแย่แล้ว” บอสเร่ง
“เออ ! ให้รออยู่นั่นแหละ” พี่บอลตอบประชด ไม่นานทุกอย่างก็พร้อม เธอพร้อมพี่บอลพร้อมน้องบีมพร้อม เสียมคนละด้าม ตะกร้าไม้ไผ่อันเล็ก ๆ คนละอัน หาใครหามันว่าใครจะหาเก่งกว่ากัน กลับมาค่อยมาเทรวมกัน
“หาให้ได้หลาย ๆ เด้อยายสิแกงสูกิน อย่าพากันไปไกลงินบ่ หาเลาะหัวนาเฮาหนิ ป่าเห็ดตะไคอยู่หัวไฮ่เฮาอย่าลืมไปเบิ่ง พากันยางเบิ่งงูเบิ่งแง่วดี ๆ เข้าใจบ่ ขึ้นไปเทิงหัวเถียงเฮานี่หาเลาะลงมาหัวไฮหนิกะพอ อย่าเข้าไปลึก” ยายสั่งยืดยาวมาก บอสเข้าใจด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ พวกเธอรับคำก่อนจะเดินไปหาพี่อะตอมที่บ้านยายสวย
“พี่อะตอมเสร็จยัง น้องบีมมาแล้ว” น้องบีมพูดมาแต่ไกล พวกเธอยืนออกันที่หน้าบ้านของนิน
“เสร็จแล้ว ๆ บีม น้องบีมก็ไปเหรอ” นินเป็นคนตอบและเดินถือเสียมกับตะกร้าไม้ไผ่เล็ก ๆ ออกมาจากในบ้าน ตามด้วยพี่อะตอม
“ปะนำทางเลยบีม ไปทางไหน ฮา” พี่อะตอมพูดกลั้วหัวเราะ พวกเธอก็ยิ้มตาม “เอ๋า อ้ายกะไปนำ หาเป็นอยู่บ่”พี่อะตอมหันไปแซวพี่บอล
“เป็นยุเอื้อยตอม” พี่บอลตอบ เมื่อพร้อมกันแล้วพวกเธอจึงออกเดินทาง นำทีมโดยน้องบีม เดินไปตามคันนา ตอนนี้มีน้ำขังมีต้นข้าวของชาวบ้านกันแล้ว จึงเดินฝ่าไปทั่วไม่ได้ ต้องเดินไปตามคันนาเท่านั้น
พวกเธอห้าคนเดินลัดทุ่งไป ขณะนี้ในนามีน้ำขังบ้าง ต้นหญ้าแตกหน่อเขียวขจี นายายเรืองกับนาพ่อคมหว่านข้าวกันแล้ว พวกเธอเดินไปพร้อมพูดคุยกันไป สลับกับเสียงหัวเราะของน้องบีม ทำให้บรรยากาศไม่เงียบ บอสอุ่นใจที่มีผู้ชายมาด้วย มีพี่บอลมาด้วยถึงจะเป็นเด็กเหมือนกันก็ตาม อย่างน้อย ๆ ก็ไม่มีแค่ผู้หญิง
พวกเธอเดินข้ามลำห้วยมา น้ำในห้วยมีเยอะพอสมควร เพราะเข้าสู่ฤดูฝนห้วยมีน้ำขัง ท่าตรงนี้ก็ไม่ลึกมาก อย่างไรก็ต้องระมัดระวังอยู่ดี ตกลงไปทำให้บาดเจ็บได้ ข้ามฝั่งมานาของเธอจะมีต้นมะขามอยู่หนึ่งต้น อายุของมันเก่าแก่มากตั้งแต่แม่ยังสาว ๆ อยู่เลยต้นนี้แม่เคยเล่าให้ฟัง ขนาดต้นไม่ใหญ่แต่มีผลดกมากมาย
พี่อะตอมแหงนมองอย่างตื่นเต้น “ป๊าดมาดกแท้น้อง บาดเมือแวะขึ้นเอาน้อเฮา เอื้อยตอมอยากกินตำบักขาม” พี่อะตอมหยุดยืนแหงนมองผลมะขามบนต้นพร้อมพูดชมไปด้วยความตื่นเต้น แค่ลูกมะขามจะดีใจอะไรนักหนา บอสแสยะยิ้มหัวเราะให้พี่สะใภ้ของนิน
มะขามช่วงนี้กำลังเป็นลูกอ่อน ๆ พอเปรี้ยวปาก “ปะพี่อะตอม ขากลับค่อยแวะ” บอสชวน เสียเวลาอยู่ตรงนี้หลายนาทีแล้ว
“เค ! ขากลับอย่าลืมพาแวะนะ พี่อะตอมอยากกินตำบักขาม”
“จ้า” จากนั้นพวกเธอก็มุ่งหน้าเดินขึ้นไปยังหัวนา ตรงนั้นจะมีป่าสาธารณะอยู่ ระหว่างทางพี่อะตอมก็ถามอาณาเขตที่นาของเธอจากตรงไหนถึงตรงไหน ของใครบ้างในละแวกนี้ น้องบีมเป็นคนแนะนำทำตัวเป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยทันที พี่อะตอมก็แกล้งพยักหน้าตอบ พวกเธอก็หัวเราะไปตามทาง
มาถึงเถียงนาของเธอไม่เห็นตาเลย ตาไปไหนก็ไม่รู้ มีเพียงถุงย่ามกับห่อข้าวห้อยต่องแต่งที่ชานเถียง ดูแว่บเดียวก็รู้ว่าเป็นย่ามของตาแน่นอน
“อี่ตาไปไสวะ คนบ่เห็น ๆ ตะถุงพายหนิ”
“พุ่นอยู่กลางท่งนาป้าเดือนพุ้น” พี่บอลตอบพร้อมชี้ให้ดู น่าจะใช่เพราะรูปร่างลักษณะคล้าย ๆ ตา เพราะตาศีรษะล้าน
“เราจะไปตรงไหนก่อน แล้วโผล่ตรงไหนนะบอส ที่ย่าเราบอกน่ะ” พวกเธอหยุดยืนคุยกันใต้ร่มต้นมะม่วงในบริเวณเถียงนาของเธอ วางแผนกันก่อนเดินเข้าป่า ตรงหน้าพวกเธอเป็นป่าสาธารณะชุมชน ข้าง ๆ ป่าเป็นไร่อ้อยของแม่
“ก็เข้าไปจากตรงนี้เลย แล้วก็เดินวนมาทางนี้ โผล่หัวไร่อ้อยบอส ถัดจากไร่บอสไปก็เป็นไร่แม่นิดพ่อบุญมา” บอสอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟัง
“แม่นิดบ้านฝั่งตรงข้ามคุ้มเราใช่มั้ย”
“ใช่ แม่ไอ้แมนนั่นล่ะ”
“อ่อ ปะเราเข้าไปกันเถอะ อย่าหาห่างกันมากเด้อ เกาะกลุ่มกันไว้ น้องบีมห้ามเดินห่างพี่ตอมนะรู้มั้ย โอเคเข้าใจ”
“เข้าใจค่า ฮา” น้องบีมตอบ จากนั้นพวกเธอทั้งห้าคนก็พากันเดินเข้าป่าหาเห็ด
ในป่าพื้นดินเปียกชื้นนิดหน่อย ใบไม้ปกคลุมพื้นดินไม่หนามาก มีหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ พวกเธอใช้เสียมค่อย ๆ เขี่ยใบไม้ออก จะเขี่ยแรงไม่ได้เพราะหากเจอเห็ดจะทำให้ดอกเห็ดหักแตกกระจายเอาได้ ดอกไม่สวยแกงก็ไม่อร่อย
คิดถึง 2 บทที่ 57
.
ไดอารี่ความคิดถึง
“ปาว แป้ง บอส บีม อยู่มั้ย” สำเนียงเหน่อ ๆ ดังมาแต่ไกล ไม่ใช่เสียงของใครอื่น เป็นเสียงของพี่อะตอมนั่นเอง “ย่า เด็กน้อยอยู่บ้านกันมั้ย” พี่อะตอมถามยายระหว่างเดินมา ที่ต้องเรียกยายของเธอว่าย่าเพราะพี่อะตอมมาเป็นสะใภ้ของหมู่บ้านของเธออย่างไรล่ะ วัฒนธรรมให้เรียกผู้หลักผู้ใหญ่ว่าย่าหมด ส่วนฝั่งผู้ชายหากไปบ้านภรรยาก็เรียกตายายหรือพ่อใหญ่แม่ใหญ่หมดทุกคนนั่นเอง
พี่อะตอมเป็นคนจังหวัดอุดรธานี แต่งงานกับพี่ไก่พี่ชายของนิน ปัจจุบันก็อยู่อุดรธานีนั่นแหละ เดือนนี้ฤดูทำนาพี่อะตอมกับพี่ไก่จึงมาช่วยยายสวยทำนา ด้วยความที่เป็นคนช่างพูดช่างจาทำให้พี่อะตอมสนิทกับพวกเธอในเวลาเพียงไม่กี่วันในปีแรกที่มาเป็นสะใภ้กันเลย เพราะบ้านอยู่ใกล้กันคุ้มเดียวกัน ตอนนี้มารอบไหน ๆ ก็ไม่เขินแล้ว
“อยู่ ส่วนคู่ใหญ่เขาไปบ้านเขาแต่เช้าแล้ว อยู่แต่สองโตบอสบีมหนิล่ะ” ยายตอบพี่อะตอมคู่ใหญ่ที่ยายพูดหมายถึงพี่ปาวกับพี่แป้งนั่นแหละ ยายนั่งเคี้ยวหมากบนแคร่หน้าบ้าน ช่วงนี้ยังไม่ได้ไปนาเนื่องจากกล้าที่ตาหว่านยังไม่โตพอที่จะถอน พวกเธอจึงได้อยู่บ้านกันไปก่อนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์
พี่อะตอมเดินเข้ามานั่งบนแคร่กับยาย น้องบีมวิ่งออกมาหาพร้อมเสียงหัวเราะกรี๊ดกร๊าด “พี่อะตอม ฮา” เด็กตัวตัน ๆ ใส่กางเกงขาสั้นรัดก้นมีสายรูดด้านหน้า เสื้อยืดคอกลมที่ตอนนี้แน่นพุงไปหมด วิ่งออกมาหายายกับพี่อะตอมที่หน้าบ้าน
“ผู้สาวน้อย ทำไรอยู่ในบ้าน ดูทีวีบ่” พี่อะตอมถามน้องบีมพร้อมยิ้มให้
“ดูทีวีจ้า” น้องบีมตอบและนั่งลงบนแคร่ด้วยคน บอสเดินตามน้องบีมออกมาหาพี่อะตอมเช่นกัน
“พี่ปาวกับพี่แป้งไปบ้านคุ้มใต้ตั้วพี่อะตอม พี่อะตอมไม่ได้ไปนาเหรอวันนี้ หรือว่าเสร็จแล้ว” บอสเดินมานั่งที่แคร่ข้าง ๆ ยาย ถามเรื่องทำนา ถ้าเสร็จแล้วพี่อะตอมกับพี่ไก่ก็จะกลับอุดรธานีกัน ทุก ๆ ปีพี่ ๆ ทั้งสองคนจะมาช่วยยายสวยแบบนี้เสมอ
“เสร็จแล้ว วันนี้เลยไม่ได้ไป แล้วสองหนุ่มไปไหนล่ะ” ถามหาพี่บอมกับพี่บอลด้วย
“ดูทีวีอยู่ในบ้าน” น้องบีมชิ่งเธอตอบหน้าตาตื่นเต้นตลอดเวลา จะตื่นเต้นอะไรนักหนาแค่พี่อะตอมมาเล่นด้วย แค่มีเพื่อนใหม่แค่นี้ทำเป็นตื่นเต้น บอสกรอกตามองบนน้องสาว
“มืงสิเมือมื้อใดฮั่นกับบักไก่” ยายถามข่าวคราว เมื่อได้ยินว่านาเสร็จแล้วจึงถามเฉย ๆ
“อ้ายไก่ว่าวันจันทร์ว่าซั่นย่า เทิงโคกมีเห็ดบ่ย่า ตอมว่าสิไปเก็บมาซูแม่ใหญ่กิน” พี่อะตอมพูดถึงยายสวยยายของสามี พวกเธอนั่งคุยกันบนแคร่ พี่อะตอมคุ้นเคยกับครอบครัวของเธอมากพอสมควร เที่ยวมาเล่นด้วยทุกวันตั้งแต่มาถึงถ้ามีเวลาว่าง เป็นคนพูดเก่งอัธยาศัยดี ร่างกายอวบผมหยิกหน้าตาธรรมดาแต่มีเสน่ห์ เธอชอบในความไม่หยิ่งไม่ถือตัวของพี่อะตอมมาก ๆ
“มี ! มันหั่นบ่หลาย ตะกะพอได้กินอยู่ ไปเก็บกะไปถะแหมะ มันกะพอได้กินอยู่ล่ะ “ ยายตอบ “อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้สงสัยคืนนี้ฝนต้องตกแน่ ๆ และอากาศร้อนแบบนี้โบราณว่าเห็ดละโงกเกิดดีนัก “
“ไปเก็บเห็ดบ่เฮาบอสตอนบ่าย ชวนอานินไปนำ” พี่อะตอมเรียกนินว่าอาเพราะเป็นน้องของสามี เรียกเหมือนคนสมัยก่อนแบบไม่เคอะเขินเลย สำหรับเธออายมากที่จะเรียกพี่เขยว่า ‘พิอ้าย’ เรียกพี่สะใภ้ว่า ‘พินาง’ เรียกพี่เฉย ๆ ง่ายกว่าไม่อายที่จะเรียกด้วย
“ไปกะไป หาเทิงหัวนาบอสขึ้นไปหนิกะเกี้ยวลงมาหัวไฮ่” ไม่ปฏิเสธอยากไปอยู่แล้ว อยากไปหาเห็ด บอสวางแผนที่คร่าว ๆ ให้ฟัง ป่าเก็บเห็ดหรือป่าสาธารณะอยู่ติดกับนาของเธอ บอสเข้าป่าไปหาเห็ดกับยายตั้งแต่เด็ก ๆ จำได้ว่าเดินหาจากมุมไหนไปมุมไหนบ้าง วนมาตรงไหนแล้วจะโผล่ตรงไหน
ส่วนมากเคยหาบริเวณไหนบ้างก็จะหาอยู่เฉพาะบริเวณนั้น เป็นมุมของใครของมัน ป่าสาธารณะติดกับนาของหลาย ๆ คนในหมู่บ้าน ดังนั้นก็จะเป็นโซนของใครของมัน
ตอนประถมไปนากับตายายจำได้ว่าเคยเข้าป่ากันสองคนกับน้องบีม เพราะเป็นป่าที่เห็นมาตั้งแต่เกิด เข้าไปกับยายก็บ่อย ยายจึงไม่ห้าม ยอมให้เธอไปเก็บเห็ดเพียงลำพังกับน้องบีม ยายบอกว่าห้ามเดินไปไกล หาแถว ๆ ด้านนอกตามขอบชายป่าก็พอ เธอรับปากยาย เมื่อเข้าไปแล้วมัวแต่ก้มหน้าก้มตาหาจึงไม่รู้ว่าเดินมาลึกแค่ไหนกับน้องบีม ได้ยินเสียงยายตะโกนเรียกอยู่ไกล ๆ แสดงว่าก็ยังไม่ไกลพอสมควร เพราะยังได้ยินเสียงของยายอยู่นั่นเอง
เมื่อได้ยินเสียงยายเรียก เธอกับน้องบีมจึงพากันกลับเดินไปตามทางของเสียงเรียก ยายก็เรียกอยู่ไม่ขาดระยะ ด้วยความที่ยายสอนว่าใครเรียกก็ตามอย่าพึ่งตอบสุ่มสี่สุ่มห้า ให้พิจารณาดูก่อน เธอจึงไม่ขานตอบยายในทันทีแต่รีบเร่งเดินออกมาจากป่า เมื่อยายเรียกถี่ขึ้นเธอจึงขานตอบยายกลับไป จูงมือน้องสาวเดินมา
เธอนึกว่าพาน้องกลับทางเดิม ที่ไหนได้ออกมาโผล่ทางหัวไร่อ้อยของแม่ ได้เห็ดมาสามดอก ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่เข้าป่าไปเพียงลำพังอีก แต่เหตุการณ์นั้นมันทำให้เธอรู้ว่าในป่าโซนไหนเป็นโซนไหนบ้างนั่นเอง
“ตอนบ่ายไปน้อเฮา” พี่อะตอมย้ำ
“น้องบีมไปด้วย พี่อะตอมให้น้องบีมไปด้วยนะ น้องบีมเคยหาเห็ดอยู่ถามยายดู หาเป็น ตอนนั้นก็ไปกับยาย ยายน้องบีมเคยไปหาเห็ดกับยายน้อ” น้องสาวของเธอขอไปด้วยคน ยกยายขึ้นมาอ้างกลัวพี่อะตอมไม่ให้ไปด้วย คนนี้ก็เหลือเกิน ทว่าก็เรียกเสียงหัวเราะให้เธอกับยายและพี่อะตอมได้เป็นอย่างดี
“เอ้อ ! ไปนำกันนี่ล่ะบีมจะแมนน้อ” บอสเอ็ดน้องสาว นึกหมั่นไส้นักทำตัวเป็นเด็กตื่นเต้นไปเสียทุกเรื่อง ก่อนที่พี่อะตอมจะจ้างน้องบีมถอนผมหยิกให้ น้องบีมแทบจะไม่สนใจเธอเลยเมื่อได้เพื่อนใหม่
ระหว่างรอเวลาบ่ายพวกเธอคุยเล่นกันไปที่แคร่หน้าบ้าน ยายถอดเสื้อออกเหลือแค่เสื้อในตัวเดียว นอนลงกับพื้นแคร่ ใช้ใบพัดที่สานด้วยตอกพัดให้ความเย็นแก่ร่างกาย น้องบีมนั่งถอนผมหยิกให้พี่อะตอม เธอนอนเล่นเกมในโทรศัพท์ข้าง ๆ ยาย พี่ชายสองคนนอนดูทีวีในบ้านไม่สนใจใครจะไปใครจะมานัก วันนี้ไม่ไปเล่นกับสองฝาแฝด รู้สึกขี้เกียจจึงไม่ไป
ตะวันบ่ายคล้อยหลังทานข้าวเที่ยงเรียบร้อย บอสแต่งตัวเตรียมเข้าป่าล่าเห็ดกับพี่อะตอมกับน้องบีมและนิน บอสสวมกางเกงวอร์มสีดำตัวเก่า เสื้อแขนยาวตัวเก่า และสวมหมวกสวมถุงเท้าพร้อมเข้าป่ามาก ๆ นอกจากนั้นยังหาให้น้องบีมสวมใส่ด้วย ป้องกันหญ้าขีดข่วนร่างกายให้มากที่สุด
“พี่บอมพี่บอลเข้าป่ากันมั้ย หาเห็ด” บอสเพียงชวนพี่ชายเฉย ๆ ไม่คิดอยู่แล้วว่าพี่ชายสองคนจะไปด้วย พี่บอลดันตกลงไปด้วยเสียนี่
“ไป ๆ “ พี่บอลตอบ พร้อมเดินลุกหาแต่งตัวใหม่ บอสแอบมองเหน็บพี่ชายนิดหน่อย คิดว่าจะไปด้วยอยู่แล้วแต่ไม่รีบแต่งตัว พอคนอื่นพร้อมจะไปค่อยเดินไปแต่งตัว ถ่วงเวลาคนอื่นชะมัด
“เร็ว ๆ เลยพี่อะตอมรอแย่แล้ว” บอสเร่ง
“เออ ! ให้รออยู่นั่นแหละ” พี่บอลตอบประชด ไม่นานทุกอย่างก็พร้อม เธอพร้อมพี่บอลพร้อมน้องบีมพร้อม เสียมคนละด้าม ตะกร้าไม้ไผ่อันเล็ก ๆ คนละอัน หาใครหามันว่าใครจะหาเก่งกว่ากัน กลับมาค่อยมาเทรวมกัน
“หาให้ได้หลาย ๆ เด้อยายสิแกงสูกิน อย่าพากันไปไกลงินบ่ หาเลาะหัวนาเฮาหนิ ป่าเห็ดตะไคอยู่หัวไฮ่เฮาอย่าลืมไปเบิ่ง พากันยางเบิ่งงูเบิ่งแง่วดี ๆ เข้าใจบ่ ขึ้นไปเทิงหัวเถียงเฮานี่หาเลาะลงมาหัวไฮหนิกะพอ อย่าเข้าไปลึก” ยายสั่งยืดยาวมาก บอสเข้าใจด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ พวกเธอรับคำก่อนจะเดินไปหาพี่อะตอมที่บ้านยายสวย
“พี่อะตอมเสร็จยัง น้องบีมมาแล้ว” น้องบีมพูดมาแต่ไกล พวกเธอยืนออกันที่หน้าบ้านของนิน
“เสร็จแล้ว ๆ บีม น้องบีมก็ไปเหรอ” นินเป็นคนตอบและเดินถือเสียมกับตะกร้าไม้ไผ่เล็ก ๆ ออกมาจากในบ้าน ตามด้วยพี่อะตอม
“ปะนำทางเลยบีม ไปทางไหน ฮา” พี่อะตอมพูดกลั้วหัวเราะ พวกเธอก็ยิ้มตาม “เอ๋า อ้ายกะไปนำ หาเป็นอยู่บ่”พี่อะตอมหันไปแซวพี่บอล
“เป็นยุเอื้อยตอม” พี่บอลตอบ เมื่อพร้อมกันแล้วพวกเธอจึงออกเดินทาง นำทีมโดยน้องบีม เดินไปตามคันนา ตอนนี้มีน้ำขังมีต้นข้าวของชาวบ้านกันแล้ว จึงเดินฝ่าไปทั่วไม่ได้ ต้องเดินไปตามคันนาเท่านั้น
พวกเธอห้าคนเดินลัดทุ่งไป ขณะนี้ในนามีน้ำขังบ้าง ต้นหญ้าแตกหน่อเขียวขจี นายายเรืองกับนาพ่อคมหว่านข้าวกันแล้ว พวกเธอเดินไปพร้อมพูดคุยกันไป สลับกับเสียงหัวเราะของน้องบีม ทำให้บรรยากาศไม่เงียบ บอสอุ่นใจที่มีผู้ชายมาด้วย มีพี่บอลมาด้วยถึงจะเป็นเด็กเหมือนกันก็ตาม อย่างน้อย ๆ ก็ไม่มีแค่ผู้หญิง
พวกเธอเดินข้ามลำห้วยมา น้ำในห้วยมีเยอะพอสมควร เพราะเข้าสู่ฤดูฝนห้วยมีน้ำขัง ท่าตรงนี้ก็ไม่ลึกมาก อย่างไรก็ต้องระมัดระวังอยู่ดี ตกลงไปทำให้บาดเจ็บได้ ข้ามฝั่งมานาของเธอจะมีต้นมะขามอยู่หนึ่งต้น อายุของมันเก่าแก่มากตั้งแต่แม่ยังสาว ๆ อยู่เลยต้นนี้แม่เคยเล่าให้ฟัง ขนาดต้นไม่ใหญ่แต่มีผลดกมากมาย
พี่อะตอมแหงนมองอย่างตื่นเต้น “ป๊าดมาดกแท้น้อง บาดเมือแวะขึ้นเอาน้อเฮา เอื้อยตอมอยากกินตำบักขาม” พี่อะตอมหยุดยืนแหงนมองผลมะขามบนต้นพร้อมพูดชมไปด้วยความตื่นเต้น แค่ลูกมะขามจะดีใจอะไรนักหนา บอสแสยะยิ้มหัวเราะให้พี่สะใภ้ของนิน
มะขามช่วงนี้กำลังเป็นลูกอ่อน ๆ พอเปรี้ยวปาก “ปะพี่อะตอม ขากลับค่อยแวะ” บอสชวน เสียเวลาอยู่ตรงนี้หลายนาทีแล้ว
“เค ! ขากลับอย่าลืมพาแวะนะ พี่อะตอมอยากกินตำบักขาม”
“จ้า” จากนั้นพวกเธอก็มุ่งหน้าเดินขึ้นไปยังหัวนา ตรงนั้นจะมีป่าสาธารณะอยู่ ระหว่างทางพี่อะตอมก็ถามอาณาเขตที่นาของเธอจากตรงไหนถึงตรงไหน ของใครบ้างในละแวกนี้ น้องบีมเป็นคนแนะนำทำตัวเป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยทันที พี่อะตอมก็แกล้งพยักหน้าตอบ พวกเธอก็หัวเราะไปตามทาง
มาถึงเถียงนาของเธอไม่เห็นตาเลย ตาไปไหนก็ไม่รู้ มีเพียงถุงย่ามกับห่อข้าวห้อยต่องแต่งที่ชานเถียง ดูแว่บเดียวก็รู้ว่าเป็นย่ามของตาแน่นอน
“อี่ตาไปไสวะ คนบ่เห็น ๆ ตะถุงพายหนิ”
“พุ่นอยู่กลางท่งนาป้าเดือนพุ้น” พี่บอลตอบพร้อมชี้ให้ดู น่าจะใช่เพราะรูปร่างลักษณะคล้าย ๆ ตา เพราะตาศีรษะล้าน
“เราจะไปตรงไหนก่อน แล้วโผล่ตรงไหนนะบอส ที่ย่าเราบอกน่ะ” พวกเธอหยุดยืนคุยกันใต้ร่มต้นมะม่วงในบริเวณเถียงนาของเธอ วางแผนกันก่อนเดินเข้าป่า ตรงหน้าพวกเธอเป็นป่าสาธารณะชุมชน ข้าง ๆ ป่าเป็นไร่อ้อยของแม่
“ก็เข้าไปจากตรงนี้เลย แล้วก็เดินวนมาทางนี้ โผล่หัวไร่อ้อยบอส ถัดจากไร่บอสไปก็เป็นไร่แม่นิดพ่อบุญมา” บอสอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟัง
“แม่นิดบ้านฝั่งตรงข้ามคุ้มเราใช่มั้ย”
“ใช่ แม่ไอ้แมนนั่นล่ะ”
“อ่อ ปะเราเข้าไปกันเถอะ อย่าหาห่างกันมากเด้อ เกาะกลุ่มกันไว้ น้องบีมห้ามเดินห่างพี่ตอมนะรู้มั้ย โอเคเข้าใจ”
“เข้าใจค่า ฮา” น้องบีมตอบ จากนั้นพวกเธอทั้งห้าคนก็พากันเดินเข้าป่าหาเห็ด
ในป่าพื้นดินเปียกชื้นนิดหน่อย ใบไม้ปกคลุมพื้นดินไม่หนามาก มีหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ พวกเธอใช้เสียมค่อย ๆ เขี่ยใบไม้ออก จะเขี่ยแรงไม่ได้เพราะหากเจอเห็ดจะทำให้ดอกเห็ดหักแตกกระจายเอาได้ ดอกไม่สวยแกงก็ไม่อร่อย