หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
อมตะธาตุ ไม่ใช่อนัตตาธาตุ
กระทู้คำถาม
มหาสติปัฏฐาน 4
พระไตรปิฎก
ปฏิบัติธรรม
ศาสนาพุทธ
พระธรรม
{๖๖.๑} รูปํ ปสฺสนฺโต ปชหติ เวทนํ ปสฺสนฺโต ปชหติ สญฺญํ
ปสฺสนฺโต ปชหติ สงฺขาเร ปสฺสนฺโต ปชหติ วิญฺญาณํ
ปสฺสนฺโต ปชหติ จกฺขุ ํ ฯเปฯ ชรามรณํ อมโตคธํ
นิพฺพานํ ปริโยสานฏฺเฐน ปสฺสนฺโต ปชหติ เย เย ธมฺมา ป นา โหนฺติ
เต เต ธมฺมา ปริจฺจตฺตา โหนฺติ ตํ ญาตฏฺเฐน ญาณํ
ปชานนฏฺเฐน ปญฺญา เตน วุจฺจติ อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพาติ
โสตาวธานํ ตํปชานนา ปญฺญา สุตมเย ญาณํ ฯ
ตติยภาณวารํ ฯ
ฉบับหลวง
เมื่อพิจารณาเห็นรูปโดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น
ย่อมละกิเลสที่ควรละได้
เมื่อพิจารณาเห็นเวทนา ...
สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ ... จักษุ ...
ชราและมรณะ
โดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น ย่อมละกิเลสที่ควรละได้
เมื่อ
พิจารณาเห็นนิพพานอันหยั่งลงสู่อมตะ [ด้วยความเป็นอนัตตา]
ด้วยความว่าเป็นที่สุด
ย่อมละกิเลสที่ควรละได้
ธรรมใดๆ เป็นธรรมที่ละได้แล้วธรรมนั้นๆ
เป็นอันสละได้แล้ว ชื่อว่าญาณ
เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ารู้ชัด
เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า
ปัญญาเครื่องทรงจำธรรมที่ได้สดับมาแล้ว คือ
เครื่องรู้ชัดธรรมที่ได้สดับมาแล้วนั้นว่า
ธรรมเหล่านี้ควรละ ชื่อว่าสุตมยญาณ ฯ
แบบนี้ต้อง ไปเทียบกับของจุฬาฯ
มโนควรละ
ธรรมารมณ์ควรละ
มโนวิญญาณควรละ
มโนสัมผัสควรละ
สุขเวทนา ทุกขเวทนา
หรือแม้อทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัยควรละ
พระโยคาวจรเมื่อเห็นรูป ชื่อว่าย่อมละ(กิเลสที่ควรละ)ได้
เมื่อเห็นเวทนา ฯลฯ
เมื่อเห็นสัญญา ฯลฯ
เมื่อเห็นสังขาร ฯลฯ
เมื่อเห็นวิญญาณ(โดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น)
ชื่อว่าย่อมละ(กิเลสที่ควรละ)ได้
เมื่อเห็นจักขุ ฯลฯ
เมื่อเห็นชราและมรณะ ฯลฯ
เมื่อเห็นธรรมที่หยั่งลงสู่อมตะคือนิพพาน
เพราะมีสภาวะเป็นที่สุด
ชื่อว่าย่อมละ(กิเลสที่ควรละ)ได้
ธรรมใดๆ ที่ละได้แล้ว
ธรรมนั้นๆ เป็นอันละได้แล้ว
ชื่อว่าญาณ เพราะมีสภาวะรู้ธรรมนั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะมีสภาวะรู้ชัด
เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า การทรงจำธรรมที่ได้สดับมาว่า
“ธรรมเหล่านี้ควรละ” ปัญญารู้ชัดธรรมที่ได้สดับมานั้น ชื่อว่าสุตมยญาณ
ไม่มีคำว่าอนัตตา แปลว่าอมตะไม่ใชอนัตตา
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
สุตมยปัญญา ปัญญาเกิดจากการฟัง
แต่คนในห้องนี้หลายคน แปลก ยิ่งฟังก็ยิ่งโง่อ่านมากยิ่งโง่มาก. โง่อย่างไร มาดูกัน (๗๙) ปัญญาเครื่องทรงจำธรรมที่ได้สดับมาแล้ว คือ เครื่องรู้ชัดธรรม ที่ได้สดับมาแล้วนั้นว่า สังขารทั้งปว
สมาชิกหมายเลข 8486991
อวิชชามันฉลาดหลอกให้จิตหลงยึดขันธ์ 5
อวิชชามันฉลาดหลอกให้จิตหลงยึดขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นตัวเราของเรา คนทั่วไป 90% ที่ไม่ได้ศึกษาหลงยึดว่า รูป (กาย) เป็นตัวเรา เป็นจิต นักท่องตำราที่ขาดการปฏิบัติหลงยึดวิญญาณเป็นตัว
สมาชิกหมายเลข 2748147
ผู้ที่กล่าวว่าธรรมารมณ์เป็นอัตตา นั้น จึงไม่ควร ด้วยประการฉะนี้ มโนจึง เป็นอนัตตา ธรรมารมณ์จึงเป็นอนัตตา
ความหมายของพระสุตตันตปิฎก พระสุตตันตปิฎก ประมวลพุทธพจน์หมวดพระสูตร คือ พระธรรมเทศนา คำบรรยายธรรมต่างๆ ที่ตรัส ยักเยื้องให้เหมาะกับบุคคลและโอกาสตล
satanmipop
เมื่อสงสัยในเรื่อง ธัมมายตนะ
https://84000.org/tipitaka/pitaka3/ จึงหาในพระไตรปิฎกเล่มที่ 35 /พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ 2 เล่ม ๓๕ วิภังค์ ยกหลักธรรมสำคัญ ๆ ขึ้นมาแจกแจงแยกแยะอธิบายกระจายออกให้เห็นทุกแง
satanmipop
ใครที่บอกสอนหรือชี้แนะว่า นิพพานพานเป็นอนัตตา
คำของผู้นั้นไม่ถูกต้อง ไม่สมควรเป็นการคัดง้างคำของพระพุทธอย่างร้ายแรง เพราะโดยที่แท้พระพุทธเจ้าตรัสไว้มีความหมายที่ชัดเจนไม่เป็นอื่นอบ่างแน่นอน เช่นจผู้ใดกล่วาว่าเวทนาเป็นอัตตา
สมาชิกหมายเลข 8486991
อมตะกลายเป็นอนัตตาได้ไง ?
...... เมื่อพิจารณาเห็นรูปโดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น ย่อมละกิเลสที่ควรละได้ เมื่อพิจารณาเห็นเวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ ... จักษุ ... ชราและมรณะ โดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น
สมาชิกหมายเลข 5385685
พระพุทธเจ้าสอนให้น้อมจิตเพื่ออมตธาตุ
พระพุทธเจ้าสอนให้น้อมจิตเพื่ออมตธาตุ “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ ในธรรมวินัยนี้ บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ เ
สมาชิกหมายเลข 2748147
จิหลวงตาบัวตอบ เรื่องจิตป็นสมมุติกับ จิตเป็นวิมุตติ
"ทำไม ? จึงเรียกว่า... จิต เป็นสมมุติ กับจิตเป็นวิมุตติ เล่า มันกลายเป็นจิตสองดวง อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ อย่างนั้น...จิต ดวงเดียวนั้นแหละ&n
สมาชิกหมายเลข 8505138
ว่างเปล่า เป็น อนัตตา นิพพานอันว่างเปล่า
"ว่างเปล่า เป็นอนัตตา" ฌานสูตร ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย เพราะอาศัยปฐมฌานบ้าง ทุติยฌานบ้าง ตติยฌานบ้าง จตุตถฌานบ้าง&nbs
สมาชิกหมายเลข 4128431
เห็นชอบถามกันว่า ฝึกฌานไปเพื่ออะไร???
เห็นชอบถามกันว่า ฝึกฌานไปเพื่ออะไร??? ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายเพราะอาศัยฌาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายเพราะอาศัยปฐมฌานบ้าง ทุติยฌานบ้าง ตติยฌา
สมาชิกหมายเลข 2748147
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
มหาสติปัฏฐาน 4
พระไตรปิฎก
ปฏิบัติธรรม
ศาสนาพุทธ
พระธรรม
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
อมตะธาตุ ไม่ใช่อนัตตาธาตุ
ปสฺสนฺโต ปชหติ สงฺขาเร ปสฺสนฺโต ปชหติ วิญฺญาณํ
ปสฺสนฺโต ปชหติ จกฺขุ ํ ฯเปฯ ชรามรณํ อมโตคธํ
นิพฺพานํ ปริโยสานฏฺเฐน ปสฺสนฺโต ปชหติ เย เย ธมฺมา ป นา โหนฺติ
เต เต ธมฺมา ปริจฺจตฺตา โหนฺติ ตํ ญาตฏฺเฐน ญาณํ
ปชานนฏฺเฐน ปญฺญา เตน วุจฺจติ อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพาติ
โสตาวธานํ ตํปชานนา ปญฺญา สุตมเย ญาณํ ฯ
ตติยภาณวารํ ฯ
ฉบับหลวง
เมื่อพิจารณาเห็นรูปโดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น
ย่อมละกิเลสที่ควรละได้
เมื่อพิจารณาเห็นเวทนา ...
สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ ... จักษุ ...
ชราและมรณะ
โดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น ย่อมละกิเลสที่ควรละได้
เมื่อ
พิจารณาเห็นนิพพานอันหยั่งลงสู่อมตะ [ด้วยความเป็นอนัตตา]
ด้วยความว่าเป็นที่สุด
ย่อมละกิเลสที่ควรละได้
ธรรมใดๆ เป็นธรรมที่ละได้แล้วธรรมนั้นๆ
เป็นอันสละได้แล้ว ชื่อว่าญาณ
เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ารู้ชัด
เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า
ปัญญาเครื่องทรงจำธรรมที่ได้สดับมาแล้ว คือ
เครื่องรู้ชัดธรรมที่ได้สดับมาแล้วนั้นว่า
ธรรมเหล่านี้ควรละ ชื่อว่าสุตมยญาณ ฯ
แบบนี้ต้อง ไปเทียบกับของจุฬาฯ
มโนควรละ
ธรรมารมณ์ควรละ
มโนวิญญาณควรละ
มโนสัมผัสควรละ
สุขเวทนา ทุกขเวทนา
หรือแม้อทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัยควรละ
พระโยคาวจรเมื่อเห็นรูป ชื่อว่าย่อมละ(กิเลสที่ควรละ)ได้
เมื่อเห็นเวทนา ฯลฯ
เมื่อเห็นสัญญา ฯลฯ
เมื่อเห็นสังขาร ฯลฯ
เมื่อเห็นวิญญาณ(โดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้น)
ชื่อว่าย่อมละ(กิเลสที่ควรละ)ได้
เมื่อเห็นจักขุ ฯลฯ
เมื่อเห็นชราและมรณะ ฯลฯ
เมื่อเห็นธรรมที่หยั่งลงสู่อมตะคือนิพพาน
เพราะมีสภาวะเป็นที่สุด
ชื่อว่าย่อมละ(กิเลสที่ควรละ)ได้
ธรรมใดๆ ที่ละได้แล้ว
ธรรมนั้นๆ เป็นอันละได้แล้ว
ชื่อว่าญาณ เพราะมีสภาวะรู้ธรรมนั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะมีสภาวะรู้ชัด
เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า การทรงจำธรรมที่ได้สดับมาว่า
“ธรรมเหล่านี้ควรละ” ปัญญารู้ชัดธรรมที่ได้สดับมานั้น ชื่อว่าสุตมยญาณ
ไม่มีคำว่าอนัตตา แปลว่าอมตะไม่ใชอนัตตา