ความอยากได้อยากมี เอาปมในวัยเด็กมาเป็นข้ออ้าง สร้างหนี้บัตรเครดิตจนท้วมหัว หาทางแก้ไม่ได้ พอจะมีคำแนะนำบ้างไหมคะ

สวัสดีค่ะ ตามหัวข้อเลยค่ะ 
เราทำงานบริษัทเอกชนค่ะ บริษัทมั่นคง แต่รายได้กับตำแหน่งงานไม่ได้สูง เงินเดือนเลยน้อย ต่อเดือนได้ 1.5-1.7 หมื่นบาทต่อเดือน ด้วยความอยากได้อยากมี อยากสวย เป็นการแก้ปมในวัยเด็ก อยากเที่ยว อยากสนุก เท่าไหร่ก็ไม่พอ โดยเอาปมในวัยเด็กมาอ้าง บวกกับปมที่โดนแฟนทิ้งแล้วต้องสวยให้เขาเสียดาย รวมช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่กับแฟน ก็รูดบัตรตลอด เราคิดว่าเขาจะรักเราและไม่ทิ้งเรา แต่เราคิดผิดค่ะ สุดท้ายเขาทิ้งเราไปหาแฟนเก่าที่ รวยกว่า ตำแหน่งงานดีกว่า เราเอาเงินอนาคต มาใช้ฟุ่มเฟือย เอามาจากบัตรเครดิตบ้าง บัตรกดเงินสดบ้าง เป็นหนี้บัตรเครดิตรวมๆแล้วก็ เกือบ 400,000 บาท  หลังจากความสุขนั้น ความทุกข์ก็เริ่มเข้ามา รายได้ที่เคยได้  เงินเดือนออกปุ๊บ ก็ต้องเอามาจ่ายหนี้บัตรเครดิต จากที่มีความสุขในการจ่าย ก็ต้องมานั่งทุกข์ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ลำพังเงินเดือนที่ได้ก็ไม่พอจ่าย แถมต้องค้างจ่ายบัตรอีกหลายใบ แม้แต่จะจ่ายขั้นต่ำก็ยังไม่พอ 
ตอนนี้ก็ไม่รู้จะหาวิธี หรือทางออกยังไง เงินที่มีก็ร่อยหรอทุกที เอาจริงที่อยู่ได้คือ มาม่ากับไข่ จริงๆ เงินติดตัวมีไม่ถึง 300 ด้วยซ้ำ จากที่เช่าคอนโดอยู่ ก็ต้องคืนห้องเขาในสิ้นเดือน พ.ค นี้ เราแทบไม่รู้จะเอาไงต่อ ของก็ขายลำบาก กว่าจะขายได้แต่ละชิ้นก็ยากเหลือเกิน สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือการกลับไปเป็นซึมเศร้า เรากลัวเราจะคิดทำร้ายตัวเอง และมันเคยผ่านเข้ามาในความคิดช่วงนี้ คิดตลอดว่าจะเอายังดี  เหนื่อยมาเลยค่ะ เราไม่อยากกลับไปเป็นซึมเศร้าอีกแล้วเรากลัว
และกว่าจะถึงสิ้นเดือนก็อีกหลายวัน เงินที่มีไม่พอแน่ๆ แต่ก็พยายามอยู่ให้ได้ พยายามคิดว่า เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเรา ใครมีวิธีการใช้หนี้ที่สามารถผ่อนได้แบบไม่ลำบากตัวเอง แนะนำหน่อยค่ะ 

ตอนนี้คือเหนื่อยมาก หาทางออกไม่ได้จริงๆ ห้องก็ต้องคือเขา ไหนจะต้องหาห้องใหม่ที่ถูกกว่าเดิม ไหนจะค่ามัดจำห้อง  ที่ยังหาไม่ได้ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ถ้าไม่แคร์เรื่องเครดิตบูโรก็ตามนี้นะครับ
- หยุดจ่ายทุกใบ (แต่ยังรับโทรศัพท์ บอกไปตรง ๆ ว่าตอนนี้ไม่มีแต่จะพยายามหาม่าจ่าย เขาด่าปล่อยเขาด่า ไม่ต้องตอบโต้)
- ขยันทำงานเก็บสะสมเงินไว้เคลียร์หนี้ ไม่สร้างหนี้ใหม่ กินอยู่ให้เหมาะสมกับรายได้ เก็บเงินเยอะ ๆ แต่เตือนตัวเองเสมอว่าเงินนี่ต้องเอาไปคืนเค้า ไม่ใช่ของเรา
- ผ่านไปเกือบ ๆ 1 ปี เมื่อมีโทรศัพท์มา ให้เจรจาขอแฮร์คัทหนี้เป็นใบ ๆ ไป อาจได้ 20-60% (ขอลดหนี้แบบจ่ายเป็นก้อนแล้วเลิกกัน)
- *** ห้ามจ่ายบางส่วน ห้ามโอนเงินเข้าไปนิดหน่อยถึงแม้คนทวงหนี้จะบอกให้ทำเช่นนั้น และห้ามยืมเงินคนอื่นมาจ่าย
- *** การดีลแฮร์คัท ต้องได้ดีลมาเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เมื่อจ่ายจบแล้วต้องได้ใบปลดหนี้ ไม่เอาดีลลมปากจากคนทวงหนี้เด็ดขาด
- *** บางรายที่หนี้ก้อนใหญ่มากอาจต้องไปเจรจาที่ศาล ก็ไปตามนั้นห้ามผิดนัด
- *** ถ้าจะใช้ทางนี้ ไม่แนะนำให้รวมหนี้เป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียว จะเจรจายาก ปล่อยให้เป็นหนี้ไม่กี่หมื่นหลาย ๆ ใบจะง่ายกว่า

ศึกษารายละเอียดจากประสบการณ์ของคนอื่น ๆ ได้จากในนี้ครับ http://debtclub.consumerthai.org/webboard.html
ความคิดเห็นที่ 13
ทำไมถึงโบ้ยปัญหาให้เป็นเรื่องของปมวัยเด็กล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่