A. ผลประกอบการ
(๑) ผลประกอบการทั้งปี 2563.............................. 63.223 ล้านบาท กำไร
(๒) ผลประกอบการ 1/2563................................309.004 ขาดทุน
(๓) ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 - 4/2563........372.227 กำไร
(๔) ผลประกอบการไตรมาส 1/2564.....................182.142 กำไร
(๕) ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย..................554.369 กำไร
B. ณ ผลประกอบการประจำปี 2563
(๖) ทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวนหุ้น................. 6,827,880,207 หุ้น
(๗) ณ ผลประกอบการทั้งปี 2563........................กำไรต่อหุ้น = 63.223/6,827.880207 = 0.00925 บาทต่อหุ้น
(๘) PE40.00 = 0.00925*40 = 0.37 บาทต่อหุ้น
C. ณ ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (2/2563 - 4/2563 & 1/2564)
(๙) กำไรต่อหุ้น..............................................554.369/6,827.880207 = 0.08119
เปลี่ยนแปลงจาก 0.00925 ข้อ (๗) เป็น 0.08119 เพิ่มขึ้น 0.07194 หรือ 777.29% ด้วย ผลประกอบการ 1/2564 กำไร 182.142
แทนที่ ผลประกอบการ 1/2563 ขาดทุน -372.228 ล้านบาท ส่งผลให้ ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (2/2563 - 4/2563 และ
1/2564) เพิ่มขึ้น "372.228 + 182.142 = 554.37 ล้านบาท"
(๑๐) PE40.00 = 0.08119*40 = 3.2476 บาท
เพิมขึ้นจาก 0.37 บาท ข้อ (๘)
ไม่มีอะไรเสีย ที่จะเข้าค้นคว้า สาเหตุใดที่ทำให้ผลประกอบการ 1/2564 ขาดทุนมโหฬาร (-372.228 ล้านบาท) และ ไตรมาส 1/2564 กลับมามี
กำไร 182.142 ด้วยสาเหตุเดียวกับ 1/2563 ที่ได้พลิกฟื้นมาสู่ภาวะปกติ หรือ อื่นๆจะมีผลต่อราคาในอนาคต แล้ว น่าจะพอจินตนาการตามมุมมอง
ความต้องการตัวเอง
ด้วยความปรารถนาดี
ปล : เช่นเคย ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่มี brook มาเล่าสู่กันฟัง อย่าซีเรียส สบายๆ
ฺBROOK fc : PE40.00 หลังประกาศผลประกอบการ 1/2564 ราคาหุ้นพลืกเพิ่มขึ้นร่วมๆ 8 เท่า
(๑) ผลประกอบการทั้งปี 2563.............................. 63.223 ล้านบาท กำไร
(๒) ผลประกอบการ 1/2563................................309.004 ขาดทุน
(๓) ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 - 4/2563........372.227 กำไร
(๔) ผลประกอบการไตรมาส 1/2564.....................182.142 กำไร
(๕) ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย..................554.369 กำไร
B. ณ ผลประกอบการประจำปี 2563
(๖) ทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวนหุ้น................. 6,827,880,207 หุ้น
(๗) ณ ผลประกอบการทั้งปี 2563........................กำไรต่อหุ้น = 63.223/6,827.880207 = 0.00925 บาทต่อหุ้น
(๘) PE40.00 = 0.00925*40 = 0.37 บาทต่อหุ้น
C. ณ ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (2/2563 - 4/2563 & 1/2564)
(๙) กำไรต่อหุ้น..............................................554.369/6,827.880207 = 0.08119
เปลี่ยนแปลงจาก 0.00925 ข้อ (๗) เป็น 0.08119 เพิ่มขึ้น 0.07194 หรือ 777.29% ด้วย ผลประกอบการ 1/2564 กำไร 182.142
แทนที่ ผลประกอบการ 1/2563 ขาดทุน -372.228 ล้านบาท ส่งผลให้ ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (2/2563 - 4/2563 และ
1/2564) เพิ่มขึ้น "372.228 + 182.142 = 554.37 ล้านบาท"
(๑๐) PE40.00 = 0.08119*40 = 3.2476 บาท
เพิมขึ้นจาก 0.37 บาท ข้อ (๘)
ไม่มีอะไรเสีย ที่จะเข้าค้นคว้า สาเหตุใดที่ทำให้ผลประกอบการ 1/2564 ขาดทุนมโหฬาร (-372.228 ล้านบาท) และ ไตรมาส 1/2564 กลับมามี
กำไร 182.142 ด้วยสาเหตุเดียวกับ 1/2563 ที่ได้พลิกฟื้นมาสู่ภาวะปกติ หรือ อื่นๆจะมีผลต่อราคาในอนาคต แล้ว น่าจะพอจินตนาการตามมุมมอง
ความต้องการตัวเอง
ด้วยความปรารถนาดี
ปล : เช่นเคย ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่มี brook มาเล่าสู่กันฟัง อย่าซีเรียส สบายๆ