คิดถึง 2 บทที่ 54

กระทู้สนทนา

.

                 ไดอารี่ความคิดถึง

               อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว บอสเองก็จะขึ้นเป็นพี่ ม.2 แล้ว ตื่นเต้นปนดีใจมาก ๆ ที่จะได้ไปโรงเรียนสักที เบื่อบ้านเต็มทน บอสเตรียมความพร้อมด้านร่างกายมาก สีผมก็เปลี่ยนแล้วตัดสั้นแล้วด้วย พร้อมมาก ๆ

                       วันนี้พี่ปาวจะพาเข้าไปในเมืองไปซื้อชุดนักเรียนใหม่ ความจริงบอสไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ ชุดเดิมยังใส่ได้อยู่ ทว่าเธอก็อยากซื้อกับน้องบีมคนละชุดก็ยังดี แม่ก็ไม่ขัดบอสขอเงินซื้อชุดใหม่แม่ก็โอนให้ซื้อเลย

              เนื่องด้วยโรงเรียนของเธอเป็นเพียงโรงเรียนประจำตำบลเล็ก ๆ จึงสามารถหาซื้อชุดได้ตามท้องตลาด ไม่มีกระเป๋าตราโรงเรียนเหมือนโรงเรียนในเมือง กางเกงพละก็หาซื้อได้ทั่วไปเพียงขอให้เป็นสีดำก็พอ ทางโรงเรียนแจกเพียงเสื้อพละและเสื้อกีฬาสีเท่านั้น นอกนั้นหาซื้อได้ตามท้องตลาดได้เลย เสื้อนักเรียนก็แค่ปักเป็นตัวย่อโรงเรียนให้ถูกต้องก็พอ

                 คนที่ดีใจออกนอกหน้าทุกครั้งเห็นจะเป็นน้องบีม เข้าในเมืองรอบไหน ๆ ก็ตื่นเต้นตลอด บอสกะจะไปซื้อแค่ชุดนักเรียนใหม่กับกางเกงวอร์มพละใหม่ก็เท่านั้น น้องบีมเห็นจะต้องซื้อกระเป๋าใหม่เพราะอันเดิมมันขาดแล้ว ซื้อชุดนักเรียนหนึ่งชุดเหมือนกัน กางเกงวอร์มด้วย

                ส่วนรองเท้านักเรียนเห็นจะไม่จำเป็น คู่เดิมยังไม่พังเลย เพราะทุกวันน้องบีมสวมรองเท้าแตะไปโรงเรียน ทางโรงเรียนก็ไม่บังคับ สวมรองเท้าแบบไหนไปก็ได้ ไม่เหมือนโซนมัธยมที่ต้องแต่งกายให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตามหลักสากล

                  “พี่แป้งเสร็จยังทำไมชักช้า เดี๋ยวรถสองแถวก็หมดก่อน” น้องบีมรบเร้าพี่แป้ง ด้วยเกรงว่ารถสองแถวเข้าในเมืองจะหมดก่อนตามความคิดตนเอง ด้วยความรู้สึกนึกคิดตามประสาเด็ก ยืนเท้าใส่เอวมองพี่แป้งที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้าตู้กระจก ส่วนตนเองนั้นแต่งตัวเสร็จก่อนใคร

                “จะรีบอะไรนักหนาบีม ร้านเค้าไม่หนีไปไหนหรอก” พี่แป้งตอบ มองน้องบีมผ่านบานกระจก พี่แป้งกลับมาจากกรุงเทพตั้งแต่วันที่สิบ พวกเธอนัดกันไว้ล่วงหน้าแล้วว่าพอพี่แป้งกลับมาบ้านพวกเธอจะพากันไปซื้อชุดนักเรียน น้องบีมนับนิ้วรอทุกวัน น้องคงจะดีใจนั่นแหละที่วันนี้มาถึงสักที

                “ก็เดี๋ยวไม่มีรถไปเมืองหรอก น้องบีมเห็นรถมันผ่านไปแล้วสิบคันอ่ะ” น้องบีมก็ยังยืนกดดันพี่แป้งอยู่ บอสเองมองน้องสาวด้วยความเอือมระอา อะไรก็ไม่พอดีสักอย่าง จะตื่นเต้นอะไรนักหนา ตื่นก็ตื่นเช้ากว่าใคร ปกติเคยตื่นเช้าแบบวันนี้ที่ไหน พอวันนี้จะเข้าไปในเมืองยายไม่ต้องปลุกกันเลย น้องบีมตื่นเอง

               “ตื่นเต้นกะตื่นเต้นบ่คือน้อบีม กะดึกกะดึ้น” อดไม่ได้ที่จะประชดประชันน้องสาวไป “มันจะได้ไปหรอก เดี๋ยวก็ไม่ให้ไปด้วยซะเลย” ระหว่างรอพี่แป้งกับพี่ปาวแต่งตัว บอสก็เปิดทีวีฆ่าเวลา มีเพียงน้องสาวของตนคนเดียวที่นั่งก้นไม่ติดพื้น เพราะความอยากไปมากตื่นเต้นมาก

              “ไปคือเก่า ! น้องบีมไม่ได้ไปกับพี่บอส น้องบีมไปกับพี่ปาวพี่แป้ง” น้องบีมพูดสะบัดสะบิ้ง เบะปากให้เธออย่างน่าหมั่นไส้นัก คิดว่าได้เปรียบ บอสเองก็เบะปากให้น้องคืน เป็นภาพเหตุการณ์ปกติที่ทุกคนในบ้านเคยเห็น สามนาทีดีสี่นาทีร้ายสำหรับพวกเธอสองคนพี่น้อง โดนยายดุก็เท่านั้น พวกเธอไม่จำ

               “เอ้อ ! อย่ามาเดินด้วยนะ แบ่งเงินกันมั้ย ! เงินใครหมดก่อนก็ไม่ต้องมาขอค่าโดยสารกลับนะ”  บอสกับน้องบีมกำลังจะเปิดศึกกันในบ้าน สุดท้ายก็โดนพี่ปาวสกัดไว้เสียก่อน พวกเธอทะเลาะกันไม่เลือกเวลาและสถานที่ถ้ายายไม่อยู่

                 “เสร็จแล้ว ! ปะ ๆ อย่าพึ่งกัดกันพวกสูสองตัวหนิ ไปบีมเดินไปรอรถที่ร้านค้าป้าสุ่มเลย” พี่ปาวห้ามทับไว้ทัน “พี่ชายมืงไปไหนเนี่ย บอลไปมั้ยไหนบอกจะไปด้วย” พี่ปาวถามหาน้องชายลูกพี่ลูกน้องอีกคน ส่วนพี่บอมไม่ขอไปด้วย ฝากพี่ปาวซื้อแค่กางเกงวอร์มใหม่มาให้ก็พอ อมเงินป้าที่ให้มาซื้อชุดนักเรียนใหม่ไปทำอย่างอื่นแทน

                 “พี่บอลรออยู่บ้านป้าสุ่มแล้ว” น้องบีมตอบด้วยความอยากไปรอรถสองแถวมาก ที่จริงก็วิ่งไปวิ่งมาระหว่างสองบ้านนี้แต่เช้า

                  “ไป ๆ งั้นพวกเราออกไปกันเลย” พี่ปาวพูด พร้อมพาพวกเธอเดินไปรอรถสองแถวหน้าบ้านของป้า บ้านของเธอไม่ได้อยู่ติดถนน ระหว่างเดินไปรอรถ ด้วยความหมั่นไส้น้องสาวคราวที่เถียงกันในบ้านตอนที่รอพี่สาวแต่งตัว ยังไม่หายหมั่นไส้ดี บอสแอบยื่นมือไปดึงผมน้องบีม แกล้งให้หายหมั่นไส้สักหน่อย

                   “ฮ่วย !” น้องบีมสบถ หันมามองค้อนขมวดคิ้วทำหน้าดุให้ ส่วนตนเองทำหน้าตาเฉย พอน้องบีมหันไปอีกบอสก็ดึงผมอีก “ฮ่วย ! อี่บอส ! พี่ปาวบอกอี่บอสแน่มันกวนบีม มันดึงผมบีม“ น้องบีมกัดฟันหันมามองด้วยความกราดเกรี้ยว ฟ้องพี่ปาวไปที อีกทั้งจะร้องไห้ที่โดนแกล้ง ส่วนบอสนั้นกลั้นหัวเราะเอาไว้ ทำหน้าทะเล้นลอยหน้าลอยตาให้น้องสาว

                “บอสมืงกวนมันหยังเดี๋ยวหนิ อิหนิแหมะ” พี่แป้งเอ็ดเข้าให้ เมื่อโดนพี่แป้งดุศึกจึงสงบชั่วคราว และคงจะสงบทั้งวันในวันนี้ บอสก็ไม่ได้จริงจังกับการแกล้งน้องนัก แค่ทำเอาสนุก ๆ นึกสะใจที่ได้แกล้ง

                พวกเธอห้าคนพี่น้องนั่งรอรถที่ร้านค้าของป้า พูดคุยกันไปเรื่อย ส่วนน้องบีมก็ไม่อยู่นิ่งกับที่ตื่นเต้นที่จะได้เข้าไปในเมืองเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา ไม่นานก็ได้ยินเสียงแตรรถสองแถวดังมาแต่ไกล คนที่ไปยืนรอชิดขอบถนนคอยกวักมือเรียกเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากน้องบีมอีกตามเคย

                 วันนี้รถสองแถวค่อนข้างแน่น เนื่องจากว่าก็มีผู้ปกครองพาบุตรหลานไปซื้อชุดนักเรียนเหมือนกัน ทว่าก็ยังพอนั่งได้สบาย ไม่เบียดเสียดกันเหมือนเทศกาลงานกาชาด ถ้าเป็นเทศกาลนั้นเสาร์อาทิตย์อย่าคิดว่าผู้โดยสานปลายทางจะได้นั่ง เผลอ ๆ ต้องรอคันแล้วคันเล่าถึงจะได้ไปอีกด้วยซ้ำ แต่วันนี้การนั่งรถสองแถวเข้าไปในเมืองของพวกเธอค่อนข้างสบาย ผู้โดยสารเต็มคันรถก็จริง มันก็ยังไม่ถึงกับแน่น

               ระหว่างทางนั่งรถสำหรับใครที่มาด้วยกันก็ต่างคุยต่างสนทนากันถึงเรื่องต่าง ๆ พี่ปาวกับพี่แป้งและพี่บอลก็ต่างพูดคุยกันถึงเรื่องนั่นเรื่องนี้ไปเรื่อย ส่วนน้องบีมหันหน้าปะทะลมร้องเพลงเบา ๆ ตามประสาเด็ก คงจะเพลิดเพลินอยู่ในใจ สำหรับเธอนั่งเงียบ ๆ ฟังทุกคนในรถพูดคุยกันอย่างเพลินใจเหมือนกัน

               “บีมอย่ายื่นแขนกับหัวออกไปนะ “ เมื่อเห็นน้องหันหน้ามองข้างทาง เอาใบหน้าต้านลมร้องเพลงอย่างสบายใจ บอสที่นั่งตรงข้ามกับน้องสาวพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง น้องบีมนั่งฝั่งเดียวกันกับพี่ปาว เธอนั่งฝั่งเดียวกันกับพี่แป้งส่วนพี่บอลนั่นยืนที่ท้ายรถ

                  น้องบีมไม่ตอบทำเพียงพยักหน้ารับ ไม่สนใจคุยกับเธอ หันไปมองข้างทางร้องเพลงเช่นเดิม ไม่นานรถสองแถวก็วิ่งเข้ามาถึงในตัวเมือง คิวรถหมู่บ้านของเธออยู่ตรงตลาดสดพอดี พอรถจอดสนิททุกคนทยอยกันลง ค่าโดยสารคนละ 10 บาทเท่านั้นเอง บอสสังเกตว่าทุกคนจะมุ่งหน้าไปยังร้านขายชุดนักเรียนกันหมด และเป็นที่เดียวกันกับพวกเธอจะไป มีบ้างส่วนน้อยที่เดินเข้าไปในตลาดสด

               “บอสว่าคนแน่นร้านแน่พี่ปาวดูดิ หลั่งหร่วยหร่าย ๆ กันไปยุ” อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา พี่ ๆ ทั้งสามคนหันไปมองตาม พี่ปาวรับหน้าที่จูงแขนน้องบีม กลัวว่ารถจะเฉี่ยวเอาได้ ในเมืองแบบนี้รถลาวิ่งเยอะจะเผลอไม่ได้

                 “เยอะก็จำใจล่ะ ได้มาแล้ว ! ” พี่ปาวตอบ

              “ก็เปิดเทอมพร้อมกันน้อสู โรงเรียนไหน ๆ ก็เปิดพร้อมกันล่ะ” พี่แป้งตอบ ส่วนพี่บอลไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรด้วย พี่ ๆ พาไปไหนทำอะไรก็ทำ แต่งตัวสวมกางเกงขาเดฟมาก ไม่พอแถมยังรีดลนเทียนให้มันแข็งไปอีก บอสไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม มันเท่ตรงไหน เดินก็ไม่สะดวก ปรายตามองพี่ชาย รสนิยมการแต่งตัวก็พอได้ พี่บอลมีคนคุยแล้วด้วย แอบยิ้มให้กับพี่ชายคนเดียว

              พี่ปาวพาพวกเธอเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามตลาดสด ซึ่งมีชื่อว่าร้านเจริญพาณิชย์ ตั้งอยู่ตรงข้ามธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีผู้คนทั่วทุกทิศมาจับจ่ายซื้อชุดนักเรียนให้บุตรหลาน บอสมองแล้วก็อิจฉาเด็กคนอื่น ๆ ที่เขาได้มากับพ่อแม่ ส่วนน้องบีมมากับพี่สาว เด็กรุ่นเดียวกันมากับพ่อแม่พูดเจี๊ยวจ๊าวน่าฟัง โดนเอาอกเอาใจบางคนก็โดนดุกันไป ถึงอย่างไรมันก็น่าฟังและน่ามองอยู่ในตัวของมัน มองแล้วก็ได้แค่ยิ้ม ๆ กับภาพที่เห็น

               แม่ค้าพ่อค้าให้การต้อนรับอย่างดี ภายในร้านอากาศอบอ้าวมาก ๆ ถึงอย่างไรก็ต้องทน บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านขายชุดนักเรียนต่อแถวกันยาวไปไกล มีชุดนักเรียนห้อยต่องแต่งโชว์อยู่บนศีรษะ ทั้งกระเป๋าแขวนโชว์ไว้ กล่องรองเท้านักเรียนกองเทินกันขึ้นเป็นกำแพง ดีที่ทางร้านยังมีพัดลมเป่าระบายความร้อนให้ บอสอึดอัดมากร้อนก็ร้อน มองไปยังน้องบีมเหงื่อซึมไปตามไรผม แต่เด็กเล็ก ๆ คงร้อนไม่เป็น

                พี่บอลเดินเลือกหาสิ่งที่ตัวเองจะซื้อ พี่ปาวพี่แป้งเดินเลือกหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทั้งหมดอยู่ภายในร้านเดียวกัน เลือกมุมใครมุมมัน ส่วนเธอดูชุดนักเรียนให้น้องบีมก่อนค่อยเลือกของตนเอง ชุดมีเยอะแยะมากมายจนเลือกไม่ถูก

               “ดูของใครก่อน โรงเรียนใส่ชุดแบบไหนลูก” แม่ค้าวัยกลางคนพูดคุยสอบถามพวกเธอสองพี่น้อง “แขนตุ๊กตามั้ย ส่วนมากจะเป็นเสื้อทรงนี้กัน” แม่ค้าหยิบขึ้นมาให้ดู

                 “ใช่ค่ะ ทรงนี้เลย บีมไหนลองดิ ใส่ได้มั้ย” บอสบอกให้น้องสาวลองสวมเสื้อนักเรียนดู สวมทับเสื้อยืดที่ใส่มาไปเลย

                 “แม่ว่าเบอร์เอสมันแน่นนะ ลองเบอร์เอ็มมั้ยจะพอดีเลย” บอสพิจารณาดู ๆ แล้วที่น้องบีมลองสวมมันดูแน่นจริง ๆ

                  “ไม่ใช่เพราะมีเสื้อข้างในนะคะ”

                 “ไม่ ๆ มันแน่นจริง ดูตรงจั๊กแร้น้องดิ แน่นเชียว” แม่ค้าจับตัวน้องบีมหันให้เธอดูมันแน่นจริง ๆ ตึงมาก “ไหนลองเบอร์เอ็มซิ” แม่ค้าแกะเสื้อนักเรียนไซร้เอ็มให้น้องบีมลองต่อ ปรากฎว่าใส่ได้พอดี

               “แม่ค้าเอาเบอร์เอ็มก็ได้ค่ะ บีมว่าไงเอาตัวนี้น้อ” บอสถามความเห็นเจ้าตัว เพราะเป็นคนใส่เอง น้องบีมพยักหน้าเป็นคำตอบ เหงื่อก็ผุดขึ้นตามไรผมและใบหน้า เธอยิ้มให้ด้วยความเอ็นดูน้องสาว

                “เอาตราอะไรลูก ตราสมอหรือเมืองทอง”

                 “เอาตราเมืองทองค่ะ กระโปรงด้วยนะแม่ค้า “

                  “จ้า “ แม่ค้าตอบพร้อมเดินไปหยิบกระโปรงนักเรียนมาให้น้องบีมลองสวม ปรากฎว่าสวมใส่ได้พอดี บอสจึงตอบตกลงเอาหนึ่งชุด ยังไม่พอซื้อกางเกงวอร์มให้น้องบีมใหม่ด้วย ตัวเดิมเก่าหมดแล้ว พอของน้องบีมได้ครบตามต้องการก็เป็นทีของเธอที่จะเลือก

                   บอสซื้อชุดนักเรียนหนึ่งชุดเช่นกัน ของเธอใส่ตราสมอ เป็นชุดนักเรียนระดับ ม.ต้น เสื้อคอซองแขนตุ๊กตา กางเกงวอร์ม ถุงเท้า และโบว์แขวนคอ บอสซื้อโบว์ไปสองสี สีดำกับสีกรมท่า โรงเรียนไม่ได้ให้ใช้สีดำ แต่บอสก็ซื้อจะแอบใส่ อาจารย์บรรจงไม่มีทางจับได้แน่นอน เพราะไม่ได้สอน ม. ต้น

                  ที่เหลือบอสยังใช้ได้อยู่ พวกรองเท้ากับชุดเนตรนารียังใช้ได้ไม่ต้องซื้อใหม่ กระเป๋าก็ยังใช้ได้อยู่ เอาไว้ขาดเมื่อไหร่ค่อยมาซื้อใหม่อีกที ของพวกนี้ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ทั้งสามชั้นปีกันเลย ยกเว้นแค่ชุดนักเรียนที่ต้องเปลี่ยน ใจจริงบอสอยากเปลี่ยนทุกเทอมด้วยซ้ำ เสียก็แต่แม่ไม่อนุมัติให้ซื้อก็เท่านั้น ให้ซื้อปีละครั้งพอ

                   “จะปักชื่อด้วยมั้ย หรือจะเอาไปปักเอง” แม่ค้าถามพวกเธอสองคนพี่น้อง ส่วนพี่ ๆ ก็มีแม่ค้าคนอื่นดูแลอยู่

                “ปักชื่อด้วยค่ะ” บอสตอบ

                 “เขียนชื่อและตัวย่อโรงเรียนให้แม่ค้าเลยลูก อีกสามวันค่อยมารับนะ นี่บิลถือบิลนี้มาด้วย” แม่ค้ายื่นกระดาษให้เธอเขียนชื่อนามสกุลและตัวย่อโรงเรียน พอเขียนเสร็จบอสจ่ายเงินเรียบร้อย มารอพี่แป้งที่ยังซื้อไม่เสร็จ ส่วนพี่ปาวพี่บอลเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่