สวัสดีค่ะ เราอายุ21ปี
ที่บ้านชอบบอกว่าเราเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ขี้งกเกินไป
เดิมทีเราเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยค่ะ เราจะคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันแฟร์ต่อคนอื่นหรือไม่แล้วสิ่งที่คนอื่นทำมันแฟร์ต่อเราหรือไม่?
เราเป็นคนขี้รำคาญเวลาคนรอบตัวกินเสียงดังโดยเฉพาะกับน้องสาวเรา เราคิดว่าที่เราเป็นแบบนี้คือตอนเด็กๆพ่อกับแม่เคร่งเรื่องมารยาทกับเรามากๆ
เช่น กินห้ามเคี้ยวอ้าปาก, กินแล้วห้ามมีเสียงดังแจ๊บๆๆๆๆ, ห้ามเดินขาถ่าง, ห้ามปล่อยตัวเองให้ดูโทรม , ห้ามเห็นแก่ตัว ,มีอะไรต้องแบ่งให้น้องเพราะเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง
ด้วยกฏหลายๆอย่างที่พ่อแม่เราตั้ง มันบีบให้เราต้องคิดเสมอว่า สิ่งที่เราทำมันผิดหรือถูก? เราต้องคอยหาตรรกะต่างๆมาตอบตัวเองว่าสิ่งที่เราทำนั้น มันสมเหตุสมผแล้วหรือไม่?
มันทำให้เรากลายเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อยเกินไป..
พฤติกรรมที่เราไม่มั่นใจเลยว่าถูกหรือผิดนั่นก็คือเราขี้งก
เราเริ่มสนใจทำเบเกอรี่มาได้สักระยะแล้ว อุปกรณ์ทุกอย่าง เราจัดหามาเองหมด(เงินที่ซื้อก็มาจากเงินเหลือค่าขนมที่แม่ให้ในแต่ละเดือน) เราอนุญาติให้ที่บ้านใช้อุปกรณ์ของเราได้ เว้นแต่ ใครใช้ต้องล้างด้วย ในส่วนของวัตถุดิบเราก็อนุญาตให้ใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ประเด็นคือ น้องสาวเรา(เด็กกว่าเรา5ปี) ชอบใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบของเรา แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจนั้นคือบางวัตถุดิบน้องสาวเราใช้ไปครึ่งหนึ่งจากของที่เรามีอยู่ หรือใช้จนวัตถุดิบเหลือน้อย ในความรู้สึกของเราคือ ในเมื่อน้องยังขอตังค์แม่ใช้ เราเองก็ยังขอตังค์แม่ใช้ ทำไมน้องเราถึงไม่นึกเอะใจสักนิดว่าไม่ควรใช้วัตถุดิบของเรามากจนเกินไป มากจนเป็นเราที่ต้องคอยซื้อเติมแล้วไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่เราเสียเงินซื้อไป เรารู้สึกไม่แฟร์ที่เราจะต้องเสียตังค์ให้คนอื่นใช้ทั้งๆที่รายได้ต่อเดือนของเรากับน้องก็พอๆกัน
เรารู้สึกว่าถ้าน้องชอบในการทำขนมเหมือนกัน น้องควรมาตกลงกับเราว่าจะช่วยกันเรื่องค่าวัตถุดิบอะไรได้บ้าง ไม่ใช้ให้เราออกเงินซื้อแล้วของใช้ของที่เราซื้ออยู่คนเดียว เราจะไม่คิดมากเลยถ้ามีทำงานมีเงินเดือน15,000 แล้สเราต้องจ่าย300-400ต่อเดือน ตอนนี้รายได้เราอยู่ที่2,000 เท่าน้อง เงิน300-400ถือว่าเยอะมากสำหรับเรา
พอเราเรียกน้องมาคุยบอกให้น้องออกเงินซื้อวัตถุดิบเข้าบ้านบ้าง น้องก็ไปฟ้องแม่ แม่เราก็บอกว่าเราเห็นแก่ตัว ของแค่นี้ให้น้องไม่ได้ ขี้งกเกินเหตุ
ทุกคนคิดว่าไงคะ? หรือเป็นเราที่ขี้งกจริงๆ
เราไม่แน่ใจว่าเราขี้งกเกินไปรึเปล่า?
ที่บ้านชอบบอกว่าเราเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ขี้งกเกินไป
เดิมทีเราเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยค่ะ เราจะคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันแฟร์ต่อคนอื่นหรือไม่แล้วสิ่งที่คนอื่นทำมันแฟร์ต่อเราหรือไม่?
เราเป็นคนขี้รำคาญเวลาคนรอบตัวกินเสียงดังโดยเฉพาะกับน้องสาวเรา เราคิดว่าที่เราเป็นแบบนี้คือตอนเด็กๆพ่อกับแม่เคร่งเรื่องมารยาทกับเรามากๆ
เช่น กินห้ามเคี้ยวอ้าปาก, กินแล้วห้ามมีเสียงดังแจ๊บๆๆๆๆ, ห้ามเดินขาถ่าง, ห้ามปล่อยตัวเองให้ดูโทรม , ห้ามเห็นแก่ตัว ,มีอะไรต้องแบ่งให้น้องเพราะเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง
ด้วยกฏหลายๆอย่างที่พ่อแม่เราตั้ง มันบีบให้เราต้องคิดเสมอว่า สิ่งที่เราทำมันผิดหรือถูก? เราต้องคอยหาตรรกะต่างๆมาตอบตัวเองว่าสิ่งที่เราทำนั้น มันสมเหตุสมผแล้วหรือไม่?
มันทำให้เรากลายเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อยเกินไป..
พฤติกรรมที่เราไม่มั่นใจเลยว่าถูกหรือผิดนั่นก็คือเราขี้งก
เราเริ่มสนใจทำเบเกอรี่มาได้สักระยะแล้ว อุปกรณ์ทุกอย่าง เราจัดหามาเองหมด(เงินที่ซื้อก็มาจากเงินเหลือค่าขนมที่แม่ให้ในแต่ละเดือน) เราอนุญาติให้ที่บ้านใช้อุปกรณ์ของเราได้ เว้นแต่ ใครใช้ต้องล้างด้วย ในส่วนของวัตถุดิบเราก็อนุญาตให้ใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ประเด็นคือ น้องสาวเรา(เด็กกว่าเรา5ปี) ชอบใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบของเรา แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจนั้นคือบางวัตถุดิบน้องสาวเราใช้ไปครึ่งหนึ่งจากของที่เรามีอยู่ หรือใช้จนวัตถุดิบเหลือน้อย ในความรู้สึกของเราคือ ในเมื่อน้องยังขอตังค์แม่ใช้ เราเองก็ยังขอตังค์แม่ใช้ ทำไมน้องเราถึงไม่นึกเอะใจสักนิดว่าไม่ควรใช้วัตถุดิบของเรามากจนเกินไป มากจนเป็นเราที่ต้องคอยซื้อเติมแล้วไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่เราเสียเงินซื้อไป เรารู้สึกไม่แฟร์ที่เราจะต้องเสียตังค์ให้คนอื่นใช้ทั้งๆที่รายได้ต่อเดือนของเรากับน้องก็พอๆกัน
เรารู้สึกว่าถ้าน้องชอบในการทำขนมเหมือนกัน น้องควรมาตกลงกับเราว่าจะช่วยกันเรื่องค่าวัตถุดิบอะไรได้บ้าง ไม่ใช้ให้เราออกเงินซื้อแล้วของใช้ของที่เราซื้ออยู่คนเดียว เราจะไม่คิดมากเลยถ้ามีทำงานมีเงินเดือน15,000 แล้สเราต้องจ่าย300-400ต่อเดือน ตอนนี้รายได้เราอยู่ที่2,000 เท่าน้อง เงิน300-400ถือว่าเยอะมากสำหรับเรา
พอเราเรียกน้องมาคุยบอกให้น้องออกเงินซื้อวัตถุดิบเข้าบ้านบ้าง น้องก็ไปฟ้องแม่ แม่เราก็บอกว่าเราเห็นแก่ตัว ของแค่นี้ให้น้องไม่ได้ ขี้งกเกินเหตุ
ทุกคนคิดว่าไงคะ? หรือเป็นเราที่ขี้งกจริงๆ