สึบาเมะ-ซันโจ: ธรรมชาติที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงานฝีมือที่สวยงาม
จองตั๋วรถไฟชินคันเซ็นแล้วไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน! นีกาตะเป็นจังหวัดที่มีชื่อว่ามีภูเขาที่สวยงาม มีทุ่งนา ทุ่งโซบะ ศาลเจ้าสวยงาม และทะเลสีคราม ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางไปยังสถานี Tsubamesanjō ในจังหวัดนีกาตะ เพื่อชมโรงงานและร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปทำงานฝีมือ ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมเหล่านี้มีวิวัฒนาการมาจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในบริเวณนี้ และยังเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยทรัพยากรและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สร้างแรงบันดาลใจให้รังสรรค์ผลงานดีๆมาหลายรุ่น
เดินทางไปสถานี Tsubamesanjō
การเดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็นไปยังสถานี Tsubamesanjō นั้นสะดวกมากๆ เพราะอยู่บนสาย Jōetsu Shinkansen Line ซึ่งเริ่มจากสถานี Tokyo จากนั้นหยุดที่สถานี Ueno (และอีกหลายสถานีในจังหวัดไซตามะและกุนมะ) ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนีกาตะ และเข้าสู่จุดหมายของเรา Tsubamesanjō
การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมง จึงเหมาะกับการเดินทางในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือจะใช้บัตร JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
http://www.jreast.co.jp/multi/th/pass/index.html ที่สามารถใช้ได้ทั้ง JR EAST shinkansen, limited express trains และรถบัสของ JR ภายในเวลา 5 วัน ราคา 18,000 เยน (รวมภาษี) ซึ่งโดยปกติแล้วหากจองรถไฟชินคันเซ็นแบบไปกลับ จากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Tsubamesanjō ราคาก็เกือบ 19,000 เยนแล้ว แต่หากซื้อ JR PASS ก็สามารถเดินทางได้ได้ทั่ว จ.นีกาตะและจ.นากาโนะ และไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ก็สามารถใช้บัตรชนิดนี้ได้!
JR East
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)
https://www.jreast.co.jp/e/ | สำรองที่นั่งรถไฟ (ภาษาอังกฤษ)
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx?src=pcbp&_ga=2.81242327.1366500682.1618454587-1904229187.1604561350
ภูเขายาฮิโกะ: การเดินป่าในบรรยากาศอันเงียบสงบและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
ภูเขายาฮิโกะมีความเชื่อมโยงกับความเชื่อทางวิญญาณในท้องถิ่น เทพเจ้าของญี่ปุ่น และตำนานมายาวนาน ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ (神体山) โดยมีตำนานเล่าว่า เทพเจ้า Ame no Kagoyama no Mikoto มาถึงภูเขายาฮิโกะอันไกลโพ้น และสอนชาวบ้านถึงวิธีการใช้ชีวิตนอกแผ่นดินและความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งสิ่งที่หลงเหลือนี้ยังคงมีอยู่ให้เห็นในศาลเจ้ายาฮิโกะที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่เชิงเขารวมทั้งศาลเจ้าเล็ก ๆ บนยอดเขา ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังมุ่งหน้าไปที่ภูเขายาฮิโกะเพื่อชมเส้นทางเดินป่า และทิวทัศน์ที่สวยงามจากยอดเขา ที่มีความสูงเท่ากับโตเกียวสกายทรี
ดื่มด่ำกับธรรมชาติ: ขึ้นกระเช้า ชมวิวบนเขายาฮิโกะ
สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการขึ้นไปยังยอดเขายาฮิโกะก็คือ การเดินทางด้วยกระเช้า (ropeway) ที่มีสถานีอยู่บริเวณเชิงเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลเจ้ายาฮิโกะ และกระเช้าจะพาเราไปจนถึงบริเวณจุดชมวิวบนยอดเขา นอกจากนี้การขึ้นกระเช้าไม่เพียงแต่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน และได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของภูมิทัศน์ชนบทรอบภูเขายาฮิโกะอีกด้วย
ขณะนั่งอยู่ในกระเช้า อย่าลืมมองวิวด้านล่าง เพราะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์จะออกดอกเพิ่มสีสันให้กับทิวทัศน์ด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นซากุระภูเขา (山桜) ที่เริ่มบานในเดือนมีนาคม ซากุระที่มีกลีบซ้อนกัน (八重桜) และซากุระยาฮิโกะ (弥彦桜) ที่มีกลีบดอก 6 กลีบ ต่างจากซากุระทั่วไปที่มี 5 กลีบ และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม
Mount Yahiko Ropeway (弥彦山ロープウェイ)
Lower Station: 2898 Yahiko, Nishikambara District, Niigata
http://goo.gl/maps/oe12S8ERX9HA2ZVz6
ราคาตั๋วไปกลับ: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 750 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.hotel-juraku.co.jp/yahiko/
กระเช้านั้นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้น เพราะเมื่อไปถึงจุดชมวิวด้านบน ก็จะสามารถมองเห็นวิวในระดับที่เท่ากับโตเกียวสกายทรี มองเห็นทะเลญี่ปุ่นที่ด้านหนึ่งของภูเขายาฮิโกะ ทุ่งหญ้า และป่าที่อยู่ตรงข้าม ในฤดูร้อนบรรดาดอกไฮเดรนเยียและดอก dogtooth violets บานเต็มเส้นทาง
นอกจากนี้ยังมีที่ให้นั่งพัก ร้านกิ๊ฟช็อป ร้านขายของว่างและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอุด้งร้อนๆ และมิโซะคอนยัคคุ ที่ทำจากหัวบุกคอนยัคคุและมิโซะสูตรพิเศษ รวมทั้งยังสามารถสนุกกับ “climbing car” ภายใน panorama tower พร้อมกับวิวแบบ 360 องศา
Panorama Tower
2898 Yahiko, Yahiko-mura, Nishikanbara-gun, Niigata
http://goo.gl/maps/roEaXsmUAET815f8A
ราคาตั๋ว: ผู้ใหญ่ 650 เยน / เด็ก 350 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.hotel-juraku.co.jp/yahiko/
นั่งรถไฟ JR EAST เที่ยวสึบาเมะ-ซันโจ (3) ธรรมชาติในนีกาตะ ภูเขา แผ่นดิน และทะเล
จองตั๋วรถไฟชินคันเซ็นแล้วไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน! นีกาตะเป็นจังหวัดที่มีชื่อว่ามีภูเขาที่สวยงาม มีทุ่งนา ทุ่งโซบะ ศาลเจ้าสวยงาม และทะเลสีคราม ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางไปยังสถานี Tsubamesanjō ในจังหวัดนีกาตะ เพื่อชมโรงงานและร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปทำงานฝีมือ ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมเหล่านี้มีวิวัฒนาการมาจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในบริเวณนี้ และยังเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยทรัพยากรและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สร้างแรงบันดาลใจให้รังสรรค์ผลงานดีๆมาหลายรุ่น
เดินทางไปสถานี Tsubamesanjō
การเดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็นไปยังสถานี Tsubamesanjō นั้นสะดวกมากๆ เพราะอยู่บนสาย Jōetsu Shinkansen Line ซึ่งเริ่มจากสถานี Tokyo จากนั้นหยุดที่สถานี Ueno (และอีกหลายสถานีในจังหวัดไซตามะและกุนมะ) ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนีกาตะ และเข้าสู่จุดหมายของเรา Tsubamesanjō
การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมง จึงเหมาะกับการเดินทางในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือจะใช้บัตร JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) http://www.jreast.co.jp/multi/th/pass/index.html ที่สามารถใช้ได้ทั้ง JR EAST shinkansen, limited express trains และรถบัสของ JR ภายในเวลา 5 วัน ราคา 18,000 เยน (รวมภาษี) ซึ่งโดยปกติแล้วหากจองรถไฟชินคันเซ็นแบบไปกลับ จากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Tsubamesanjō ราคาก็เกือบ 19,000 เยนแล้ว แต่หากซื้อ JR PASS ก็สามารถเดินทางได้ได้ทั่ว จ.นีกาตะและจ.นากาโนะ และไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ก็สามารถใช้บัตรชนิดนี้ได้!
JR East
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.jreast.co.jp/e/ | สำรองที่นั่งรถไฟ (ภาษาอังกฤษ) https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx?src=pcbp&_ga=2.81242327.1366500682.1618454587-1904229187.1604561350
ภูเขายาฮิโกะ: การเดินป่าในบรรยากาศอันเงียบสงบและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
ภูเขายาฮิโกะมีความเชื่อมโยงกับความเชื่อทางวิญญาณในท้องถิ่น เทพเจ้าของญี่ปุ่น และตำนานมายาวนาน ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ (神体山) โดยมีตำนานเล่าว่า เทพเจ้า Ame no Kagoyama no Mikoto มาถึงภูเขายาฮิโกะอันไกลโพ้น และสอนชาวบ้านถึงวิธีการใช้ชีวิตนอกแผ่นดินและความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งสิ่งที่หลงเหลือนี้ยังคงมีอยู่ให้เห็นในศาลเจ้ายาฮิโกะที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่เชิงเขารวมทั้งศาลเจ้าเล็ก ๆ บนยอดเขา ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังมุ่งหน้าไปที่ภูเขายาฮิโกะเพื่อชมเส้นทางเดินป่า และทิวทัศน์ที่สวยงามจากยอดเขา ที่มีความสูงเท่ากับโตเกียวสกายทรี
ดื่มด่ำกับธรรมชาติ: ขึ้นกระเช้า ชมวิวบนเขายาฮิโกะ
สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการขึ้นไปยังยอดเขายาฮิโกะก็คือ การเดินทางด้วยกระเช้า (ropeway) ที่มีสถานีอยู่บริเวณเชิงเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลเจ้ายาฮิโกะ และกระเช้าจะพาเราไปจนถึงบริเวณจุดชมวิวบนยอดเขา นอกจากนี้การขึ้นกระเช้าไม่เพียงแต่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน และได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของภูมิทัศน์ชนบทรอบภูเขายาฮิโกะอีกด้วย
ขณะนั่งอยู่ในกระเช้า อย่าลืมมองวิวด้านล่าง เพราะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์จะออกดอกเพิ่มสีสันให้กับทิวทัศน์ด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นซากุระภูเขา (山桜) ที่เริ่มบานในเดือนมีนาคม ซากุระที่มีกลีบซ้อนกัน (八重桜) และซากุระยาฮิโกะ (弥彦桜) ที่มีกลีบดอก 6 กลีบ ต่างจากซากุระทั่วไปที่มี 5 กลีบ และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม
Mount Yahiko Ropeway (弥彦山ロープウェイ)
Lower Station: 2898 Yahiko, Nishikambara District, Niigata http://goo.gl/maps/oe12S8ERX9HA2ZVz6
ราคาตั๋วไปกลับ: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 750 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.hotel-juraku.co.jp/yahiko/
กระเช้านั้นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้น เพราะเมื่อไปถึงจุดชมวิวด้านบน ก็จะสามารถมองเห็นวิวในระดับที่เท่ากับโตเกียวสกายทรี มองเห็นทะเลญี่ปุ่นที่ด้านหนึ่งของภูเขายาฮิโกะ ทุ่งหญ้า และป่าที่อยู่ตรงข้าม ในฤดูร้อนบรรดาดอกไฮเดรนเยียและดอก dogtooth violets บานเต็มเส้นทาง
นอกจากนี้ยังมีที่ให้นั่งพัก ร้านกิ๊ฟช็อป ร้านขายของว่างและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอุด้งร้อนๆ และมิโซะคอนยัคคุ ที่ทำจากหัวบุกคอนยัคคุและมิโซะสูตรพิเศษ รวมทั้งยังสามารถสนุกกับ “climbing car” ภายใน panorama tower พร้อมกับวิวแบบ 360 องศา
Panorama Tower
2898 Yahiko, Yahiko-mura, Nishikanbara-gun, Niigata http://goo.gl/maps/roEaXsmUAET815f8A
ราคาตั๋ว: ผู้ใหญ่ 650 เยน / เด็ก 350 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.hotel-juraku.co.jp/yahiko/