สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ตั้งมาเพื่อระบายความรู้สึกหลังจากดูภาพยนตร์เรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ที่ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่งตอนภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายครั้งแรกนั้นเราเพิ่งอายุ 3 ขวบ เลยไม่ได้ดู แต่เรารู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากนิตยสารดาราที่ป้าเราซื้อเก็บไว้แล้วเรามาอ่านตอนโต เลยได้รู้จักชื่อเรื่อง แล้วตอนหลังทางค่ายอัพ MV ลงใน YouTube เลยทำให้ชอบเพลงด้วย แต่ก็ยังไม่เคยดู จนช่วง WFH เดือนเมษายนนี้ เราเปิด YouTube ดูไปเรื่อย ๆ จนเจอภาพยนตร์เรื่อง ล่องจุ๊น ขอหมอนใบน้นที่เธอฝันยามหนุน เลยตัดสินใจดู เพราะชอบความดราม่าของเนื้อเรื่อง(เคยดูเวอร์ชั่น Exact) ดูแล้วชอบคุณเต๋าค่ะ แววตาเค้าตอนนั่นดูใสมาก ที่ยิ่งกว่านั้นคือชอบทรงผมตอนฉากเรียนช่าง เลยไปหาภาพยนตร์ของคุณเต๋าที่ทำผมแนวเดียวกัน เวลาออกฉายไม่ห่างกันนานเกิน นั่นก็คือเรื่อง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ซึ่งมีใน YouTube อยู่ 2 ช่องลิขสิทธิ์ มีใน WeTV ด้วยนะคะ
เป็นเรื่องราวของไม้(สมชาย เข็มกลัด) กับเม่น(ปราโมทย์ แสงศร) สองพี่น้องที่หลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน นั่นก็คือ ป้อน(สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา) โดยไม้กับป้อนนี่เค้าปิ๊ง ๆ กันมาก่อน เพราะไม้ไปช่วยเปิดกุญแจกับซ่อมรถให้พ่อของป้อน แต่ตาเม่นก็ไปชอบป้อนด้วย ซึ่งพอไม้รู้เรื่อง ไม้ก็หลีกทางให้โดยไม่ยอมพูดความรู้สึกกับใคร มีแต่พี่โบ้(อรุณ ภาวิไล) ที่รู้เรื่องนี้ ต่อมาพ่อของไม้และเม่นป่วย ต้องใช้เงินเป็นแสนในการรักษาตัว(สมัยนั้นยังไม่มี 30 บาท) ไม้อยากได้เงินเยอะและเร็ว พี่โบ้จึงแนะนำให้รู้จักพี่โต(สุรศักดิ์ วงศ์ไทย) หัวหน้าแก็งค์ขโมยรถ งานแรกของไม้สำเร็จลุล่วงแม้ว่าจะขรุขระไปบ้าง แต่ยังไม่ทันได้ทำงานที่สอง เม่นดันไปเจอหลักฐานว่าไม้แอบกิ๊กกับป้อน เม่นเลยตะโกนแฉในบ้านว่าไม้ไปทำงานกับแก็งค์ขโมยรถจนพ่ออาการทรุดและเสียชีวิตลง ไม้จึงไม่อยากขโมยรถอีกแล้ว เพราะพ่อเสียแล้วไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร แต่พี่โตบอกว่าให้ช่วยอีกงานแล้วจะปบ่อยไป ไม้จึงไปทำอีกครั้ง ซึ่งถูกยามจับได้ค่ะ แต่พี่โตโรคจิตก็เข้ามาขวาง กระทืบ และขับรถชนยาม จนไม้ พี่โบ้ พี่โตไปถึงจุดนัดพบ พี่โตก็จะฆ่าไม้ทิ้ง เพราะรู้เรื่องแล้วต้องกำจัด ไม้ถูกพี่โบ้ช่วยให้หนีไปได้ แต่พี่โบ้ก็ต้องตาย เมื่อไม้หนีมาได้ก็ไปตามหาเม่น เพราะกลัวพี่โตจะไปทำร้ายเม่น ใช่ค่ะ พี่โตเอาปืนจี้เม่นไว้เป็นตัวประกันจริง ๆ ไม้ต่อสู้กับพี่โตจนพลัดตกตึกไปด้วยกันทั้งคู่ ไม้ใช้แขนข้างหนึ่งเกาะขอบกำแพงไว้ได้ทัน ส่วนอีกข้างถูกพี่โตยึดไว้จนจะตกลงไปบนพื้นด้วยกันทั้งคู่ แต่เดชะบุญของไม้ที่มือข้างที่พี่โตเกาะได้นั้นสวมกำไลไว้ แล้วกำไลก็เลื่อนไหลลงไปตามแรงฉุดจนพี่โตตกตึกไป เม่นช่วยดึงไม้ขึ้นมาและพาไปที่สนามบิน เพื่อไปเจอป้อนก่อนที่ป้อนจะบินไปเรียนที่ต่างประเทศ
หลังจากดูแล้ว เราก็รำคาญ
1. ความน่าหมั่นไส้ของเม่น คิดแต่เรื่องสาว
2. ความปากหนักของไม้ ถ้าพูดบ้างคงไม่ถูกเม่นผิดใจหรือเข้าใจผิดไปขนาดนั้น
3. ป้อนไม่ชอบเม่น แต่สิ่งที่ทำกับเม่นเขาเรียกว่าหว่านเสน่ห์ค่ะ ไม่แปลกที่เม่นจะคิดเองเออเองไปขนาดไหน
นักแสดงเล่นดีทุกคนค่ะ เราชอบนักแสดงวัยรุ่นยุคนั้นนะคะ ในแววตาจะดูใส ไม่มีจริตจก้าน คุณโมทย์เป็นเม่นได้น่าหมั่นไส้และโดดเด่นมาก และแม้ว่าบทของไม้ไม่ฉูดฉาดเท่าของเม่น แอร์ไทม์ก็น้อยกว่าเม่น และเจี๋ยมเจี้ยมมาก แต่คุณเต๋าเอาอยู่ทุกครั้งที่ออกมาค่ะ ด้วยความเท่ของคุณเค้า อยากชื่นชมคุณอรุณด้วย รู้สึกเท่ทุกครั้งที่ปลอบใจไม้
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ถ้ามองในมุมของคนยุคนี้ถือว่าเฉย ๆ ค่ะ แต่มองในมุมของยุคสมัยนั้นคือความแปลกใหม่เลย ตรงนี้จะไม่พูดมาก เพราะโตไม่ทันสมัยนั้น แต่แสง มุม องค์ประกอบต่าง ๆ มันทำให้หนังน่าดู และเราคือคนที่มีส่วนร่วม เพื่อนที่คอยเฝ้ามองชีวิตพวกเค้าอยู่ ซึ่งอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์ที่ได้ทั้งเงินและกล่อง อ่อ แล้วยังมีประโยคเด็ดอย่าง เราไม่ได้รักใครง่าย ๆ อย่างที่นายคิดนะ อีก
เพลงประกอบ ฟังอยู่เพลงเดียวค่ะ คือ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เราว่าไม่มีเวอร์ชั่นไหนบาดใจเท่าเวอร์ชั่นคุณเต๋าร้องค่ะ มันเกรี้ยวกราด แต่มีความเศร้าและอึดอัดแอบซ่อนอยู่
ทรงผม ชอบทรงผมจากเรื่องล่องจุ๊นแล้ว เรื่องนี้ก็ชอบทรงผมด้วย ยิ่งตอนยิ้มให้เม่นและป้อนแล้วหันมาเศร้า พี่โบ้เดินเข้ามากอดไหล่เนี่ย เท่มาก ทรงผมเท่ เลยไปหาดูในยูทูปว่าสมัยนั้นเค้าเรียกทรงอะไร ตัดยังไง ดูอยู่สองสามวัน ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่เป๊ะสักที รู้แต่ว่าแสกกลาง ด้านหลังรองทรง ด้านข้างเปิดใน(ตอนพ่อลูบหัวจะเห็นว่าไถด้านข้างไว้) ถ้าผมเราตรงหนา จะตัดตามค่ะ
สุดท้าย เพราะเปิดใจดูเรื่องนี้ซะที เลยทำให้ไปค้น Teen Idols แฟชั่น เพลง ละคร คอนเสิร์ตในยุค 90 แล้วเจอของดีเยอะเลย(ส่วนใหญ่เป็นตอนสมัยยังไม่รู้ความ) คือ ดีอ่ะ แล้วได้เข้าใจว่าทำไมดารา นักร้องยุคโน้นถึงยังรันวงการอยู่ได้จนถึงยุคนี้ ฝากภาพคุณเต๋าสมัยที่เราโตไม่ทันไว้ด้วยนิดนึงด้วยค่ะ ไปดูแล้วชอบ
โลกทั้งใบให้นายคนเดียว (พ.ศ. 2538) สปอยด์และความรู้สึก
หลังจากดูแล้ว เราก็รำคาญ
1. ความน่าหมั่นไส้ของเม่น คิดแต่เรื่องสาว
2. ความปากหนักของไม้ ถ้าพูดบ้างคงไม่ถูกเม่นผิดใจหรือเข้าใจผิดไปขนาดนั้น
3. ป้อนไม่ชอบเม่น แต่สิ่งที่ทำกับเม่นเขาเรียกว่าหว่านเสน่ห์ค่ะ ไม่แปลกที่เม่นจะคิดเองเออเองไปขนาดไหน
นักแสดงเล่นดีทุกคนค่ะ เราชอบนักแสดงวัยรุ่นยุคนั้นนะคะ ในแววตาจะดูใส ไม่มีจริตจก้าน คุณโมทย์เป็นเม่นได้น่าหมั่นไส้และโดดเด่นมาก และแม้ว่าบทของไม้ไม่ฉูดฉาดเท่าของเม่น แอร์ไทม์ก็น้อยกว่าเม่น และเจี๋ยมเจี้ยมมาก แต่คุณเต๋าเอาอยู่ทุกครั้งที่ออกมาค่ะ ด้วยความเท่ของคุณเค้า อยากชื่นชมคุณอรุณด้วย รู้สึกเท่ทุกครั้งที่ปลอบใจไม้
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ถ้ามองในมุมของคนยุคนี้ถือว่าเฉย ๆ ค่ะ แต่มองในมุมของยุคสมัยนั้นคือความแปลกใหม่เลย ตรงนี้จะไม่พูดมาก เพราะโตไม่ทันสมัยนั้น แต่แสง มุม องค์ประกอบต่าง ๆ มันทำให้หนังน่าดู และเราคือคนที่มีส่วนร่วม เพื่อนที่คอยเฝ้ามองชีวิตพวกเค้าอยู่ ซึ่งอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์ที่ได้ทั้งเงินและกล่อง อ่อ แล้วยังมีประโยคเด็ดอย่าง เราไม่ได้รักใครง่าย ๆ อย่างที่นายคิดนะ อีก
เพลงประกอบ ฟังอยู่เพลงเดียวค่ะ คือ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เราว่าไม่มีเวอร์ชั่นไหนบาดใจเท่าเวอร์ชั่นคุณเต๋าร้องค่ะ มันเกรี้ยวกราด แต่มีความเศร้าและอึดอัดแอบซ่อนอยู่