การขาดดุลการค้าของสหรัฐในสินค้านำเข้า พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในเดือนมีนาคม โดยบ่งชี้ว่าการค้าเป็นปัจจัยฉุดรั้ง การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรก
แต่น่าจะถูกชดเชยด้วยอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางจำนวนมาก
กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ฟื้นตัวเร็วกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับโลก
อุปสงค์ที่ถูกกักไว้ กำลังอยู่ในการนำเข้า ซึ่งจะบดบังการฟื้นตัวของการส่งออก และทำให้การขาดดุลการค้าโดยรวมสูงขึ้น
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงเหลือที่ร้านค้าปลีก ถูกดึงลงในเดือนมีนาคม ตอกย้ำความต้องการภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
'การขาดดุลสินค้าที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า การค้าจะฉุด จีดีพี ไตรมาสแรก' ไรอัน สวีท นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ มู๊ดดี้ส์ อนาลิติคส์ กล่าว
'นี่ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เนื่องจากส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ ยังคงไปได้ดี เช่น การลงทุนทางธุรกิจในอุปกรณ์ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค'
การขาดดุลการค้าสินค้า เพิ่มขึ้น 4.0% เป็น 90.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
การส่งออกสินค้า เร่งตัวขึ้น 8.7% เป็น 142.0 พันล้านดอลลาร์
โดยได้รับแรงหนุนจากการขนส่งยานยนต์ อุปกรณ์อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และทุน และอาหาร
การส่งออกที่เพิ่มขึ้นนี้ ถูกชดเชยด้วยการนำเข้าล่วงหน้า 6.8% เป็น 232.6 พันล้านดอลลาร์
การนำเข้าเพิ่มขึ้นในวงกว้าง มีการนำเข้ายานยนต์ อุปกรณ์อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหาร เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การนำเข้าสินค้าทุน ยังเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
ความต้องการ ในช่วงที่เกิดการระบาด เปลี่ยนไปเป็นสินค้า จากบริการ โดยชาวอเมริกันต้องพึ่งพาอาศัยกันที่บ้าน
การบริโภคได้รับแรงหนุน จากมาตรการกระตุ้นทางการคลัง รวมถึงชุดความช่วยเหลือ การระบาดโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว
การส่งเช็ค 1,400 เหรียญ ไปยังครัวเรือน ขยายเงินช่วยเหลือการว่างงาน 300 เหรียญ ไปจนถึงเดือนกันยายน
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การขาดดุลการค้าสินค้า จะยังคงมีอยู่มากอย่างน้อย ไปจนถึงสิ้นปี โดยความต้องการกลับไปใช้บริการ เช่น การเดินทางทางอากาศ และการรับประทานอาหารนอกบ้าน หลังจากการขยายโครงการฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกัน ที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน
'การขาดดุลสินค้า จะเริ่มลดลงในปลายปี 2022 และในปี 2022' บิล อดัมส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของพีเอ็นซีไฟแนนเชียล ในพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนียกล่าว
"ในขณะที่การแพร่ระบาด อยู่ภายใต้การควบคุมในสหรัฐฯ ผู้บริโภคชาวอเมริกัน จะใช้จ่ายกับสินค้านำเข้าน้อยลง การนำเข้าที่หดตัว และชาวต่างชาติจะซื้อสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของพวกเขาฟื้นตัวต่อไป"
https://www.reuters.com/article/us-usa-economy-idINKBN2CF1Y8
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสินค้า ตัวเลขหกคะเมนตีลังกา สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในเดือนมีนาคม
แต่น่าจะถูกชดเชยด้วยอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางจำนวนมาก
กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ฟื้นตัวเร็วกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับโลก
อุปสงค์ที่ถูกกักไว้ กำลังอยู่ในการนำเข้า ซึ่งจะบดบังการฟื้นตัวของการส่งออก และทำให้การขาดดุลการค้าโดยรวมสูงขึ้น
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงเหลือที่ร้านค้าปลีก ถูกดึงลงในเดือนมีนาคม ตอกย้ำความต้องการภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
'การขาดดุลสินค้าที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า การค้าจะฉุด จีดีพี ไตรมาสแรก' ไรอัน สวีท นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ มู๊ดดี้ส์ อนาลิติคส์ กล่าว
'นี่ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เนื่องจากส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ ยังคงไปได้ดี เช่น การลงทุนทางธุรกิจในอุปกรณ์ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค'
การขาดดุลการค้าสินค้า เพิ่มขึ้น 4.0% เป็น 90.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
การส่งออกสินค้า เร่งตัวขึ้น 8.7% เป็น 142.0 พันล้านดอลลาร์
โดยได้รับแรงหนุนจากการขนส่งยานยนต์ อุปกรณ์อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และทุน และอาหาร
การส่งออกที่เพิ่มขึ้นนี้ ถูกชดเชยด้วยการนำเข้าล่วงหน้า 6.8% เป็น 232.6 พันล้านดอลลาร์
การนำเข้าเพิ่มขึ้นในวงกว้าง มีการนำเข้ายานยนต์ อุปกรณ์อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหาร เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การนำเข้าสินค้าทุน ยังเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
ความต้องการ ในช่วงที่เกิดการระบาด เปลี่ยนไปเป็นสินค้า จากบริการ โดยชาวอเมริกันต้องพึ่งพาอาศัยกันที่บ้าน
การบริโภคได้รับแรงหนุน จากมาตรการกระตุ้นทางการคลัง รวมถึงชุดความช่วยเหลือ การระบาดโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว
การส่งเช็ค 1,400 เหรียญ ไปยังครัวเรือน ขยายเงินช่วยเหลือการว่างงาน 300 เหรียญ ไปจนถึงเดือนกันยายน
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การขาดดุลการค้าสินค้า จะยังคงมีอยู่มากอย่างน้อย ไปจนถึงสิ้นปี โดยความต้องการกลับไปใช้บริการ เช่น การเดินทางทางอากาศ และการรับประทานอาหารนอกบ้าน หลังจากการขยายโครงการฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกัน ที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน
'การขาดดุลสินค้า จะเริ่มลดลงในปลายปี 2022 และในปี 2022' บิล อดัมส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของพีเอ็นซีไฟแนนเชียล ในพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนียกล่าว
"ในขณะที่การแพร่ระบาด อยู่ภายใต้การควบคุมในสหรัฐฯ ผู้บริโภคชาวอเมริกัน จะใช้จ่ายกับสินค้านำเข้าน้อยลง การนำเข้าที่หดตัว และชาวต่างชาติจะซื้อสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของพวกเขาฟื้นตัวต่อไป"
https://www.reuters.com/article/us-usa-economy-idINKBN2CF1Y8