สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อัตราเป็นแล้วตาย 100 : 2 ไม่กลัว
อัตราติดแล้วปอดจะอักเสบ 100 : 30 ไม่กลัว
อัตราเป็นแล้วป่วยระดับวิกฤติ ต้องเข้าไอซียู 100 : 5 ไม่กลัว
ไปกลัวอัตราแพ้วัคซีน 1 : 200000
ใครไม่ฉีดหรือจะรอยี่ห้อดีๆก็ขอให้รักษาตัวเองให้ดีๆแล้ว ด้วยความเป็นห่วง
ส่วนวัคซีนไม่ต้องกังวลว่าจะเหลือ ยังไงก็ต้องการอีกเยอะ เผลอๆต้องฉีดเข็ม 3 กระตุ้นอีก หรือกว่าจะส่งมอบครบ ก็ได้เวลาฉีดอีกปีหน้าพอดี
อัตราติดแล้วปอดจะอักเสบ 100 : 30 ไม่กลัว
อัตราเป็นแล้วป่วยระดับวิกฤติ ต้องเข้าไอซียู 100 : 5 ไม่กลัว
ไปกลัวอัตราแพ้วัคซีน 1 : 200000
ใครไม่ฉีดหรือจะรอยี่ห้อดีๆก็ขอให้รักษาตัวเองให้ดีๆแล้ว ด้วยความเป็นห่วง
ส่วนวัคซีนไม่ต้องกังวลว่าจะเหลือ ยังไงก็ต้องการอีกเยอะ เผลอๆต้องฉีดเข็ม 3 กระตุ้นอีก หรือกว่าจะส่งมอบครบ ก็ได้เวลาฉีดอีกปีหน้าพอดี
สมาชิกหมายเลข 2964456 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 707102 ถูกใจ, Ultramao ถูกใจ, อสูรเทพวายุ ถูกใจ, KIRKTheCaptain ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3175691 ถูกใจ, remy&chanel ถูกใจ, kittima235 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6088413 ถูกใจ, ToR_GerRarD ถูกใจ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เศรษฐกิจ
โรคติดต่อ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
หมอพร้อม” ดีเดย์ 1 พ.ค.นี้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนกลุ่มแรก 16 ล้านคน
วันที่ 28 เมษายน 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมกันแถลงข่าวลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด19 สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ผ่าน Line Official Account “หมอพร้อม”
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันคนไทยทั้งประเทศจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด19 อย่างทั่วถึงทุกคน เพื่อควบคุมโรค สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยในระยะแรก มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 3.8 ล้านคน ปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงขณะนี้ฉีดครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด รวมกว่า 1.2 ล้านโดส มีผู้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วกว่า 1 ล้านคน และรับวัคซีนครบ 2 เข็มอีกกว่า 2 แสนคน
สำหรับระยะที่ 2 จะมีวัคซีนล็อตใหญ่ของแอสตร้าเซนเนก้า และเริ่มให้บริการฉีดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 โดยเริ่มฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 11.7 ล้านคนและผู้ที่มีโรคประจำตัว7 กลุ่มโรคจำนวน 4.3 ล้านคน ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคอ้วนรวมทั้ง 2 กลุ่ม “16 ล้านคน 16 ล้านโดส”เพื่อลดความรุนแรงของโรคในกลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตสูง
โดยจะเปิดให้ทั้ง 2 กลุ่มนี้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์รับวัคซีนโควิด 19 เพื่อจัดลำดับนัดหมาย ผ่านไลน์หมอพร้อมเวอร์ชัน 2 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 หรือติดต่อนัดหมายที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)/อสม.ในพื้นที่ เริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 31 กรกฎาคมนี้สำหรับระยะที่3 จะฉีดให้ประชาชนที่มีอายุ 18-59 ปี จำนวน 31 ล้านคนเพื่อฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ ลงทะเบียนนัดหมายรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และเริ่มฉีดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
“ขอให้มั่นใจรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ฉีดให้คนไทยทุกคน ภายในปี2564 นี้ ซึ่งจะช่วยเสริมการป้องกันควบคุมโรคให้มีประสิทธิภาพ และช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดการเสียชีวิต” นายสาธิตกล่าว
https://www.banmuang.co.th/mobile/news/politic/232125