ICU จะเต็มแล้ว ต้นเดือนหน้า คงจะเกลี้ยง อัตราการตายพุ่งสูงขึ้นแน่ๆ ไม่ใช่ตายจากโควิดอย่างเดียว แต่ตายจากทุกโรคที่ต้องเข้า ICU med นั่นหละ        ที่ประกาศว่ามีเตียงๆ ทุกคนก็มีเตียงทั้งนั้นหละ ไม่ใช่ยากไร้เสื่อผื่นหมอนใบนิ ดังนั้นทุกคนต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อย่าไปเจ็บป่วยเด็ดขาด เหล้า หรือพฤติกรรมเสี่ยงเจ็บป่วยอุบัติเหตุ เลิกหมด ไม่จำเป็นขั้นคอขาดบาดตายก็อยู่บ้านเถอะ  เพราะเจ็บป่วยโรคอะไรก็ตามต้องเข้า ICU ขึ้นมา จะไม่มีให้เข้านา    ที่ทำงานไหน work from home ได้ก็ทำไป ถ้าเจ้านายให้มาทำงานก็ฟ้องเจ้านายข้อหาวางแผนฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
            ที่อินเดียน่าสงสารมาก ชาวบ้านปล้นออกซิเจนกัน ผู้ป่วยตายเป็นเบือ ญาติต้องหาฟืนมาเผาศพเอง อินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก วัคซีนแอสตร้าที่มีในอาเซียน รวมถึง แคนาดา และอีกหลายประเทศ ก็มาจากอินเดียนี่ละ 
            อินเดียยังผลิต Covaxin อันนี้ อินเดียทำเอง เป็นวัคซีนเชื้อตาย โดยรวม อินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ แล้วอินเดียก็ฉีดวัคซีนไปร้อยกว่าล้านโดส ครอบคลุมประชากรร้อยละ 8.47 แต่ก็ยังไม่วายพบกับหายนะ
            ในขณะที่ไทยฉีดวัคซีนไปร้อยละ 1.36 ลาวร้อยละ 1.46  พม่าร้อยละ 1.84 มาเลเซียร้อยละ 2.38 เขมรร้อยละ 7.74   ดังนั้นประเทศรอบข้างไทย  ไทยฉีดได้น้อยที่สุด แล้วก็เพิ่งจะมาติดต่อรัสเซีย กับ ไฟเซอร์ ทั้งที่รัสเซียเขายินดีจะหาให้  สมัยก่อนส่งเสบียงล่าช้า หัวต้องไปตั้งอยู่บนกำแพง แต่สมัยนี้ เอาหัวมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่คงต้องเปลี่ยน รมต รมตช ปลัด อธิบดี มหาดไทย สาธารณสุข ต่างประเทศ ตอนนี้เกือบเดือนแล้ว หนึ่งเดือนคุมการระบาดไม่ได้ สมควรต้องเปลี่ยน แล้วถ้าคนใหม่มายังคุมการระบาดไม่ได้ ครบหนึ่งเดือนก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่คงต้องเปลี่ยนบ้างไรบ้าง เพื่อให้สดใหม่ 
             เมื่อ  ICU และ sub ICU เต็มแล้ว ต่อไปยาก็คงขาด แต่จขกท.หวังว่า  ออกซิเจน จะไม่ขาดแคลนอย่างอินเดีย อย่างน้อยก็มี ออกซิเจน และ น้ำเกลือ ก็คงพอปลอบใจให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ อย่างน้อยก็มีอะไรให้เขาบ้าง ไม่ใช่มีแต่เตียง