JJNY : 4in1 1วัน1แสน!│กก.แถลงข้อเสนอรับมือโควิด│หมอแล็บเศร้าช่วยหารพ.ไม่ทัน ดับอีก│ยกเลิกหนังสือรับรองต่างชาติจากอินเดีย

1 วัน 1 แสน! คนร่วมลงชื่อจี้ ‘อนุทิน’ พ้น รมว.สธ.เหลวแก้ปัญหาโควิด 
https://www.isranews.org/article/isranews/97922-isranews-news-51.html
 
  
แห่ลงชื่อจี้ 'อนุทิน' พ้นรมว.สาธารณสุข จากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาโควิดระบาด  ในเว็บไซต์ Change.org โดยหมอไม่ทน 
ล่าสุด 18.50 น. วันที่ 25 เม.ย.2564 หรือเพียง 1 วันหลังจากที่มีการสร้างแคมเปญดังกล่าว มีผู้ลงชื่อแล้ว 100,000 คน

 
.................................
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2564 เว็บไซต์ Change.org โดยหมอไม่ทน ได้สร้างแคมเปญเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลาออก เนื่องจากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด 
 
ภายในเว็บไซต์ระบุว่า กว่า 1 ปีเต็มที่ผ่านมาของการระบาดโควิด เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า นายอนุทิน ไม่มีความสามารถมากพอในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของโควิด ทั้งเรื่องการวางนโยบาย การัดการทรัพยากร การจัดหาวัคซีน และการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรการแพทย์
 
นอกเหนือไปกว่านั้น หลายครั้งบทสัมภาษณ์จากนายอนุทิน ยังทำให้เห็นชัดเจนว่าไม่มีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมในการทำงานควบคุมกระทรวงที่เป็นกระทรวงหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดที่ไม่สามารถควบคุมได้
 
เริ่มต้นตั้งแต่ที่พูดว่า เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา หรือเมื่อบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อ กล่าวว่า แพทย์ไม่ระวังตัวเองจนติดโควิด ไม่ได้ติดจากงาน แบบนี้ต้องหวดกัน และบทสัมภาษณ์อีกมากมาย ที่ประชาชนได้รับทราบกัน
 
จากความล้มเหลวทั้งหมดนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า ไม่อาจจะให้เวลาอันมีค่า หมดสิ้นไปกับการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพไม่มากพอได้ จึงขอเรียกร้องให้  นายอนุทิน ลาออก และให้ผู้ที่มีความสามารถ ความเหมาะสมเข้ารับตำแหน่ง ในช่วงที่ประเทษกำลังตกอยู่ในความวิกฤตนี้
 
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 21.52น. วันที่ 24 เม.ย.2564 มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 23,449 คนแล้ว
 
ล่าสุด เวลา 08.30 น. วันที่ 25 เม.ย.2564 มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 43,245 คน เหลืออีก 6,755 คน จะครบ 50,000 คน ตามที่มีการตั้งเป้าหมายไว้
 
โดยในช่วงเวลาแค่ 2 ชั่วโมง มีคนมาร่วมลงชื่อกว่า 4 หมื่นคน 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 25 เม.ย.2564 หรือเพียง 1 วันหลังจากที่มีการสร้างแคมเปญดังกล่าว มีผู้ลงชื่อแล้ว 100,000 คน
 

 
ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ข้อเสนอรับมือโควิด-19 ระลอก 3 
https://www.matichon.co.th/politics/news_2689962
 
ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ข้อเสนอรับมือโควิด-19 ระลอก 3
 
ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ หลังรบ.จัดการโควิดล้มเหลว ซ้ำซาก ทำระบาดระลอก3 เรียกร้อง”อนุทิน” มีมโนสำนึกลาออกรับผิดชอบ แนะใช้ Rapid Test ปูพรมคัดกรองผู้ติดเชื้อ หนุน Home Isolation พร้อมยกระดับมาตรการควบคุมคู่เยียวยาปชช.
 
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลออกแถลงข้อเสนอรับมือถือสถานการณ์โควิด 19 ระลอก 3 โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่เดือนมกราคม  2563 ที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย จนถึงปัจจุบัน เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ขึ้นสามระลอก สะท้อนว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย บังคับใช้กฎหมายเลือกปฏิบัติ จนการระบาดของโรคโควิด-19 ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เวลาผ่านมากว่า 1 ปี แทนที่รัฐบาลจะเร่งตระเตรียมความพร้อมด้านต่างๆรับมือกับการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้น แต่กลับดูเบาต่อสถานการณ์ ละเลยต่อหน้าที่ จนเกิดความบกพร่องร้ายแรงในแทบทุกมิติ เมื่อการระบาดเกิดขึ้น แทนที่รัฐบาลจะเป็นที่พึ่งของประชาชน กลับเป็นตัวปัญหาที่คอยซ้ำเติมให้ประชาชนตกระกำลำบาก ทุกข์ยาก และรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น
 
สถานการณ์การระบาดที่พบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์จะทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถ พยายามเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์เฉพาะหน้าอย่างสุดกำลัง แต่ด้วยความบกพร่องในการบริหารจัดการของรัฐบาล ที่ละเลยในการเตรียมการล่วงหน้า เพิกเฉยต่อข้อเสนอของบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่หน้างานทำให้ระบบสาธารณสุขที่มีอยู่ ไม่สามารถรองรับกับสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลเฉพาะกิจ (Hospitel) และโรงพยาบาลสนาม กำลังทยอยถูกใช้จนหมดลงไปเรื่อยๆ
 
หากไม่มีการดำเนินการอะไรที่เป็นรูปธรรม บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักเกินกำลังเพื่อรับมือกับผู้ป่วย กำลังอ่อนล้าลงไปทุกที ระบบสาธารณสุขที่มีอยู่ก็จะเข้าสู่สภาวะล้มเหลว ไม่สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างทวีคูณได้ จนอาจเกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนเป็นจำนวนมาก เศรษฐกิจของประเทศพังพินาศล่มสลาย ยากแก่การฟื้นฟู พรรคก้าวไกล จึงขอเสนอแนะ และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการโดยมีเป้าหมายเพื่อประคองระบบสาธารณสุขให้สามารถรองรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา และควบคุมการแพร่ระบาด
  
1. กำหนดมาตรการเพื่อลดกิจกรรมทางสังคม และลดการเคลื่อนย้ายของประชาชน ในแต่ละจังหวัด โดยมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน ซึ่งพิจารณาจากทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนเตียงผู้ป่วย และจำนวนเตียงผู้ป่วยหนัก (ICU) ควบคู่กัน โดยมีเป้าหมายลดจำนวนการเพิ่มของผู้ติดเชื้อรายใหม่ อย่างมียุทธศาสตร์ โดยผ่อนปรนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จำเป็น ให้ยังคงสามารถหล่อเลี้ยงการบริโภคของประชาชนได้ อาทิ ปิดให้บริการในสถานที่มีโอกาสที่จะมีผู้คนมาพบปะกันหนาแน่น สัมผัสใกล้ชิด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น โรงภาพยนตร์ สถานที่ออกกำลังกาย สนามแข่งขันกีฬา ลานกิจกรรม สถานที่จัดเลี้ยง ฯลฯ
 
สำหรับสถานประกอบการ ร้านค้า ที่มีความจำเป็นต่อการบริโภคของประชาชน กำหนดให้มีมาตรการจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาภายในร้าน สำหรับร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ ไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้ามานั่งรับประทานภายในร้าน สำหรับร้านอาหารที่มีสภาพเปิดโล่ง ให้จำกัดจำนวนลูกค้าในอัตราส่วนลูกค้า 1 ท่านต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตร สำหรับร้านค้าทั่วไปให้จำกัดจำนวนลูกค้าในอัตรา 1 ท่านต่อพื้นที่ 2 ตารางเมตร โดยให้ดำเนินมาตรการดังกล่าวเบื้องต้น 14-21 วัน แล้วค่อยๆ ทยอยผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ในจังหวัดที่สามารถฟื้นคืนจำนวนเตียงผู้ป่วยผู้ป่วยหนัก (ICU) ได้ในระดับที่พึงพอใจ
 
2. กำหนดมาตรการที่ให้ประชาชนเข้าถึง Rapid Anitgen Test ได้อย่างทั่วถึง เพื่อทำการตรวจคัดกรองแบบปูพรมค้นหาผู้ติดเชื้อ ลดอัตราการเสียชีวิต และลดความตื่นตระหนกของประชาชนลง โดยผ่อนคลายเงื่อนไขในการตรวจโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายลง หากพบว่าตนเองมีอาการที่ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ควรได้รับการตรวจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีการกระจายจุดตรวจที่ครอบคลุม รวมทั้งอนุญาตให้ประชาชนสามารถตรวจตนเองได้ โดยมีคู่มือ แนะนำวิธีการตรวจอย่างละเอียด ประชาชนที่สงสัยว่าตนเองมีอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 สามารถละทะเบียนขอรับชุดตรวจได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถซื้อชุดตรวจ Rapid Antigen Test ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ได้ด้วยตนเอง ตามร้านขายยามาตรฐานทั่วไป มีระบบที่ให้ประชาชนบันทึกแจ้งผลตรวจผ่านแอปพลิเคชั่น มีข้อแนะนำในการปฏิบัติตนที่ชัดเจน หลังจากที่ทราบผลตรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลตรวจที่เป็นบวก จะต้องมีกระบวนการที่นำผู้ที่พบผลตรวจเป็นบวก มาเข้ารับการตรวจวินิจฉัยยืนยันที่โรงพยาบาล ในพื้นที่ที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะ โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ
 
นอกจากนี้ ต้องเร่งปรับปรุงระบบในการจัดสรรเตียงให้กับผู้ป่วย ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีจำนวนเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ได้อย่างเพียงพอ โดยใช้มาตรการกักตัวรักษาตัวเอง (Home Isolation) สำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการ มีอายุไม่เกิน 40 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว และมีสถานที่สำหรับแยกตัวทีบ้าน โดยมีระบบในการสื่อสารกับผู้ติดเชื้อ มีระบบในการรับผู้ติดเชื้อส่งโรงพยาบาล ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการแย่ลง เพื่อคืนเตียงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการ รวมทั้งปรับปรุงสายด่วน 1668 เพิ่มศักยภาพโดยให้เอกชนเข้ามาช่วยดำเนินการบริการ Call Center ประกาศรายชื่อโรงพยาบาลที่ยังรองรับผู้ป่วยใหม่ได้ให้ประชาชนทราบ จัดหารถรับส่งผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่มีความเสี่ยงให้สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้โดยไม่แพร่เชื้อ
  
3. มาตรการการเยียวยาให้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 50 ล้านคน แบบถ้วนหน้า คนละ 2,000-3,000 บาท ภายใต้วงเงิน  100,000-150,000 ล้านบาท ที่โยกมาจากงบฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ยังเหลือวงเงินอยู่ถึง 220,000 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์สำคัญของการเยียวยา นอกจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังเป็นมาตรการที่ยังทำให้ประชาชนมีกำลังใจ และพร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมการระบาดใดๆ ที่รัฐบาลกำหนดขึ้น
  
พรรคก้าวไกล ขอยืนยันว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บกพร่องต่อหน้าที่ ล้มเหลวมากพอแล้ว ประชาชนไม่อาจแบกรับกับหายนะ ที่รัฐบาลนี้ก่อขึ้นได้ จึงขอเรียกร้องให้นายอนุทิน มีมโนสำนึกในความผิดของตนที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้กับประชาชนได้แล้ว ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทันที และขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาข้อเสนอแนะข้างต้น ของพรรคก้าวไกล และนำไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเร็วที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่